กลุ่มมือปืนอ้างตัวว่าเป็นตอลิบาน ลงมือโจมตีงานแต่งแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน สั่งให้หยุดเล่นดนตรี ก่อนกราดยิงสังหารผู้คนอย่างน้อย 3 รายและบาดเจ็บอีกหลายคน จากการเปิดเผยของรัฐบาลเมื่อวันเสาร์(30ต.ค.)
ซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกรัฐบาลตอลิบานกล่าวว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ 3 รายและ 2 ในนั้นถูกจับกุม พร้อมยืนยันว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ลงมือในนามของขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามิสต์
"เมื่อคืนนี้ ที่งานแต่งงานในหมู่บ้าน Shamspur Mar Ghundi จังหวัดนันการ์ฮาร์ มีบุคคล 3 ราย ประกาศตัวในฐานะตอลิบาน เข้าไปในพิธีสมรสและสั่งให้หยุดเล่นดนตรี" โฆษกระบุเมื่อวันเสาร์(30ต.ค.)
"ผลของการกราดยิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายและหลายคนได้รับบาดเจ็บ มีผู้ต้องสงสัย 2 คนถูกนำตัวไปคุมขังโดยตอลิบาน ในความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และยังอยู่ระหว่างการไล่ล่าผู้ต้องสงสัยอีกคนที่หลบหนี ผู้กระทำผิดในเหตุการณ์นี้ ซึ่งใช้ชื่อเอมิเรตอิสลาม(Islamic Emirate) ลงมือในความอาฆาตส่วนตัว ได้ถูกส่งตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายชารีอะห์แล้ว"
โฆษกผู้ว่าราชการจังหวัดนันกาฮาร์ของตอลิบาน ยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ขณะที่ญาติคนหนึ่งของเหยื่อเล่าว่าพวกนักรบตอลิบานเปิดฉากยิงขณะกำลังเล่นดนตรี
ดนตรีเป็นสิ่งต้องห้ามครั้งที่ตอลิบานก้าวขึ้นปกครองอัฟกานิสถานคราวก่อน และในขณะที่รัฐบาลใหม่ยังไม่ได้มีคำสั่งลักษณะดังกล่าว แต่บรรดาผู้นำของพวกเขายังคงมีท่าทีไม่เคยชินกับความบันเทิง และมองความบันเทิงว่าเป็นการละเมิดกฎหมายอิสลาม
"พวกคนหนุ่มกำลังเล่นดนตรีในอีกห้อง จากนั้นนักรบตอลิบาน 3 คนก็เข้ามาและเปิดฉากยิงใส่พวกเขา ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น มีอาการสาหัส 2 ราย" ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุ
อย่างไรก็ตาม มูจาฮิด กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า "ในทุกระดับของเอมิเรตอิสลาม ไม่มีใครมีสิทธิ์เบี่ยงคนอื่นๆจากดนตรีหรือทุกๆสิ่ง ทำได้เพียงพยายามโน้มน้าวพวกเขา นั่นคือหนทางหลัก ถ้าใครก็ตามสังหารบางคนด้วยตนเอง แม้ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นคนของเรา มันคืออาชญากรรม และเราจะนำตัวพวกเขาขึ้นสู่ศาล และพวกเขาจะต้องเผชิญการลงโทษตามกฎหมาย"
รัฐบาลตอลิบานชุดก่อนระหว่างปี 1996 ถึง 2001 ตีความกฎหมายอิสลามเข้มงวดอย่างมากและมีบทลงโทษประชาชนอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่หวนคืนสู่อำนาจอีกครั้งในช่วงกลางเดือนสิงหาคม หลังโค่นรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ตอลิบานแสวงหาการรับรองจากนานาชาติและยุติมาตรคว่ำบาตรต่างๆนานา ด้วยความพยายามแสดงให้เห็นว่าพวกเขาใช้แนวทางสายกลางมากขึ้น
(ที่มา:เอเอฟพี)