xs
xsm
sm
md
lg

ซัมมิตจีน-อเมริกาชูร่วมมือแก้ปัญหาโลก ‘สี’เตือน‘ไบเดน’อย่าเล่นกับไฟให้ท้ายไต้หวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เจรจาหารือแบบเสมือนจริงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จากห้องรูสเวลต์ ของทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน เมื่อคืนวันจันทร์ (15 พ.ย.) ตามเวลาวอชิงตัน ซึ่งตรงกับเช้าวันอังคาร (16) ในปักกิ่ง
“ไบเดน” กดดัน “สี” เรื่องสิทธิมนุษยชน ระหว่างการประชุมซัมมิตแบบเสมือนจริงกว่า 3 ชั่วโมงเมื่อเช้าวันอังคาร (16 พ.ย.) ตามเวลาปักกิ่ง ซึ่งตรงกับคืนวันจันทร์ (15) ในวอชิงตัน ด้านประมุขแดนมังกรเตือนอเมริกาอย่าเล่นกับไฟด้วยการสนับสนุนเอกราชไต้หวัน อย่างไรก็ดี ทั้งคู่เห็นพ้องว่า จำเป็นต้องร่วมมือกันในประเด็นสำคัญของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตไวรัสและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายระบุว่า การประชุมสุดยอดผู้นำสองชาติเศรษฐกิจใหญ่สุดเป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลกคราวนี้ ใช้เวลาสามชั่วโมงครึ่งซึ่งยาวนานกว่าที่คาดหมายกัน ขณะที่บรรยากาศเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา โดยที่ทั้งคู่ต่างพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ส่วนประเด็นที่หารือครอบคลุมเกาหลีเหนือ อัฟกานิสถาน อิหร่าน ตลาดพลังงานโลก การค้าและการแข่งขัน สภาพภูมิอากาศ การทหาร โรคระบาด และประเด็นที่มีความเห็นต่างกันอื่นๆ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่งดเดินทางออกนอกประเทศนับจากโควิดระบาดทั่วโลกตลอดเวลาเกือบสองปีที่แล้ว เปรียบเทียบจีนและอเมริกาเป็นเรือใหญ่สองลำในทะเลที่จำเป็นต้องประคองตัวให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้ชนกัน และแสดงความหวังว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะใช้สถานะการเป็นผู้นำทางการเมืองเปลี่ยนนโยบายต่อจีน ให้หันมาอยู่ในแนวทางที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้จริง

สี ซึ่งเรียกไบเดนว่า “เพื่อนเก่า” เสริมว่า จีนและอเมริกากำลังเผชิญความท้าทายมากมายร่วมกัน และในฐานะสองประเทศที่ใหญ่ที่สุดของโลกและสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชน จีนและอเมริกาจำเป็นต้องสื่อสารและร่วมมือกันมากขึ้น

ด้านไบเดนขานรับว่า ผู้นำอเมริกาและจีนมีความรับผิดชอบในการรับประกันว่า การแข่งขันระหว่างกันต้องดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ตรงไปตรงมา และไม่กลายเป็นความขัดแย้งไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

ผู้นำทั้งคู่ยังย้ำความจำเป็นในการร่วมมือกันในประเด็นสำคัญของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตไวรัสและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทำเนียบขาวนั้นออกตัวแต่แรกแล้วว่า ไม่คาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมใดๆ ภายหลังซัมมิตครั้งนี้ แต่เหตุผลในการจัดประชุมคือ เพื่อจัดการความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับจีนที่สำคัญเกินกว่าจะปล่อยให้ทรุดโทรมล่มสลาย

เจ้าหน้าที่อาวุโสของอเมริกาเผยว่า ผู้นำทั้งคู่หารือกันด้วยดี โดยไบเดนย้ำความสำคัญที่จีนจะทำตามคำมั่นในการเจรจาการค้ากับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการจัดซื้อสินค้าและบริการจากอเมริกามูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป ทว่า เจ้าหน้าที่จีนเผยว่า สีบอกไบเดนว่า สิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องการเมือง

ส่วนเรื่องว่า ทำเนียบขาวจะส่งตัวแทนไปร่วมงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่นั้นไม่ได้มีการหารือกัน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เจรจาหารือแบบเสมือนจริงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จากห้องรูสเวลต์ ของทำเนียบขาว โดยที่มีรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เจเน็ต เยลเลน (ขวาสุด) และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโธนี บลิงเคน (ที่ 2 จากขวา) เป็นต้น รับฟังอยู่ด้วย
สำหรับประเด็นไต้หวันนั้น ปรากฏให้เห็นความขัดแย้งกันอย่างชัดเจน โดยทำเนียบขาวระบุว่า แม้ย้ำจุดยืนเดิมของอเมริกาในการสนับสนุนนโยบาย “จีนเดียว” แต่สนับสนุนให้ไต้หวันปกป้องตัวเองได้ ไบเดนยังยืนกรานคัดค้านอย่างเต็มที่ ในการใช้ความพยายามเพียงฝ่ายเดียวเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะเดิม หรือบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน

ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานจากมุมมองของฝ่ายจีนว่า สี กล่าวว่า มีคนบางกลุ่มในอเมริกาต้องการใช้ไต้หวันเพื่อควบคุมจีน ซึ่งอันตรายมากพอๆ กับการเล่นกับไฟ และสำทับว่า จีนอดทนและต้องการรวมชาติอย่างสันติ แต่ถ้ากลุ่มสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนไต้หวันยั่วยุหรือล้ำเส้น ปักกิ่งจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด

ที่ผ่านมา สี คัดค้านความพยายามของวอชิงตันในการผลักดันให้ไต้หวันมีส่วนร่วมในองค์กรระหว่างประเทศมากขึ้น และการประกาศของไบเดนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จะปกป้องไทเปยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น

จีนนั้นอ้างว่า ไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนที่จะไม่ยอมให้ถูกแบ่งแยกออกไป และพร้อมใช้กำลังเพื่อรวมชาติถ้าจำเป็น

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ได้แถลงถึงการประชุมสุดยอดจีน-อเมริกาแบบเสมือนจริงครั้งนี้ว่า ไทเปหวังว่า ปักกิ่งจะยอมรับความรับผิดชอบร่วมกันเพื่อรักษาสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน และแก้ไขความขัดแย้งด้วยการเจรจา

นอกจากนั้น ไบเดนยังหยิบยกประเด็นอื่นๆ ที่จีนถือเป็นกิจการภายในของตนมาหารือ ซึ่งรวมถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง การจัดการทิเบตและฮ่องกง

ทั้งนี้ ไบเดน และ สี ยังไม่ได้เคยพบกันตัวเป็นๆ นับตั้งแต่ฝ่ายแรกเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อต้นปีนี้ และครั้งล่าสุดที่ทั้งคู่หารือกันคือทางโทรศัพท์ในต้นเดือนกันยายน

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น