ชายสูงวัยรายหนึ่งถูกจับกุมฐานต้องสงสัยพยายามจุดไฟเผารถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็นขบวนหนึ่ง ขณะแล่นอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นในตอนเช้าวันจันทร์(8พ.ย.) ในเหตุการณ์ที่ดูเหมือนว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุโจมตีวางเพลิงเมื่อเร็วๆนี้ บนขบวนรถไฟในกรุงโตเกียว ในคืนวันฮัลโลวีน จากการเปิดเผยของตำรวจ
ตำรวจเปิดเผยว่า คิโยชิ มิยาเกะ วัย 69 ปี ถูกรวบตัวในที่เกิดเหตุ ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บบนขบวนรถไฟที่แล่นจากเมืองฮิโรชิมามุ่งหน้าสู่สถานีคาโงชิมะ-ชูโอ และจากข้อมูลของบริษัทเดินรถไฟคิวชู เรลเวย์ พบว่ารถไฟขบวนนี้กำลังแล่นอยู่ในจังหวัดคูมาโมโตะ ในตอนที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 8.40น.
รายงานข่าวระบุ มิยาเกะ ให้ปากคำกับตำรวจว่าเขา "ต้องการเลียนแบบ" เหตุวางเพลิงและโจมตีด้วยมีดบนขบวนรถไฟหนึ่งในกรุงโตเกียวเมื่อไม่นานที่ผ่านมา หลังได้เห็นข่าวดังกล่าว
ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ชายคนหนึ่งสวมชุดคล้ายตัวละคร "โจ๊กเกอร์" ในภาพยนตร์แบทแมน ทำร้ายผู้คนได้รับบาดเจ็บ 17 ราย ในนั้นอาการสาหัส 1 คน ระหว่างเหตุโจมตีบนขบวนรถไฟ และชายคนดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาคือนายเคียวตะ ฮัตโตริ ให้ปากคำกับทีมสืบสวนว่าเขาคลั่งไคล้ตัวละคนโจ๊กเกอร์ และต้องการฆ่าคนเพื่อให้ได้รับโทษประหารชีวิต
ส่วนในคดีล่าสุด มายาเกะ เผยว่าเขาสาดของเหลว ใช้ไฟแช็คจุดไฟที่กระดาษแผ่นหนึ่งแล้วโยนมันลงกับพื้น
บริษัทเดินรถไฟเผยว่าพบเห็นควันภายในตู้โดยสารหมายเลข 3 ที่มีผู้โดยสารประมาณ 30 คน และหลังจากสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉินดังขึ้น ขบวนรถไฟจึงได้จอดฉุกเฉิน
หลังจากเคลื่อนย้ายผู้โดยสารออกจากตู้หมายเลข 3 ไปยังตู้โดยสารอื่นๆ ขบวนรถไฟก็สามารถเดินทางต่อไปได้และถึงจุดหมายปลายทางตอนราวๆ 10.25น.
อย่างไรก็ตามบริการเดินรถไฟหัวกระสุนบางเที่ยวจำเป็นต้องระงับให้บริการเป็นการชั่วคราว ผลก็คือทำให้เกิดปัญหาล่าช้าสูงสุดเกือบ 50 นาทีและส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารประมาณ 900 คน
เหตุโจมตีบนขบวนรถไฟและในเขตสถานี ในพื้นที่กรุงโตเกียว เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเหตุคนร้ายรายหนึ่งใช้มีดไล่ฟันและแทงผู้โดยสาร 10 คน บนรถไฟเขตเซตางายะ เมื่อเดือนสิงหาคม
ส่วนเหตุครั้งเลวร้ายที่สุดบนรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็นนั้นเป็นการฆ่าตัวตายด้วยการจุดไฟเผาตัวเองเมื่อเดือนมิถุนายน 2015 ส่งผลให้ผู้ก่อเหตุและผู้หญิงอีกคนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 26 คน ในจำนวนนี้ สาหัส 2 คน จากผู้โดยสารทั้งหมด 800 คน
(ที่มา:เกียวโดนิวส์)