เอพี - เกิดอุบัติเหตุรถบัสนักท่องเที่ยวจากมาซิโดเนียเหนือชนราวเหล็กกั้นกลางถนนไฮเวย์และเกิดไฟไหม้ทั้งคันในช่วงบ่ายวันอังคาร(23 พ.ย) ในภาคตะวันตกของบัลแกเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 45 คนรวมเด็กๆ และบาดเจ็บอีก 7 คนเกิดขึ้นระหว่างรถทัวร์กำลังเดินทางกลับหลังจากไปท่องเที่ยวในเมืองอิสตันบูล ตุรกี
เอพีรายงานวันนี้(23 พ.ย)ว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาโดยอุบัติเหตุการชนครั้งร้ายแรงก่อนที่จะเกิดไฟไหม้ลุกทั้งคันเกิดขึ้นในเวลาราว 14.00 น. วันอังคาร(23) ตามเวลาท้องถิ่นทางภาคตะวันตกของบัลแกเรีย
หัวหน้าอัยการมาซิโดเนียเหนือ ลูโบมีร์ โจเวฟสกี(Lubomir Jovevski) เดินทางไปดูจุดที่เกิดเหตุด้วยตัวเองกล่าวว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่มีไม่ต่ำกว่า 45 รายรวมไปถึงเด็กอีก 12 คน
เอพีรายงานว่าสาเหตุการชนยังไม่เป็นที่ได้รับการยืนยันในเวลานี้แต่ดูเหมือนว่ารถบัสจะเกิดเสียหลักและพุ่งเข้าชนราวเหล็กกั้นถนนไฮเวย์และเกิดระเบิดขึ้นไฟเกิดลุกท่วมทั้งคัน
ทั้งนี้พบว่ารถบัสคันที่เกิดอุบัติเหตุเป็น 1 ใน 4 คันทั้งหมดที่เดินทางนำนักท่องเที่ยวจากมาซิโดเนียเหนือไปเยือนเมืองอิสตันบูล ตุรกี และอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างขากลับของการเดินทางเพื่อกลับไปยังมาซิโดเนียเหนือ
ภาพที่ถูกถ่ายหลังเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนราวกั้นเหล็กกลางถนนเป็นภาพรถบัสกำลังไฟไหม้ที่มีเปลวไฟแดงฉานส่งหมอกควันดำหนาพวยพุ่งออกมาจากที่เกิดเหตุ
รถบัสสีเหลืองเหลือแต่ซากกระจกหน้าต่างแตกทุกบานรวมกระจกหน้าของคนขับจอดสงบนิ่งอยู่ใกล้กับราวกั้นกลางถนน
ขณะที่รักษาการรัฐมนตรีมหาดไทยบัลแกเรีย บอยโก รัชคอฟ( Boyko Rashkov)แสดงความเห็นถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้กับกลุ่มนักข่าวระหว่างสำรวจความเสียหายที่จุดเกิดเหตุว่า ในชีวิตของเขาไม่เคยพบเห็นสิ่งที่น่าสยดสยองเช่นนี้มาก่อน
“ภาพช่างน่าสยดสยอง ผู้คนที่กำลังอยู่บนรถบัสถูกไหม้จนกลายเป็นตอตะโก” และกล่าวต่อว่า “มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะกล่าวว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด มีรถบัสทั้งหมด 4 คันของคณะที่เดินทางไปด้วยกัน และมีความเป็นไปได้ว่าผู้โดยสารอาจมีการเปลี่ยนรถระหว่างหยุดแวะพักจอด”
ทั้งนี้สื่อในมาซิโดเนียเหนือซึ่งมีพลเมืองจำนวนทั้งหมดราว 2 ล้านคนในภูมิภาคบอลข่านของยุโรปต่างรายงานว่า พบตำรวจกำลังอยู่ด้านนอกสำนักงานบริษัทท่องเที่ยวในกรุงสโกเปีย(Skopje)ที่เชื่อว่าเป็นผู้จัดทัวร์นำนักท่องเที่ยวไปตุรกีจนเกิดอุบัติเหตุ
ขณะที่สเตฟาร ยาเนฟ(Stefan Yanev) รักษาการนายกรัฐมนตรีบัลแกเรียที่เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเช่นกันแสดงความเห็นว่า เป็นโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่
“ผมขอใช้โอกาสนี้ส่งสารแสดงความเสียใจไปยังญาติของผู้เสียชีวิตเหล่านี้” ยาเนฟแถลงและเสริมต่อว่า “ขอให้หวังว่าพวกเราจะสามารถเรียนรู้บทเรียนจากอุบัติเหตุที่น่าเศร้าและพวกเราสามารถป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ได้ในอนาคต”
ส่วน โอลตา ฮัคกา(Olta Xhacka) รัฐมนตรีต่างประเทศอัลเบเนียโพสต์ทางออนไลน์ชี้ว่า เกือบจะทุกคนที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุมีเชื้อชาติอัลเบเนีย
ด้านนายกรัฐมนตรีมาซิโดเนียเหนือ โซราน ซาเยฟ(Zoran Zaev) ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บัลแกเรีย bTV ว่าเขาได้พูดคุยหนึ่งในเหยื่อรอดชีวิต
“หนึ่งในผู้โดยสารได้เปิดเผยกับผมว่า เขากำลังหลับและตื่นขึ้นมาเมื่อเกิดระเบิดขึ้น” พร้อมกับเสริมว่าในเวลานี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลสำคัญสำหรับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิต
และหลังจากนั้นซาเอฟได้เดินทางมายังบัลกาเรียเพื่อเยี่ยมกับเหยื่อรอดชีวิตที่อยู่ในโรงพยาบาล
ส่วนประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ออกมาแสดงความเสียใจผ่านไปยังครอบครัวและเพื่อนของผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถบัสครั้งร้ายแรง และชี้ว่า “ในช่วงเวลาที่เลวร้ายเช่นนี้ ยุโรปขอยืนเคียงข้างกับพวกคุณ”
