ประชาคมทวิตเตอร์โหวตสนับสนุน “อีลอน มัสก์” ขายหุ้นเทสลา 10% หลังจากเจ้าพ่อเทคโนโลยีคนดังได้ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ (6 พ.ย.) โดยขอให้ผู้ติดตามกว่า 62 ล้านคนช่วยกันลงความเห็นว่าควรจะลดส่วนการถือหุ้นลงดีหรือไม่
มัสก์ ซึ่งมักจะแจ้งข่าวสารหรือโพสต์ข้อความเซอร์ไพรส์ชาวโลกทางทวิตเตอร์อยู่บ่อยๆ ระบุว่า “ผมเตรียมใจที่จะยอมรับผลโหวตทั้ง 2 ทาง” โดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะขายหุ้นเมื่อไหร่และอย่างไร
ผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลาได้ขอความเห็นจากชาวเน็ต หลังจากวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตออกมาเสนอไอเดียให้รัฐเก็บภาษีคนรวยเพิ่มขึ้น โดยเน้นไปที่การถือหุ้นและทรัพย์สินอื่นๆ ที่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ เพื่อนำเงินรายได้มาอุดหนุนมาตรการช่วยเหลือสังคมของประธานาธิบดี โจ ไบเดน รวมถึงอุดช่องโหว่ที่พวกมหาเศรษฐีเหล่านี้ใช้หลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี
มัสก์ เคยวิจารณ์ข้อเสนอดังกล่าวมาแล้วรอบหนึ่งเมื่อปลายเดือนที่แล้ว โดยบอกว่า “พอใช้เงินคนอื่นหมด พวกเขาก็หันมาหาคุณจนได้”
ล่าสุด มัสก์ ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ (6) โดยบอกว่า “ระยะหลังๆ มานี้มีการพูดกันมากว่า ความร่ำรวยจากราคาหุ้นที่สูงขึ้นแต่ยังไม่ได้ขายจริง หรือที่เรียกว่า unrealized gain เป็นการเลี่ยงภาษีอย่างหนึ่ง ผมจึงขอเสนอว่าจะขายหุ้นเทสลาที่ผมถือครองอยู่สัก 10%” แล้วก็เปิดให้ผู้ติดตามเข้าไปทำโพลว่าเห็นด้วยหรือไม่
ผลปรากฏว่าในวันอาทิตย์ (8) มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่เข้าไปตอบ ‘yes’ มากถึง 57.9%
ตามข้อมูลของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก มัสก์ ถือหุ้นเทสลาอยู่ประมาณ 17% ณ วันที่ 30 มิ.ย. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 208,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าหากขายออกไป 10% ก็จะทำให้เขาได้เงินเกือบ 21,000 ล้านดอลลาร์
ความร่ำรวยมั่งคั่งของ มัสก์ นั้นพุ่งขึ้นตามราคาหุ้นเทสลา ซึ่งขยับจาก 130 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นเมื่อช่วงต้นปี 2020 ขึ้นมาอยู่ที่ 1,222.09 ดอลลาร์ต่อหุ้น อ้างอิงจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5)
บลูมเบิร์กประเมินว่า มัสก์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก” ตอนนี้น่าจะมีทรัพย์สินมากถึง 338,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากนับรวมหุ้นในบริษัทอื่นๆ เช่น Neuralink และ SpaceX ด้วย
“ผมขอบอกไว้เลยว่า ผมไม่ได้รับเงินเดือนหรือโบนัสจากที่ไหนทั้งสิ้น ผมมีแต่หุ้น ฉะนั้นวิธีเดียวที่ผมจะหาเงินมาจ่ายภาษีได้ก็คือต้องขายหุ้น” มัสก์ ระบุ
ที่มา: เอเอฟพี