xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.กองกำลังอวกาศยอมรับ! เทคโนโลยี ‘ไฮเปอร์โซนิก’ อเมริกายังสู้ ‘จีน-รัสเซีย’ ไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพนิ่งจากคลิปวิดีโอการทดสอบขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิก ‘เซอร์คอน’ ซึ่งกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.
ผู้บัญชาการอาวุโสของกองกำลังอวกาศของสหรัฐฯ ออกมายอมรับว่าอเมริกากำลัง “พยายามที่จะไล่ตาม” เทคโนโลยีขีปนาวุธเร็วเหนือเสียง “ไฮเปอร์โซนิก” ของจีน เพียง 1 สัปดาห์หลังมีรายงานว่าปักกิ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ลูกหนึ่ง ซึ่งวนรอบโลกในวงโคจรระดับต่ำ ก่อนจะดิ่งลงสู่เป้าหมาย

พล.อ.อ. เดวิด ทอมป์สัน รองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการด้านอวกาศของกองกำลังอวกาศสหรัฐฯ กล่าวในเวทีเสวนาด้านความมั่นคงนานาชาติ Halifax International Security Forum เมื่อวันเสาร์ (20 พ.ย.) ว่า รัสเซียก็เพิ่งจะทดสอบยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกจากเรือรบที่มหาสมุทรอาร์กติกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า 2 มหาอำนาจซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีชนิดนี้จนสามารถ “แซงหน้า” อเมริกาไปได้อย่างรวดเร็ว

“เรายังไม่ก้าวหน้าเทียบเท่าจีนหรือรัสเซีย ในแง่ของโครงการไฮเปอร์โซนิก” ทอมป์สัน ยอมรับตรงๆ

ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียงเกินกว่า 5 เท่าขึ้นไป (Mach 5) หรือประมาณ 6,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และด้วยศักยภาพในการบินร่อน (glide) และเปลี่ยนทิศทางขณะอยู่บนบรรยากาศชั้นสูง และทำความเร็วสูงขนาดนั้น ทำให้การใช้ระบบเรดาร์ตรวจจับหรือทำลายแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

แม้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะให้ความสำคัญกับโครงการพัฒนาขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกรุ่นใหม่ๆ แต่กว่าจะมีขีปนาวุธประจำการรุ่นแรกก็คาดว่าจะต้องรอถึงปี 2024 ขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ตั้งเป้าประจำการขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกบนเรือพิฆาตภายในปี 2025 และติดตั้งบนเรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนียภายในปี 2028

ทอมป์สัน บอกกับเว็บไซต์ข่าว Politico ว่า กองกำลังอวกาศสหรัฐฯ กำลังหาวิธีพัฒนาเครือข่ายดาวเทียมที่จะสามารถติดตามขีปนาวุธประเภทนี้ได้

“มันคือความท้าทายรูปแบบใหม่ แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีคำตอบเสียทีเดียว เราแค่ต้องทำความเข้าใจ ออกแบบให้สมบูรณ์ และนำมันมาใช้งานจริง” ทอมป์สัน ระบุ

พล.ร.อ. จอห์น อาควิลิโน ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ชี้ว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนตั้งเป้ายกระดับศักยภาพกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนให้เทียบเท่าสหรัฐฯ ภายในปี 2027 และก้าวสู่ความเป็นผู้นำโลกภายในปี 2050 ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่โครงการพัฒนาอาวุธของปักกิ่งจะรุดหน้าไปเร็วถึงขนาดนี้

“การปรากฏขึ้นของศักยภาพเหล่านี้คือสิ่งที่เราควรคาดหมายอยู่แล้ว และผมคิดว่าระบบอาวุธของเราต้องได้รับการพัฒนาให้สามารถตอบสนองได้เร็วยิ่งกว่านี้” อาควิลิโน กล่าว

เดือนที่แล้ว กองทัพสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการทดสอบเครื่องยนต์สำหรับขับเคลื่อนขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิก และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19) สำนักงานป้องกันขีปนาวุธ (MDA) ก็เพิ่งมอบสัมปทานให้เรย์ธีออน, ล็อกฮีด มาร์ติน และ นอร์ทธรอป กรัมแมน แข่งกันพัฒนาขีปนาวุธสกัดกั้นรุ่นใหม่ที่จะสามารถยิงทำลายขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกที่พุ่งตรงมายังดินแดนสหรัฐฯ ได้

ที่มา: Politico
กำลังโหลดความคิดเห็น