สร้อยข้อมือเพชร 2 เส้นซึ่งเคยเป็นสมบัติของพระนางมารีอ็องตัวแนตต์ ราชินีองค์สุดท้ายของฝรั่งเศสที่ถูกประหารด้วยกิโยติน ถูกนำออกประมูลโดยสถาบันคริสตีส์และทำเงินไปได้ถึง 7.46 ล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 267 ล้านบาท สูงกว่าราคาประเมินหลายเท่าตัว
ราหุล คาดาเกีย ผู้อำนวยการสากลฝ่ายจิวเวลรีของคริสตีส์ บอกกับผู้เข้าร่วมงานประมูลที่นครเจนีวาวานนี้ (9 พ.ย.) ว่า สร้อยข้อมือคู่ดังกล่าวเป็นสมบัติตกทอดในตระกูลของมารีอ็องตัวแนตต์มานานเกือบ 200 ปี และล่าสุดกำลังจะตกไปอยู่ในมือเจ้าของคนใหม่ ซึ่งเคาะราคาประมูลผ่านทางโทรศัพท์
อเล็กซานดรา คินเดอร์มาน โฆษกของคริสตีส์ ระบุว่า ราคาประมูลสร้อยอยู่ที่ 6.2 ล้านฟรังก์สวิส และเพิ่มขึ้นไปเป็น 7.46 ล้านฟรังก์สวิสเมื่อบวกค่าคอมมิชชั่น
สร้อยข้อมือ 1 ชิ้นจะประกอบด้วยสายสร้อยเพชรทั้งหมด 3 เส้น รวม 2 ชิ้นใช้เพชรประดับทั้งหมด 112 เม็ด บรรจุมาในกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินที่เขียนกำกับว่า “สร้องข้อมือของสมเด็จพระราชินีมารีอ็องตัวแนตต์”
สถาบันคริสตีส์ระบุว่า ในช่วงที่เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ. 1791 พระนางมารีอ็องตัวแน็ตต์ทรงส่งจดหมายออกมาจากคุกในกรุงปารีส โดยสั่งให้นำหีบบรรจุเครื่องเพชรของพระองค์ไปเก็บยังสถานที่ปลอดภัย ก่อนที่จะทรงถูกประหารด้วยเครื่องกิโยตินในปี 1793
หีบบรรจุเครื่องเพชรดังกล่าวได้ถูกส่งไปยังพระญาติซึ่งอยู่ในออสเตรีย และกลายเป็นมรดกตกทอดในตระกูลมานานเกือบ 200 ปี กระทั่งถูกนำออกประมูลในคราวนี้
ที่มา: รอยเตอร์
