เอพี – แก๊งค้ายาคู่อริเปิดศึกนองเลือดในคุกใหญ่สุดของเอกวาดอร์ ทำให้มีนักโทษเสียชีวิตอย่างน้อย 68 คน และบาดเจ็บ 25 คนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) โดยทางการใช้เวลาเกือบทั้งวันกว่าจะเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ และถือเป็นเหตุตะลุมบอนในเรือนจำครั้งล่าสุด หลังจากเมื่อไม่ถึงสองเดือนที่แล้วที่มีนักโทษเสียชีวิตกว่า 100 คน
เหตุนองเลือดครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนรุ่งสางวันเสาร์ในเรือนจำลิโทรัลของเมืองกวายากิล ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในเรือนจำและเชื่อมโยงกับแก๊งค้ายาข้ามชาติ วิดีโอที่โพสต์บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นร่างผู้เสียชีวิตที่บางศพถูกเผา นอนเกลื่อนภายในคุก
การยิงต่อสู้กันกินเวลาราว 8 ชั่วโมง จากนั้นจึงเกิดการปะทะระลอกใหม่ในบางส่วนของเรือนจำในช่วงบ่าย
คาร์ลอส จิกอง โฆษกประธานาธิบดี ประกาศในช่วงค่ำวันเสาร์ว่า ตำรวจราว 900 นายสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
ด้านปาโบล แอโรเซเมนา ผู้ว่าการจังหวัดกวายาสที่มีเมืองหลวงคือกวายากิล เผยว่า ในช่วงแรกนักโทษพยายามใช้ไดนาไมต์ระเบิดกำแพงเข้าสู่แดน 2 เพื่อสังหารหมู่ รวมทั้งยังเผาที่นอนเพื่อรมควันศัตรู
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 2 เดือนหลังจากแก๊งค้ายาเปิดศึกในเรือนจำแห่งนี้ที่คุมขังนักโทษกว่า 8,000 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 119 คน
ทันยา วาเรลา ผู้บัญชาการตำรวจ กล่าวว่า ภาพจากโดรนเผยให้เห็นนักโทษในสามแดนมีทั้งปืนและระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีการลักลอบนำอาวุธและกระสุนเข้าไปกับรถส่งของและบางครั้งโดยใช้โดรน
เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีกิลเลอร์โม ลาสโซ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเดือนตุลาคมเพื่อให้อำนาจกองกำลังความมั่นคงต่อสู้กับการลักลอบค้ายาเสพติดและอาชญากรรมอื่นๆ
ลาสโมทวิตเมื่อวันเสาร์ว่า สิทธิแรกที่ควรรับประกันคือสิทธิในการดำรงชีวิตและเสรีภาพ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยหากกองกำลังความมั่นคงไม่สามารถดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธินี้ ซึ่งพาดพิงถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้กองทัพเข้าไปในเรือนจำแม้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน และล่าสุดทหารยังต้องรออยู่ด้านนอกเรือนจำ
เรือนจำเอกวาดอร์เกิดเหตุรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง เดือนกันยายนที่ผ่านมามีการต่อสู้ในเรือนจำลิโทรัลโดยมีนักโทษเสียชีวิต 119 คน ซึ่งอย่างน้อย 5 คนถูกตัดคอ และถือเป็นเหตุสังหารหมู่ในเรือนจำครั้งเลวร้ายที่สุด
ย้อนกลับไปเดือนกุมภาพันธ์ เกิดเหตุจลาจลพร้อมกันในเรือนจำหลายแห่งและมีนักโทษเสียชีวิต 79 คน ตลอดปีนี้มีนักโทษเสียชีวิตจากการต่อสู้ในเรือนจำทั่วเอกวาดอร์กว่า 300 คน
ญาติพี่น้องนักโทษจำนวนมากไปรอฟังข่าวด้านนอกเรือนจำ หลายคนเรียกร้องให้กองทัพเข้าควบคุมเรือนจำเพื่อไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก
เอกวาดอร์มีนักโทษทั้งหมด 40,000 คน มากกว่าที่เรือนจำรองรับได้ถึง 10,000 คน และนักโทษ 15,000 คนในจำนวนนี้ยังไม่ได้รับการตัดสิน
แอโรเซเมนาเผยว่า ทางการจะจัดการปัญหานักโทษล้นคุกด้วยการอภัยโทษนักโทษกว่า 1,000 คน รวมทั้งย้ายนักโทษและส่งนักโทษต่างชาติกลับบ้านเกิด
นอกจากนั้น ผู้ว่าการกวายาสยังสำทับว่า เอกวาดอร์จะได้รับความช่วยเหลือด้านทรัพยากรและลอจิสติกส์จากประเทศอื่นๆ เช่น โคลอมเบีย อเมริกา อิสราเอล และสเปน เพื่อจัดการวิกฤตการณ์ในเรือนจำ
ความช่วยเหลือที่จะได้รับมีอาทิ การติดตั้งเครื่องสแกนเพื่อตรวจสิ่งที่นำส่งในเรือนจำป้องกันการลักลอบนำอาวุธเข้าไป