มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย หลังระเบิดจากอากาศยานเก่าเก็บตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดระเบิดตูมสนั่นบริเวณสะพานแห่งหนึ่งใกล้สถานีรถไฟหลักอันพลุกพล่านของเมืองมิวนิก เยอรมนีเมื่อวันพุธ (1 ธ.ค.) ตำรวจเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ ปรับเพิ่มจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเดิม 3 คน
หน่วยดับเพลิงของเมืองมิวนิกระบุว่า ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น มีอยู่ 1 รายอาการสาหัส
ระเบิดที่ยังทำงานมากกว่า 2,000 ตัน และกระสุนจำนวนมากถูกพบในเยอรมนีในแต่ละปี นานกว่า 70 ปีหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
ฝูงบินรบของอังกฤษและสหรัฐฯ ระดมทิ้งระเบิดราว 1.5 ล้านตัน ถล่มใส่ประเทศแห่งนี้ คร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 600,000 คน เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าในบรรดาระเบิดเหล่านั้นมีอยู่ 15% ที่ไม่ระเบิด บางส่วนฝังลึกลงไปใต้ดินกว่า 6 เมตร
ในเหตุการณ์ล่าสุด ตำรวจเผยว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีงานขุดเจาะเพื่อสร้างอุโมงค์ พร้อมยืนยันว่าได้มีการปิดกั้นพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว "บริเวณรอบนอกพื้นที่นี้ไม่มีอันตรายใดๆ" ตำรวจระบุ
พวกผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดถูกเรียกมายังบริเวณดังกล่าว เพื่อตรวจสอบซากระเบิด จากการเปิดเผยของหน่วยดับเพลิง
บริษัทเดินรถไฟด็อยท์เชอบาน ระบุว่า สืบเนื่องจากเหตุระเบิด ขบวนรถไฟทั้งขาเข้าและออกจากสถานีรถไฟหลักถูกระงับ และไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการเดินรถไฟจะกลับมาให้บริการได้อีกเมื่อไหร่
ระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกพบเป็นประจำระหว่างงานก่อสร้างในเยอรมนี แต่ส่วนใหญ่แล้วมักถูกปลดชนวนโดยพวกผู้เชี่ยวชาญหรือทำลายในการจุดชนวนแบบควบคุม อย่างไรก็ตาม ในอดีตเคยมีหลายกรณีเกิดระเบิดตูมสนั่นเข่นฆ่าชีวิตผู้คน
ผู้เชี่ยวชาญด้านเก็บกู้ระเบิดของตำรวจ 3 ราย ในเมืองเกิททิงเงิน เสียชีวิตในปี 2010 ระหว่างเตรียมการปลดชนวนระเบิด 450 กิโลกรัม และในปี 2014 คนงานก่อสร้างรายหนึ่งในเมืองออยส์เคียร์เชิน เสียชีวิตหลังจากพลั่วไฟฟ้าของเขาไปกระแทกเข้ากับระเบิดลูกหนึ่งน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม และในปี 1994 คนงานก่อสร้าง 3 คนในเบอร์ลิน ก็เสียชีวิตในอุบัติเหตุคล้ายกัน
ในปี 2012 ลูกบอลไฟขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเมืองมิวนิก ก่อความเสียหายแก่อาการ 17 หลัง คิดเป็นมูลค่าหลายล้านยูโร ในเหตุการณ์ที่พวกเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องระเบิดทำลายระเบิดเสื่อมสภาพลูกหนึ่งน้ำหนัก 226 กิโลกรัม ส่วนในปี 2015 แรงระเบิดของระเบิดเก่าเก็บน้ำหนัก 453 กิโลกรัม ก่อหลุมลึกกว่า 3 เมตร บนทางหลวงสายหนึ่งใกล้เมืองอ็อฟเฟินบัค ทางภาคกลางของเยอรมนี
(ที่มา : รอยเตอร์)