แมนนี ปาเกียว อดีตนักมวยแชมป์โลกชาวฟิลิปปินส์ ประกาศจะไล่เบี้ยดำเนินคดีกับพวกนักการเมืองฉ้อโกงที่เป็น “อดีตพันธมิตร” ในรัฐบาลประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต หากว่าตนชนะศึกเลือกตั้งและได้เป็นผู้นำฟิลิปปินส์ในปีหน้า
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ CNN เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ปาเกียว ระบุว่าเขาตั้งใจที่จะผลักดันให้มีการสอบสวนพฤติกรรมทุจริตของเจ้าหน้าที่บางคนในรัฐบาล ดูเตอร์เต ซึ่งกำลังจะหมดวาระลง
“เจ้าหน้าที่ทุจริตพวกนั้นสมควรเข้าคุก... นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างเต็มที่ เพราะคนเหล่านี้คือมะเร็งที่กัดกินประเทศ และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา” เขากล่าว
ปาเกียว คาดหวังว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ค. ปีหน้าจะทำให้ตนเองสามารถก้าวขึ้นไปถึงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องสู้กับผู้สมัครที่เป็นเต็งหนึ่งอย่าง เฟอร์ดินานด์ “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายอดีตผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซึ่งถูกครหาว่าปล้นเงินประเทศชาติไปกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้ชาวฟิลิปปินส์หลายหมื่นคนตกเป็นเหยื่อการทรมานและคุมขังในช่วง 20 กว่าปีที่เขาครองอำนาจอยู่
ปาเกียว ให้สัญญาว่าจะทวงคืนทรัพย์สินของชาติที่ถูกตระกูล มาร์กอส ปล้นไป
“ผมไม่กลัว” ปาเกียว กล่าว “การจับคนที่ปล้นชาติเข้าคุกก็คือการต่อสู้ของผม เพื่อให้ประเทศของเราพัฒนาต่อไปได้ ผมอยากเห็นคนพวกนั้นติดคุก”
ซารา ดูเตอร์เต-คาร์ปิโอ บุตรสาวคนโตของดูเตอร์เต ได้ยื่นใบสมัครชิงรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คู่กับ มาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งถือเป็นการจับขั้วระหว่าง 2 ตระกูลนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดของแดนตากาล็อก
แม้จะถูกวิจารณ์ว่าทุ่มเทให้อาชีพนักมวยมากกว่างานในสภา ทว่าบทบาททางการเมืองของ ปาเกียว เริ่มโดดเด่นขึ้นในช่วงเวลา 5 ปีที่ ดูเตอร์เต เข้าบริหารประเทศ
ปาเกียว เคยเป็นแฟนคลับตัวยงของดูเตอร์เต และให้การสนับสนุนนโยบายซิกเนเจอร์ของผู้นำขาโหดไม่ว่าจะเป็นสงครามยาเสพติดหรือการรื้อฟื้นโทษประหารชีวิต ก่อนที่สายสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเริ่มไม่ราบรื่น เมื่อ ปาเกียว ออกมาวิจารณ์ ดูเตอร์เต ว่าทำตัวเป็นมิตรกับ “จีน” มากเกินไป รวมถึงตำหนิปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในรัฐบาล
ปาเกียว ประกาศจะเดินหน้าตรวจสอบนโยบายสงครามยาเสพติด ซึ่งทำให้ชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนถูกตำรวจวิสามัญฯ โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม
“ผมจะรับช่วงทำสงครามยาเสพติดในแนวทางที่ถูกต้อง คุณไม่จำเป็นต้องไปไล่ฆ่าพวกเขาตามท้องถนน เรามีกระบวนการยุติธรรมที่จะให้โอกาสพวกเขาได้แก้ต่าง และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง”
ที่มา: CNN