กองทัพปลดแอกประชาชนจีน ตรวจการณ์ซักซ้อมความพร้อมสู้รบในทิศทางช่องแคบไต้หวันเมื่อวันอังคาร (9 พ.ย โดยก่อนหน้านั้นกระทรวงกลาโหมแดนมังกรได้ประณามการที่กลุ่มสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯเดินทางด้วยเครื่องบินทหารเพื่อเยือน “เกาะกบฎ” ของจีนแห่งนี้ แต่เพนตากอนโต้ว่า เป็นเหตุการณ์ปกติ ด้าน “ไบเดน” ประกาศขยายคำสั่งฝ่ายบริหารห้ามธุรกิจอเมริกันซื้อขายหุ้นบริษัทที่เชื่อว่า เป็นของหรือควบคุมโดยกองทัพจีน
โฆษกกองทัพปลดแอกประชาชนจีนระบุในคำแถลงว่า การตรวจการณ์คราวนี้มีขึ้นสืบเนื่องจากคำพูดและการกระทำ “ที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง” ของ “พวกประเทศที่เกี่ยวข้อง” ในประเด็นปัญหาไต้หวัน รวมทั้งกิจกรรมของกองกำลังสนับสนุนการประกาศเอกราชของไต้หวัน
สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันระอุหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยไทเปร้องเรียนมากว่าปีว่า จีนส่งเครื่องบินรบวนเวียนใกล้ไต้หวันครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ปักกิ่งแสดงความไม่พอใจเรื่องที่ฝ่ายตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯ แสดงการหนุนหลังไต้หวัน ซึ่งจีนแผ่นดินใหญ่ถือเป็นมณฑลกบฎของตน
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เฉพาะวันอังคาร(9) เครื่องบิน 6 ลำของกองทัพจีน ซึ่งรวมถึงเครื่องบินขับไล่ เจ-19 และเครื่องบินตรวจการณ์ ได้เข้าสู่เขตป้องกันภัยทางอากาศด้านตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน
ขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของไต้หวันรายงานเมื่อวันอังคารว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ไม่ระบุจำนวน เดินทางถึงไต้หวันโดยเครื่องบินของกองทัพอเมริกัน
ต่อมาในวันพุธ (10) นายกรัฐมนตรีซู เซิงชางของไต้หวันตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ความสัมพันธ์ไต้หวัน-อเมริกามีความสำคัญอย่างยิ่ง และเขาเคารพการเดินทางเยือนระหว่างมิตรประเทศ พร้อมสำทับว่า ไต้หวันจะดำเนินการอย่างเหมาะสมโดยอิงกับความต้องการของทั้งสองฝ่าย ทว่าเขาไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้
ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯในทางพฤตินัย ซึ่งต้องเลี่ยงไปใช้ชื่อ “สถาบันอเมริกันในไต้หวัน” เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันนั้น ไม่ได้ตอบอะไรเมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้
ทางด้านกระทรวงกลาโหมจีน ได้แถลงคัดค้านและประณามการที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันด้วยเครื่องบินทหาร
จู เฟิงเหลียน โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีนประณามเหตุการณ์นี้เช่นเดียวกันระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ และเรียกร้องประชาชนไม่ให้หลงเชื่อหรือเผยแพร่ข่าวลือว่า สงครามกำลังจะเกิดขึ้น
ส่วนที่วอชิงตัน จอห์น เคอร์บี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า การที่สมาชิกรัฐสภาอเมริกันเดินทางโดยใช้เครื่องบินทหารนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และสำทับว่า นี่เป็นครั้งที่สองที่สมาชิกรัฐสภาไปเยือนไต้หวันในรอบปีนี้
ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงว่า จะขยายมาตรการจำกัดที่ออกมาใช้โดยคำสั่งฝ่ายบริหารในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020 ในการห้ามบริษัทด้านการลงทุน กองทุนบำนาญ และธุรกิจอื่นๆ ของอเมริกา ซื้อหุ้นในบริษัทจีนที่เพนตากอนระบุว่า เป็นของกองทัพจีน หรือควบคุมโดยกองทัพจีน
ประมุขทำเนียบขาวระบุในจดหมายที่ส่งถึงแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า จีนใช้ประโยชน์จากเงินทุนของอเมริกาเพื่อพัฒนาและปรับปรุงกองทัพ ระบบข่าวกรอง และอุปกรณ์ด้านความมั่นคงอื่นๆ ให้ทันสมัย ซึ่งช่วยให้จีนคุกคามอเมริกาและกองกำลังอเมริกันที่อยู่นอกประเทศโดยตรงอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไบเดนได้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขบางอย่างที่ทีมงานระบุว่า เป็น “ข้อบกพร่องทางกฎหมาย” ของคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังบังคับใช้และปรับปรุงบัญชีรายชื่อบริษัทใหม่ที่มีราว 59 แห่งที่จะถูกแบน แทนบัญชีรายชื่อเดิมจากเพนตากอน
ทั้งนี้ นิติบุคคลสหรัฐฯ ถูกห้ามไม่ให้ซื้อขายหุ้นของบริษัทจีนที่ถูกเป็นเป้าหมาย ซึ่งเทรดในตลาดหลักทรัพย์ ในจำนวนนี้รวมถึงเอสเอ็มไอซีที่เป็นผู้ผลิตชิปสำคัญ และบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ซีนุก
บัญชีรายชื่อใหม่ของไบเดนมีบริษัทจดทะเบียนจีนเพิ่มเข้ามาอีก 10 แห่ง และถอดบริษัทชั้นนำบางแห่งออก เช่น คอมเมอร์เชียล แอร์คราฟต์ คอร์ป ออฟ ไชน่า (โคแม็ก) ซึ่งเป็นแกนนำความพยายามในการแข่งขันกับโบอิ้งและแอร์บัส
(ที่มา: รอยเตอร์, เอพี, เอเอฟพี)