“ไบเดน”ลงนามในวันจันทร์ (15 พ.ย.) บังคับใช้กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นกฎหมายเพื่อการปรับปรุงยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่าสูงสุดของอเมริกาในช่วงเวลากว่าครึ่งศตวรรษ ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองที่มีทั้งสมาชิกเดโมแครตและรีพับลิกันพร้อมหน้าแบบที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
กฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายในการสร้างงานทั่วอเมริกา ด้วยการกระจายงบประมาณนับพันล้านหมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐและรัฐบาลท้องถิ่นต่างๆ นำไปใช้ในการซ่อมแซมสะพานและถนน เปลี่ยนระบบท่อน้ำประปา สร้างเครือข่ายชาร์จรถไฟฟ้า และขยายการเข้าถึงบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตสำหรับชาวอเมริกันนับล้านๆ ถือเป็นโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของภาครัฐ นับจากการสร้างเครือข่ายทางหลวงเมื่อช่วงทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา
พิธีลงนามเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายคราวนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่สนามหญ้าด้านใต้ ในทำเนียบขาว เป็นบรรยากาศที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักที่สมาชิกทั้งสองพรรคใหญ่มารวมตัวเพื่อฉลองความสำเร็จร่วมกัน แม้เห็นได้ชัดว่า มีสมาชิกรีพับลิกันแค่ไม่กี่คนก็ตาม
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่คะแนนนิยมกำลังตกต่ำโดยผลสำรวจล่าสุดของวอชิงตัน โพสต์-เอบีซีอยู่ที่แค่ 41% กล่าวว่า การผ่านกฎหมายฉบับนี้แสดงให้เห็นว่า แม้ถูกโจมตีถากถาง แต่เดโมแครตและรีพับลิกันสามารถร่วมมือกันสร้างผลงานได้
สำหรับสมาชิกรีพับลิกันที่อยู่ในพิธีลงนาม มีอาทิ วุฒิสมาชิกร็อบ พอร์ตแมน จากรัฐโอไฮโอ, วุฒิสมาชิกมิตต์ รอมนีย์ จากรัฐยูทาห์ และแลร์รี โฮแกน ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์
ก่อนพิธีนี้ ไบเดนได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารกำหนดให้วัตถุดิบที่ผลิตในประเทศต้องได้รับสิทธิ์ก่อนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานนี้
นอกจากนั้นยังมีการตั้งทีมเฉพาะกิจประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการสำหรับกฎหมายนี้ ซึ่งไบเดนใช้เวลาออกแรงผลักดันอยู่นานหลายเดือน
กระนั้น ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังคงกลายเป็นสายล่อฟ้าอย่างดี โดยรีพับลิกันโจมตีว่า เดโมแครตที่ควบคุมสภาผู้แทนราษฎรเตะถ่วงการผ่านกฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่า รีพับลิกันจะยอมสนับสนุนร่างกฎหมายนโยบายสังคมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมูลค่า 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดน โดยที่ถึงอย่างไรรีพับลิกันก็ไม่เห็นด้วย
อย่างไรก็ดี ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าบรรยากาศการร่วมมือกันอย่างชื่นมื่นระหว่างสองพรรคจะคงอยู่นานแค่ไหน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้รับการคาดหมายว่า จะขับเคี่ยวกันอย่างหนักเกี่ยวกับร่างกฎหมายนโยบายสังคมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งไบเดนถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายฟื้นฟูประเทศ ที่เขาระบุว่าเป็นความพยายามครั้งประวัติศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม
ร่างกฎหมายดังกล่าวในด้านสังคมนั้นจะครอบคลุมถึงการสนับสนุนการเลี้ยงดูและอบรมเด็กและเด็กก่อนวัยเรียน ผู้สูงวัย การดูแลสุขภาพ การกำหนดราคายาตามใบสั่งแพทย์ และผู้อพยพ
ทำเนียบขาวหวังว่า แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตเช่นเดียวกับไบเดน จะนำร่างกฎหมายนี้เข้าสู่สภาล่างเพื่อลงมติในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นเพียงก้าวแรก เนื่องจากยังต้องได้รับการรับรองจากวุฒิสภา ขณะที่สมาชิกสภาล่างของเดโมแครตยังแตกแยกกันเอง
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์)