เกิดเหตุม็อบคนงานชาวปากีสถานจับผู้จัดการโรงงานชาวศรีลังกามาซ้อมทรมาน ก่อนจุดไฟเผาร่างทิ้งอย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากโกรธแค้นที่ “ดูหมิ่นศาสนา” (blasphemy) ขณะที่นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ออกมาประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าสร้างความอับอายขายหน้าให้ประเทศชาติ
เหตุประชาทัณฑ์สยองครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงงานแห่งหนึ่งในเมืองซีอัลค็อต (Sialkot) ทางตะวันออกของปากีสถาน โดยตำรวจซึ่งไม่ประสงค์ออกนามให้ข้อมูลว่า พนักงานสอบสวนเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุโกรธแค้นที่ผู้จัดการไปดึงโปสเตอร์ที่มีข้อความจากพระคัมภีร์อัลกุรอานทิ้ง
“ผู้จัดการรายนี้ถูกพวกคนงานรุมทำร้าย” ฮัสซัน คาวาร์ โฆษกฝ่ายบริหารประจำแคว้นปัญจาบระบุ “ผู้ก่อเหตุ 50 คนถูกตำรวจควบคุมตัวแล้ว”
นายกรัฐมนตรีข่าน ออกมาประณามการใช้ระบบศาลเตี้ย และประกาศจะคุมการสอบสวนคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมย้ำว่าจะนำตัวคนผิดทั้งหมดมาลงโทษ
“การโจมตีซึ่งเกิดขึ้นที่โรงงานในซีอัลค็อต และการจับผู้จัดการโรงงานชาวศรีลังกามาเผาทั้งเป็น ถือเป็นวันที่น่าอับอายของปากีสถาน” ข่าน ทวีตข้อความ
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยภาพม็อบคนงานหลายร้อยคนไปรวมตัวกันบนถนนในเมืองซีอัลค็อต ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเขตอุตสาหกรรมและการส่งออกของปากีสถาน
ทางด้านกองทัพปากีสถานได้ออกคำแถลงประณาม “การฆ่าคนอย่างเลือดเย็น” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเหตุรุนแรงครั้งนี้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทุกภาคส่วนการเมือง
“การฆ่าคนโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” ฝ่ายประชาสัมพันธ์กองทัพระบุ พร้อมเผยว่า เสนาธิการทหารบก (chief of the army staff) มีคำสั่งให้กองทัพสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล เพื่อนำตัวผู้กระผิดทั้งหมดมาลงโทษ
ด้านโฆษกตำรวจแคว้นปัญจาบระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยมากกว่า 100 คน รวมถึงตัวการหลักซึ่งปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอขณะกำลังซ้อมทรมานผู้จัดการชาวศรีลังกา และยั่วยุให้คนงานรุมทำร้ายเขา
การดูหมิ่นศาสนาอิสลามถือเป็นความผิดร้ายแรงที่มีโทษถึงประหารชีวิตในปากีสถาน และเหตุรุมประชาทัณฑ์ด้วยข้อกล่าวหาลักษณะนี้ก็เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ
ที่มา : รอยเตอร์