เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(16 พ.ย)ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ลงนามกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานร่วม 2 พรรคระหว่างเดโมแครตและรีพับลิกันมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนนหนทางและสะพานทั่วประเทศครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ส่งสัญญาณไปยังอเมริกันชนทั่วประเทศสหรัฐฯกำลังกลับมาอีกครั้งและเดินหน้าต่อเหมือนเช่นเคย
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(15 พ.ย)ว่า ในการลงนามกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน( infrastructure bill ) ที่มีเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในวันจันทร์(15)ที่สนามหญ้าใต้ทำเนียบขาวถือเป็นชัยชนะทางการเมืองที่ไบเดนสามารถทำให้เกิดแพ็กเกจทางเศรษฐกิจเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจากความร่วมมือระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันได้สำเร็จ
กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานของไบเดนถือเป็นการลงทุนจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาเพื่อปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศได้แก่ถนนและสะพานจำนวนมากที่เก่านานกว่าสิบปีอและชำรุดทรุดโทรม โดย NPR สื่อสหรัฐฯชี้ว่ากฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนจากส.วพรรครีพับลิกัน 19 คนและส.สพรรครีพับลิกัน 13 คนถึงแม้ว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์และบรรดาแกนนำพรรครีพับลิกันจะออกมาคัดค้านก็ตาม
ซึ่งการลงนามในกฎหมายแพ็กเกจทางเศรษฐกิจเพื่อปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สหรัฐฯยังคงตามหลังชาติอื่นๆอยู่นี้ นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯกล่าวว่ามันจะช่วยให้สหรัฐฯสามารถแข่งกับจีนและประเทศต่างๆเพื่อความเป็นเจ้าในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ของศตวรรษที่ 21
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวในการลงนามมีใจความว่า “ร่างกฎหมายที่ผมกำลังจะลงนามนี้เป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่าถึงแม้ว่าจะมีเสียงเย้ยหยันแต่ทว่าทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถร่วมมือกันและทำให้เกิดขึ้นำได้ พวกเราสามารถทำได้ พวกเราสามารถทำให้มันเป็นจริงเพื่อประชาชนที่เป็นคนจริงๆ”
และเขาชี้ต่อว่า “พวกเรากำลังก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่ไปข้างหน้าเพื่อสร้าง(อเมริกา)กลับมาอีกครั้งให้ยิ่งใหญ่ในฐานะประเทศ” ไบเดนย้ำว่า “ที่นี้ในวอชิงตันพวกเราต่างได้ยินสุนทรพจน์และคำมั่นสัญญานับไม่ถ้วนและรายงานสมุดปกขาวจากผู้เชี่ยวชาญ แต่ทว่าในวันนี้พวกเราในที่สุดสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ ดังนั้นแล้วนี่เป็นสารที่ผมต้องการส่งไปยังประชาชนอเมริกันทุกคนมีใจความว่า อเมริกากำลังกลับมาเคลื่อนไปข้างหน้าอีกครั้งและชีวิตพวกคุณกำลังจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น”
CNN ชี้ว่าพิธีลงนามบังคับใช้กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานในวันจันทร์(15)เกิดขึ้นท่ามกลางผลโพลสำรวจความนิยมในตัวเขาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ต่ำเหลือแค่ 41% ขณะที่มี 53% ที่ไม่นิยมในตัวไบเดน
กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานสหรัฐฯจะส่งเม็ดเงิน 550 พันล้านดอลลาร์สำหรับการลงทุนจากรัฐบาลกลางไปยังระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆได้แก่ ถนน สะพาน ระบบการขนส่งมวลชนสาธารณะ ระบบรางรถไฟ สนามบิน ท่าเรือ และระบบทางน้ำทั่วประเทศเป็นระยะเวลา 5 ปี
นอกจากนี้เม็ดเงินอีก 65 พันล้านดอลลาร์จะลงทุนปรับปรุงระบบอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ทั้งประเทศ ส่วนอีกราวหลายสิบพันล้านดอลลาร์จะปรับปรุงระบบโครงสร้างไฟฟ้าและระบบประปาให้ดีขึ้น
กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานยังเป็นสิ่งที่ชี้ว่าผู้นำสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครตให้ความสำคัญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลกเพราะในแพ็กเก็จกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ยังรวมการลงทุนจำนวน 7.5 พันล้านดอลลาร์สำหรับการสร้างสถานีจ่ายไฟฟ้าเพื่อเสียบปลั๊กจ่ายไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นต้นว่า รถเทสลา เกิดขึ้นทั่วประเทศภายใน 5 ปี
CNN รายงานว่าร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานฉบับนี้เป็นส่วนแรกจากทั้งหมด 2 ส่วนของนโยบายเป้าหมายเศรษฐกิจของไบเดน
โดยตัวกฎหมายที่ถูกลงนามบังคับใช้ในวันจันทร์(15)นี้มีเป้าหมายไปที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานหลักที่จับต้องได้เป็นต้นว่า ถนน สะพานที่ทรุดโทรมและไม่ได้รับการปรับปรุงมานาน และหลังจากนี้พรรคเดโมแครตจะให้ความสนใจไปที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานมนุษย์ (human infrastructure) ซึ่งรวมไปถึงการดูแลครอบครัวและปัญหาวิกฤติภาวะโลกร้อน และการขยายให้ประชาชนมากขึ้นสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ แต่ทว่ากฎหมายวาระส่วนที่ 2 สำหรับโครงสร้างพื้นฐานมนุษย์นี้ยังคงไม่แน่นอนและมีการเผชิญหน้าระหว่างการเมืองสายกลางและการเมืองสายก้าวหน้าในสภาคองเกรสสหรัฐฯ