xs
xsm
sm
md
lg

ไปทั่ว! “โอมิครอน”โผล่อเมริกา-เกาหลีใต้ ขณะยอดติดเชื้อแอฟริกาใต้พุ่งก้าวกระโดด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พวกลูกเรือของสายการบินที่สวมชุดป้องกันเชื้อโรค เดินผ่านพื้นที่ผู้โดยสารขาเข้า ณ ท่าอากาศยานลอสแองเจลิส ในเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (30 พ.ย.) ขณะที่ในวันพุธ (1 ธ.ค.) สหรัฐฯยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ “โอมิครอน” เป็นรายแรก ซึ่งเป็นผู้พำนักในแคลิฟอร์เนียที่เดินทางกลับจากแอฟริกาใต้
“โอมิครอน” เจาะเข้าอเมริกา และโสมขาว ขณะที่แอฟริกาใต้เผยตัวกลายพันธุ์นี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศในเวลาไม่ถึง 4 สัปดาห์นับจากพบครั้งแรก ด้าน WHO เตือนการเร่งรัดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในหมู่ประเทศรวย แต่กลับปล่อยให้ประชากรโลกส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีนเลย จะส่งผลให้ไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ต่อไปเรื่อยๆ

สหรัฐฯแถลงยืนยันพบผู้ติดโควิดสายพันธุ์โอมิครอนคนแรกในประเทศ บุคคลผู้นี้ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เป็นผู้ที่พำนักอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เพิ่งเดินทางกลับจากแอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนและมีผลตรวจเป็นบวกหลังจากนั้น 7 วัน

น.พ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านโรคติดเชื้อของอเมริกา แถลงข่าวจากทำเนียบขาวในวันพุธ (1 ธ.ค.) ว่า ผู้ติดเชื้อดังกล่าวมีอาการเพียงเล็กน้อยและกักตัวอยู่ที่บ้าน

ฟาวซีเสริมว่า อาจใช้เวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไปจึงจะมีข้อมูลเชิงลึกว่า โอมิครอนระบาดง่ายเพียงใด รุนแรงแค่ไหน และสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่มีใช้กันอยู่ในขณะนี้ได้หรือไม่

กระนั้น เขาบอกว่าจากแบบแผนการแสดงออกของโมเลกุลนี้บ่งชี้ว่า ไวรัสตัวกลายพันธุ์ชนิดนี้อาจระบาดติดต่อได้ง่ายขึ้น รวมทั้งอาจจะสามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของวัคซีนได้เป็นบางส่วน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์ที่ประสิทธิภาพในการป้องกันของวัคซีนอาจลดลง

นอกจากนั้น เขาแนะนำให้กลุ่มวัยผู้ใหญ่ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เข้ารับการฉีดเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ได้มากที่สุด

ขณะเดียวกัน รอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงจดหมายของศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ว่าช่วงคืนวันอังคาร (30 พ.ย.) สายการบินในอเมริกาได้รับแจ้งให้ส่งรายชื่อผู้โดยสารที่เดินทางมาจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกาที่มีการระบาดของโอมิครอนให้ทางการ

แหล่งข่าวยังเผยว่า อเมริกาอาจกำหนดให้นักเดินทางต้องสวมหน้ากากโดยอาจประกาศอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสฯ (2) และบังคับใช้จนถึงกลางเดือนมีนาคม

ปัจจุบัน ยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาตัวกลายพันธุ์ล่าสุดนี้ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล และพบในกว่า 20 ประเทศแล้ว ซึ่งรวมถึงสเปน แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย โปรตุเกส

ในวันพฤหัสฯ สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ (เคดีซีเอ) รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 5,266 คนในวันพุธ หลังจากยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งทะลุ 5,000 คนเป็นครั้งแรกในวันอังคาร ท่ามกลางความวิตกว่า จำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงก็พุ่งขึ้นพรวดพราดเช่นเดียวกัน

เคซีดีซีเสริมว่า เกาหลีใต้จะบังคับให้นักเดินทางจากต่างประเทศทุกคนต้องกักตัวนาน 10 วันเริ่มจากวันศุกร์ (3) และบังคับใช้ต่อเนื่องนาน 2 สัปดาห์ จากก่อนหน้านี้ที่อนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสไม่ต้องกักตัว

เกาหลีใต้ยังเพิ่มไนจีเรียในรายชื่อประเทศที่ถูกจำกัดการเดินทางจากเดิมที่มี 8 ประเทศที่รวมถึงแอฟริกาใต้ และระงับเที่ยวบินตรงจากเอธิโอเปียตั้งแต่วันเสาร์ (4)

คำสั่งนี้มีขึ้นหลังจากเกาหลีใต้ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนครั้งแรก 5 คนรวดเมื่อคืนวันพุธ ซึ่งรวมถึงสามี-ภรรยาคู่หนึ่งที่ฉีดวัคซีนครบแล้วและเดินทางมาจากไนจีเรียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้คนนั่งรอคิวเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใกล้ๆ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ของแอฟริกาใต้ เมื่อวันพุธ (1 ธ.ค.) บรรดาแพทย์ในแอฟริกาใต้บอกว่า เคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ “โอมิครอน” ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แทบทั้งหมดมีอาการป่วยไม่รุนแรง
ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นจุดที่รายงานการพบตัวกลายพันธุ์โอมิครอนอย่างเป็นทางการครั้งแรก สถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของแอฟริกาใต้ (เอ็นไอซีดี) เปิดเผยว่า ข้อมูลระบาดวิทยาเบื้องต้นบ่งชี้ว่า โอมิครอนสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันบางส่วนได้ กระนั้น วัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่ขณะนี้น่าจะยังป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้

เอ็นไอซีดีเสริมว่า จากตัวอย่างพันธุกรรมของไวรัสที่ตรวจวิเคราะห์ทั้งหมดเมื่อเดือนที่แล้วพบว่า 74% เป็นโอมิครอน ซึ่งพบครั้งแรกในตัวอย่างที่เก็บเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนในจังหวัดกัวเต็ง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในแอฟริกาใต้ และจำนวนเคสใหม่ในวันพุธเพิ่มขึ้นจากวันอังคารถึงสองเท่า

มิเชล กรูม จากเอ็นไอซีดีแจงว่า โอมิครอนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากยอดเฉลี่ยประจำสัปดาห์วันละราว 300 คน เป็นวันละ 1,000 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และล่าสุดคือ 3,500 คน

ดรามาวัคซีน

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป แถลงในวันพุธว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจได้และก็เหมาะสมด้วยที่จะหารือเกี่ยวกับวิธีส่งเสริมและพิจารณาการบังคับฉีดวัคซีนในอียู และเสริมว่า การฉีดวัคซีนให้ครบโดสรวมทั้งฉีดเข็มกระตุ้น ถือเป็นมาตรการป้องกันอย่างดีที่สุดที่เป็นไปได้ โดยอียูประกาศเริ่มฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5-11 ปีตั้งแต่วันที่ 13 ที่จะถึง หรือเร็วกว่ากำหนดเดิม 1 สัปดาห์

ทางอังกฤษและอเมริกาต่างขยายโครงการฉีดวัคซีนกระตุ้นเพื่อรับมือโอมิครอนเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ดี ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO วิจารณ์ประเทศพัฒนาแล้วที่เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้วัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ประชากรกลุ่มเสี่ยงในพวกประเทศยากจน กลับยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย

ทั้งนี้ WHO ย้ำเตือนมาหลายครั้งว่า ไวรัสโคโรนาจะไม่หยุดการกลายพันธุ์ตราบที่ประชากรโลกจำนวนมากยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

แบ่งแยกเชื้อชาติสีผิวด้านการเดินทาง

องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า นับจากวันที่ 28 เดือนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มี 56 ประเทศที่บังคับใช้มาตรการควบคุมการเดินทางในลักษณะต่างๆ โดยหวังป้องกันไม่ให้ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนระบาดไปถึงพวกเขา

อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ วิจารณ์มาตรการดังกล่าวว่า ไม่ต่างอะไรกับ “การแบ่งแยกเชื้อชาติสีผิวในเรื่องการเดินทางของผู้คน”

ขณะที่ WHO เตือนว่า การแบนการเดินทางแบบเหวี่ยงแหเช่นนี้ ไม่ได้ช่วยป้องกันการระบาดข้ามพรมแดนของโอมิครอน แต่เพิ่มภาระหนักในการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชนในประเทศที่ถูกแบน โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำให้กลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้มีสุขภาพอ่อนแอหรือคนอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน งดเว้นการเดินทางในขณะนี้แทน

เสียงวิจารณ์เช่นนี้ดูจะมีผลอยู่บ้าง โดยเมื่อวันพฤหัสฯ ฮิโรคาสึ มัตสึโน โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงเปลี่ยนแปลงบางส่วนของมาตรการควบคุมการเดินทางที่ถูกตำหนิว่าเป็นแบบเหวี่ยงแห กล่าวคือจากที่เมื่อวันพุธ ทางการญี่ปุ่นขอให้สายการบินทั้งหลายยกเลิกการจองตั๋วสำหรับเที่ยวบินจากต่างประเทศทั้งหมดเป็นเวลา 1 เดือน ล่าสุดในวันพฤหัสฯให้เปลี่ยนเป็นขอให้สายการบินอำนวยความสะดวกให้แก่พลเมืองญี่ปุ่นที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น