สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือยืนยัน กองทัพโสมแดงยิงทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวรุ่นใหม่ที่มีขนาดย่อมกว่าเดิมจากเรือดำน้ำเมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) นับเป็นพัฒนาการก้าวสำคัญที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจทำให้เกาหลีเหนือสามารถมีเรือดำน้ำติดขีปนาวุธประจำการได้ในอนาคตอันใกล้
คำยืนยันจากสื่อของเปียงยางมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่าเกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธไปตกนอกชายฝั่งตะวันออก และสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธติดตั้งบนเรือดำน้ำ (submarine-launched ballistic missile – SLBM)
สหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องทันควันให้เกาหลีเหนือ “หยุดพฤติกรรมยั่วยุ” โดย เจน ซากี โฆษกหญิงของทำเนียบขาว ระบุวานนี้ (19) ว่า อเมริกายังพร้อมที่จะเปิดเจรจาทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหานิวเคลียร์และขีปนาวุธเกาหลีเหนือ ขณะที่ทางฝั่งเปียงยางยังมีท่าทีเพิกเฉย แถมยังตำหนิสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ว่ามาขอเจรจา แต่กลับไม่หยุดกิจกรรมทางทหารที่กระพือความตึงเครียด
แหล่งข่าวด้านการทูตระบุว่า สหรัฐฯ และอังกฤษเตรียมนำเรื่องการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเข้าสู่ที่ประชุมแบบปิดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
สำนักข่าว KCNA รายงานว่า ขีปนาวุธ SLBM รุ่นใหม่ถูกยิงจากเรือดำน้ำลำเดียวกับที่โสมแดงเคยใช้ทดสอบ SLBM รุ่นก่อนหน้าเมื่อปี 2016 ซึ่งในตอนนั้นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าน่าจะเป็นการยิงจากเรือท้องแบน (barge) ที่จมน้ำอยู่มากกว่า
เกาหลีเหนือมีกองเรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่อายุการใช้งานยาวนาน และนอกไปจากเรือดำน้ำรุ่นทดลองชั้นโกเร (Gorae-class) ซึ่งถูกนำมาใช้ทดสอบขีปนาวุธแล้ว ก็ยังไม่เคยประจำการเรือดำน้ำติดขีปนาวุธทิ้งตัวมาก่อน
จากภาพถ่ายที่ KCNA เผยแพร่จะเห็นได้ว่า ขีปนาวุธ SLBM รุ่นใหม่มีขนาดเล็ก และรูปร่างผอมเรียวลงจากรุ่นก่อนหน้า และน่าจะเป็นขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือเพิ่งนำมาเปิดตัวครั้งแรกในนิทรรศการกลาโหมที่กรุงเปียงยางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ขนาดของ SLBM ที่เล็กลงอาจหมายถึงพิสัยการยิงที่ลดลงตามไปด้วย แต่ก็มีข้อดีคือสามารถเพิ่มจำนวนขีปนาวุธบนเรือดำน้ำ 1 ลำได้มากขึ้น ซึ่งหมายความว่าเกาหลีเหนืออาจจะมีเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธ (SSB) พร้อมใช้งานในเร็วๆ นี้
จอห์น เดมป์ซีย์ นักวิจัยด้านกลาโหมจากสถาบันระหว่างประเทศว่าด้วยยุทธศาสตร์ศึกษา (IISS) ให้ความเห็นผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ขนาดของ SLBM ที่เล็กลงนอกจากจะช่วยให้ติดตั้งบนเรือดำน้ำได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความยุ่งยากในการออกแบบ SSB และง่ายต่อการเอาเรือดำน้ำรุ่นเดิมที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลงให้ใช้ร่วมกันได้”
เดฟ ชเมอร์เลอร์ นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันเพื่อการไม่แพร่กระจายอาวุธศึกษา เจมส์ มาร์ติน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า “มันเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจก็จริง แต่การมีเรือดำน้ำแค่ลำเดียวที่ยิง SLBM ได้ก็ยังไม่สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก”
คิม ดงยุบ อดีตเจ้าหน้าที่กองทัพเรือเกาหลีใต้ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยคยุงนัมในกรุงโซล ชี้ว่า SLBM รุ่นใหม่นี้น่าจะถูกปรับปรุงมาจาก KN-23 ซึ่งเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ที่เกาหลีเหนือเคยทดสอบเมื่อปี 2019 เนื่องจากมีพิสัยเดินทาง รูปลักษณ์ภายนอก และเทคโนโลยีนำวิถีที่คล้ายกันมาก
KCNA อ้างว่าขีปนาวุธ SLBM รุ่นนี้มีศักยภาพล้ำสมัยหลายอย่าง รวมถึงคุณสมบัติที่เรียกว่า ‘flank mobility’ และ ‘gliding skip mobility’ ซึ่งช่วยให้ขีปนาวุธสามารถเปลี่ยนทิศทางเพื่อหนีการถูกตรวจจับหรือยิงสกัดได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา: รอยเตอร์
