ผู้หญิงคนหนึ่งถูกนำตัวขึ้นศาลแขวงแห่งหนึ่งในสิงคโปร์เมื่อวันจันทร์(25ต.ค.) ที่่ผ่านมา หลังเธอถูกกล่าวหาไม่ยอมดำเนินการใดๆเพื่อปกป้องลูกสาวจากการถูกลูกชายล่วงละเมิดทางเพศ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ส
เวลานี้เธอต้องเผชิญความผิด 2 กระทงภายใต้กฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชน และอีก 3 กระทงในข้อหาจงใจละเลยปกปิดการทำผิดทางอาญาข่มขืนและลวนลามผู้เยาว์ และยินยอมรู้เห็นเป็นใจให้ลูกชายล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวครั้งที่เธอทราบเรื่องในปี 2010
ในเดือนมกราคมปีที่แล้ว ลูกชายของเธอ ซึ่งตอนนั้นอายุ 22 ปีและถูกวินิจฉัยโรคว่าเป็นพวกใคร่เด็ก ถูกพิพากษาจำคุก 11 ปีครึ่งและเฆี่ยน 7 ครั้ง หลังเขายอมสารภาพผิดในข้อหาลวนลามและข่มขืนกระทำชำเราผู้มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่ยินยอมให้ร่วมประเวณีด้วยได้ (Statutory Rape)
ในปี 2010 เมื่อครั้งที่อายุ 13 ขวบ เขาเริ่มล่วงละเมิดทางเพศน้องสาวที่ตอนนั้นอายุ 5 ขวบ โดยมีแรงกระตุ้นจากการดูหนังการ์ตูนลามก
ว่ากันว่าในตอนนั้นผู้เป็นแม่สังเกตเห็นคราบอสุจิบนกางเกงในของลูกสาว จึงถามว่าลูกชายว่าลวนลามหรือมีเพศสัมพันธ์กับน้องสาวอีกแล้วใช่หรือไม่
จากนั้นตอนอายุ 20 ขวบ เขามีเพศสัมพันธ์กับน้องสาวที่เวลานั้นอายุ 12 ขวบ ระหว่างที่แม่และน้องชายนอนหลับอยู่บนเตียงเดียวกัน
ระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันจันทร์(25ต.ค.) ศาลได้รับฟังด้วยว่าในปี 2010 และ 2017 ผู้เป็นแม่ละเลยไม่แจ้งข้อมูลใดๆเลยเกี่ยวกับเหตุล่วงละเมิดทางเพศลูกสาว
ตามการสืบสวนพบว่าผู้เป็นแม่รู้มาตั้งแต่ปี 2010 แล้วว่าลูกชายล่วงละเมิดทางเพศลูกสาว และลูกสาวเสี่ยงที่จะถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกในอนาคต อย่างไรก็ตามระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2017 ว่ากันว่าผู้เป็นแม่ "ยินยอมรู้เห็นเป็นใจ" ให้ลูกชายล่วงละเมิดลูกสาวของเธอ และล้มเหลวในการปกป้องลูกสาวอย่างที่คนเป็นแม่ควรทำ
แต่ละข้อหาภายใต้กฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชน ผู้กระทำผิดมีสิทธิ์ติดคุกสูงสุด 4 ปีและปรับเงินสูงุด 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ(ประมาณ 1.3 แสนบาท)
(ที่มา:สเตรทไทม์ส/เอเจนซี)