เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และนาโต้ ในวันจันทร์ (22 พ.ย.) แสดงความมั่นใจว่าจะสามารถเก็บกู้ซากเครื่องบินล่องหนลำหนึ่งที่ประสบอุบ้ติเหตุดิ่งทะเล หลังเทกออฟขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินเอชเอ็มเอ ควีน เอลิซาเบธ ก่อนที่มันจะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของรัสเซีย
เรือบรรทุกเครื่องบินเอชเอ็มเอส ควีน เอลิซาเบธ ของสหราชอาณาจักร สูญเสียเครื่องบิน F-35B เมื่อวันพุธที่แล้ว (17 พ.ย.) แต่เคราะห์ดีนักบินดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย
มีความกังวลในพันธมิตรนาโต้ ว่า รัสเซียอาจพยายามเข้าถึงซากของเครื่องบินที่จมทะเลก่อนใคร เพื่อเจาะลึกล้วงข้อมูลเทคโนโลยีล้ำสมัยของเครื่องบินลำดังกล่าว "เราจะได้มันก่อน ผมสัญญากับคุณ" พลเรือจัตวาไซมอน โดแรน เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ บนเรือระบุ
"เราไม่กังวลทั้งหมดทั้งมวลเกี่ยวกับการเก็บกู้ซากของมัน" นายพลริม แรดฟอร์ด รองผู้บัญชาการสูงสุดของพันธมิตรนาโต้ประจำภาคพื้นยุโรป บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างอยู่บนเรือที่กำลังแล่นอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
"เราไม่กังวล เราเพราะว่าในตอนนี้เรากำลังดำเนินการในเรื่องนี้ แน่นอนว่ามีความกังวลตอนที่เครื่องบินตก แต่นักบินปลอดภัย ซึ่งมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด"
เขาและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ เกี่ยวกับความพยายามเก็บกู้ซากเครื่องบินลำดังกล่าว
ผู้การเรือสตีฟ มัวร์เฮาส์ ผู้บังคับการกองเรือโจมตีพันธมิตร 9 ลำที่นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินเอชเอ็มเอส ควีน เอลิซาเบธ เรียกความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน F-35B ว่าเป็น "เหตุการณ์ที่เคราะห์ร้ายอย่างยิ่ง"
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า "ความน่าเชื่อถือและความมั่นใจในเครื่องบินรุ่นนี้และโปรเจกต์นี้ไม่ได้ลดน้อยถอยลง"
จนถึงตอนนี้สหราชอาณาจักรได้รับมอบเครื่องบิน F-35B ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ มาแล้ว 21 ลำ ส่วนใหญ่ประจำการอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินทันสมัย 2 ลำ นั่นก็คือ เอชเอ็มเอส ควีน เอลิซาเบธ และเอชเอ็มเอสปรินซ์ ออฟ เวลส์
เครื่องบิน F-35B ถูกออกแบบมาให้ใช้ระยะทางในการเทกออฟสั้นๆ และลงจอดในแนวดิ่ง มีสนนราคาลำละ 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,000 ล้านบาท)
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เครื่องบิน F-35 ของกองทัพสหราชอาณาจักรได้ทะยานขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินควีน เอลิซาเบธ เพื่อปฏิบัติภารกิจโจมตีกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในภูมิภาคตะวันออกกลาง นับเป็นครั้งแรกที่กองทัพสหราชอาณาจักรได้ส่งเครื่องบินรบทะยานขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินเพื่อปฏิบัติภารกิจโจมตีในรอบสิบปี
(ที่มา : เอเอฟพี/เอเจนซี)