‘รีพับลิกัน’โชว์ผลงานเลือกตั้งผู้ว่าการสองรัฐสำคัญ ส่อลางร้าย ‘ไบเดน-เดโมแครต’ศึกกลางเทอมปีหน้า

รีพับลิกันคว้าชัยเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย แถมทำให้เดโมแครตหืดจับในสนามเลือกตั้งนิวเจอร์ซีย์ ถือเป็นลางร้ายสำหรับพรรคเดโมแครตของไบเดนในการเลือกตั้งกลางเทอมปีหน้า อย่างไรก็ตาม ประมุขทำเนียบขาวปัดความรับผิดชอบโดยตรงในการเพลี่ยงพล้ำครั้งนี้

ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นซึ่งจัดขึ้นในบางท้องที่ของสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) ปรากฏที่รัฐเวอร์จิเนีย เกลนน์ ยังคิน ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันที่เป็นอดีตผู้บริหารด้านการลงทุน เอาชนะเทอร์รี แมคออลิฟ อดีตผู้ว่าการรัฐจากพรรคเดโมแครต ได้แบบนำโด่ง

ส่วนที่นิวเจอร์ซีย์ ฟิล เมอร์ฟีย์ ผู้ว่าการรัฐสังกัดพรรคเดโมแครต ชนะแจ็ค เซียทาเรลลี ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน ไปอย่างหวุดหวิด แม้ในรัฐนี้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ซึ่งสนับสนุนเดโมแครตมีมากกว่าของรีพับลิกันกว่า 1 ล้านคนก็ตาม

แคนดิเดตรีพับลิกันทั้งสองคนได้รับคะแนนท่วมท้นในเขตตัวเมืองจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงอิสระที่เคยหันหลังให้พรรคนี้เนื่องจากไม่พอใจสไตล์การเมืองของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

นอกจากนั้นผลการเลือกตั้งในทั้งสองรัฐที่ โจ ไบเดนจากเดโมแครต เคยกวาดชัยชนะอย่างง่ายดายในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว ยังบ่งชี้ว่า สถานะเสียงข้างมากบางเฉียบของเดโมแครตในรัฐสภามีความล่อแหลมสูงในการเลือกตั้งกลางเทอมปีหน้า

ทั้งนี้หากรีพับลิกันสามารถพลิกกลับมาครองเสียงข้างมากได้ทั้งสองสภาหรือแม้กระทั่งสภาเดียว ก็จะสามารถขัดขวางการออกกฎหมายของไบเดนได้ในช่วง 2 ปีสุดท้ายแห่งวาระการดำรงตำแหน่งสมัยปัจจุบันของเขา

ขณะเดียวกัน ความพ่ายแพ้ของเดโมแครตในเวอร์จิเนีย เปิดโอกาสให้ทรัมป์ที่มีแนวโน้มลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 แถภลงคุยข่มว่า ไบเดนกำลังถูกผู้สนับสนุนทอดทิ้ง

ทว่า ไบเดนซึ่งสัปดาห์ที่แล้วคะแนนนิยมร่วงลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับจากเข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้ จากผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปโซสนั้น พยายามเลี่ยงความรับผิดชอบโดยตรงสำหรับผลการเลือกตั้งที่น่าผิดหวัง โดยเขาอ้างว่า ประชาชนกำลังไม่พอใจและไม่แน่ใจในหลายประเด็นตั้งแต่โควิดไปจนถึงเรื่องโรงเรียน งาน และราคาน้ำมัน และสำทับว่า ถ้าสามารถผ่านและลงนามแผนการริเริ่มทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อฟื้นฟูประเทศได้ สถานการณ์ก็จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ผู้นำเดโมแครตในรัฐสภาประกาศจะผลักดันแผนการดังกล่าว โดยคาดหวังทำให้คองเกรสลงมติเห็นชอบกฎหมายสองฉบับซึ่งตั้งงบประมาณรวมประมาณ 2.75 ล้านล้านดอลลาร์ ในการสร้างถนนและสะพาน ตลอดจนส่งเสริมโครงข่ายความปลอดภัยทางสังคมและการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หลังจากที่สมาชิกสายก้าวหน้ากับสายกลางในเดโมแครตเองงัดข้อกันมาเป็นแรมเดือน

สำหรับการเลือกตั้งเมื่อวันอังคารนั้น ยังคิน วัย 54 ปี คว้าชัยชนะหลังจากหาเสียงโดยพุ่งเป้าสถานการณ์ที่พ่อแม่ไม่พอใจวิธีรับมือโควิดของโรงเรียน และการสอนเรื่องเชื้อชาติและเพศในโรงเรียน ที่ ยังคิน โจมตีว่า เป็นแนวคิดฝ่ายซ้าย นอกจากนั้นเขายังระมัดระวังที่จะไม่ทำตัวแปลกแยกจากฐานเสียงสำคัญของทรัมป์ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่สนับสนุนข้อกล่าวอ้างผิดๆ เรื่องการโกงการเลือกตั้งอย่างกว้างขวางเมื่อปีที่แล้ว

กระนั้น ทรัมป์ยังไม่วายอ้างว่า ชัยชนะของยังคินมาจากฐานเสียงของตัวเอง

นอกจากนี้ยังดูเหมือนรีพับลิกันอาจได้ที่นั่งในสภาล่างของรัฐเวอร์จิเนีย 5 ที่นั่งเท่ากับเดโมแครต หรือกระทั่งอาจได้ 6 ที่นั่ง

สำหรับที่นิวเจอร์ซีย์นั้น เมอร์ฟีย์ วัย 64 ปี เป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกของเดโมแครตที่ได้รับเลือกตั้งรอบสองในรัฐนี้ในช่วง 4 ทศวรรษ

กระนั้น ซาลาดิน แอมบาร์ ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ชี้ว่า ชัยชนะแบบเฉียดฉิวของเมอร์ฟีย์เป็นผลจากคะแนนนิยมของไบเดนที่หล่นร่วง รวมทั้งการที่ไบเดนไม่สามารถผลักดันให้สภาผ่านแผนการใช้จ่ายขนาดใหญ่ รวมทั้งศึกภายในเดโมแครตเอง

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)