หนึ่งวันก่อนหน้าสิงคโปร์จะยกเลิกมาตรการกักกันโรคสำหรับนักเดินทางจากสหรัฐฯที่ฉีดวัคซีนครบเข็มแล้ว ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) กลับออกคำเตือนถึงพลเมืองอเมริกันให้งดเดินทางเยือนประเทศแห่งนี้
ทั้งซีดีซีและกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ "อ้างถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระดับสูงมากในสิงคโปร์ สำหรับการออกคำเตือนดังกล่าว
จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮ็อปกินส์ พบว่าประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 70,374 คนในช่วง 28 วันหลังสุดและมีผู้ฉีดวัคซีนครบแล้วคิดเป็น 82% ของจำนวนประชากร ส่วนสหรัฐฯมีประชาชนฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วคิดเป็นแค่ 57% และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 2.8 ล้านคน
ในมาตรการที่จะเริ่มตั้งแต่วันอังคาร(19ต.ค.) เป็นต้นไป นักเดินทางจากสหรัฐฯสามารถเดินทางเข้าสิงค์โปร์โดยไม่ต้องกักตัว ตราบใดที่พวกเขาแสดงเอกสารรับรองผ่านการฉีดวัคซีนครบเข็มแล้ว และมีผลตรวจ PCR เป็นลบ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือภายใน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางและอีกครั้งเมื่อเดินทางมาถึงสิงคโปร์
“สิงคโปร์ไม่สามารถที่ล็อกดาวน์และปิดประเทศได้ตลอดไป” นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง กล่าวระหว่างที่ชี้แจงยุทธศาสตร์ “อยู่ร่วมกับโควิด-19” เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม
“ไวรัสสายพันธุ์เดลตาระบาดได้ง่ายมาก และมันได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกแล้ว ต่อให้ประชากรทุกคนได้รับวัคซีนครบหมด เราก็ไม่สามารถกำจัดมันให้หมดไปได้ เกือบทุกประเทศก็ยอมรับความจริงในข้อนี้”
นอกจากนี้แล้วในวันจันทร์(18ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯยังเรียกร้องให้พลเมืองอเมริกัน พิจารณาทบทวนการเดินทางไปโปแลนด์ ฮังการี ไซปรัส ตูนิเซียและแองโกลา สืบเนื่องจากพื้นที่เหล่านี้มีความเสี่ยงโควิด-19 เพิ่มขึ้น
(ที่มา:ยูเอสเอทูเดย์)