รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีเปรูวันนี้(7 ต.ค)รับการสาบานตนจากอดีตประธานสภาคองเกรส เมอร์ธา วาสเกซ(Mirtha Vasquez)ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่หลังคนเก่า กุยโด เบลลิโด( Guido Bellido)ยอมยื่นใบลาออกหลังเพิ่งทำงานไปได้แค่ 2 เดือน ด้านอดีตผู้นำที่อื้อฉาว อัลแบร์โต ฟูจิโมริ เข้ารับการผ่าตัดหัวใจหลังถูกส่งโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์(1 ต.ค)ที่ผ่านมา
รอยเตอร์รายงานวันนี้(7 ต.ค)ว่า ประธานาธิบดีเปรู เปโดร คาสติญโญ (Pedro Castillo)ในวันพุธ(7)รับการสาบานตนจาก อดีตประธานสภาคองเกรส เมอร์ธา วาสเกซ(Mirtha Vasquez)ในฐานะนายกรัฐมนตรีเปรูคนใหม่หลังคนเก่าถูกบีบและต้องยื่นใบลาออกหลังจากทำงานไปได้แค่ 2 เดือนเท่านั้นท่ามกลางรัฐบาลลิมาผจญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมือง
ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหม่ของคาสติญโญยังคงทำให้เขาอยู่ในสเปรคตัมการเมืองปีกซ้ายของแดนละตินต่อไป พบว่าคาสติญโญซึ่งเป็นสมาชิกพรรคสังคมนิยม Peru Libre หรือ ฟรีเปรู ยังเก็บรัฐมนตรีเศรษฐกิจกลางซ้าย เปโดร ฟรัคเกอ ( Pedro Francke) ให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป
ขณะเดียวกันตั้ง เอดูอาร์โด กอนซาเลซ โตโร( Eduardo Gonzalez Toro) ขึ้นเป็นรัฐมนตรีพลังงานและเหมืองแร่เปรูคนใหม่
ทั้งนี้การทำเหมืองแร่ถือเป็นภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญของเปรูโดยเปรูเป็นผู้ผลิตทองแดงเป็นอันดับ 2 ของโลกตามหลังเบอร์หนึ่ง ชิลี ประเทศเพื่อนบ้าน คาสติญโญประกาศเป้าหมายต้องการขึ้นภาษีของภาคอุตสาหกรรมนี้เพื่อเป็นงบประมาณสำหรับโครงการสังคมนิยมของตัวเขา
อดีตนายกรัฐมนตรีเปรูเบลลิโดนั้นไม่เป็นที่รู้จักก่อนหน้าเข้ารับตำแหน่งแต่ลักษณะความเป็นคนโผงผางไม่สนใจใครสร้างความสั่นสะเทือนต่อสภาคองเกรสเปรูที่มีฝ่ายค้านเป็นผู้กุมอำนาจ ขณะที่บรรดานักลงทุนต่างพากันขวัญหนีดีฝ่อรัฐบาลการเมืองสังคมนิยมเปรู
วาสเกซนายกรัฐมนตรีเปรูคนใหม่นั้นเคยดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาเปรูระหว่างปี 2020 -2021 และเธอมีอาชีพทนายความแต่เดิมและเคยประสบความสำเร็จในการว่าความปกป้องให้กับลูกความชาวนาที่ยากจนของตัวเอง แม็กซิมา อาคูนา (Maxima Acuna)ในคดีที่โด่งดังไปทั่วโลกโดยที่มีฝ่ายตรงข้ามเป็นยานาโคชา(Yanacocha gold mine)ของบริษัทนิวมอนต์ มายนิง คอร์ป ( Newmont Mining Corp)
เบลลิโดออกมาทวีตทันทีหลังการประกาศข่าวลาออกจากตำแหน่งของตัวเองว่า เขาจะสู้พร้อมกับโพสต์ภาพฉากการต่อสู้จากภาพยนต์ชื่อดัง เดอะ แกลดิเอเตอร์ (Gladiator) เหมือนที่จะบอกเป็นนัยว่าเขาพร้อมที่จะท้าทายกับคาสติญโญในอนาคต เบลลิโดได้กล่าวอย่างเปิดเผย อ้างอิงจากสปุตนิค นิวส์ สื่อรัสเซีย ในหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ว่า ทำไปเพื่อเป็นไปตามคำขอของประธานาธิบดีเปรู เปโดร คาสติญโญ
ซึ่งในแถลงการณ์ต่อประชาชนเปรูของคาสติญโญ พบว่าเขาได้ประกาศข่าวการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเบลลิโด พร้อมกับชี้ว่า เปรูมีความคาดหวังที่สูงต่อผู้ที่ทำหน้าที่ให้กับรัฐ “ถึงเวลาแล้วที่ต้องให้เปรูมาก่อนเหนืออุดมการณ์ทั้งปวงแยกจุดยืนพรรคการเมืองออกไป”
นอกจากนี้เขายังชี้ว่า คณะรัฐมนตรีเปรูชุดใหม่จะเข้าพิธีสาบานตนในวันพุธ(6)และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทางการเมือง ทุกภาคเศรษฐกิจและสังคมร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมเพื่อเปรู
รอยเตอร์ชี้ว่า เบลลิโดร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองปีกซ้ายฟรีเปรูร่วมพรรคกับคาสติญโญ แต่ทว่าวาสเกซไม่ได้สังกัดพรรคนี้แต่เธอร่วมกับพรรคการเมืองปีกซ้าย บรอด ฟรอนต์ (Broad Front) ที่แสดงความวิตกเกี่ยวข้องกับประเด็นสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ
ขณะเดียวกันอดีตประธานาธิบดีเปรูเชื้อสายญี่ปุ่นผู้อื้อฉาว อัลแบร์โต ฟูจิโมริ ต้องเข้ารับผ่าตัดหัวใจด่วนหลังจากที่เขาถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์(1)ที่ผ่านมา
NHK ของญี่ปุ่นรายงานในวันอังคาร(5)ว่า เจ้าหน้าที่เปรูเปิดเผยว่า ฟูจิโมริถูกนำตัวออกมาจากเรือนจำเพื่อไปยังโรงพยาบาลในกรุงลิมาเมื่อวันศุกร์(1)ที่ผ่านมาหลังจากสุขภาพของเขาทรุดโทรมลง และเขาถูกย้ายไปโรงพยาบาลอีกแห่งในวันจันทร์(4)เพื่อเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ
ทั้งนี้เคอิโกะ ฟูจิโมริ (Keiko Fujimori)บุตรสาวฟูจิโมริ ได้ออกมาทวีตในวันจันทร์(4)ถึงปัญหาด้านสุขภาพของผู้เป็นบิดาว่า ฟูจิโมริมีสุขภาพอ่อนแอมากและปัญหาโรคหัวใจของเขาแย่ลง
ฟูจิโมริปัจจุบันมีอายุ 83 ปีเขากลายเป็นผู้นำเปรูเชื้อสายญี่ปุ่นคนแรกในปี 1990 และได้แสดงความสามารถทางการบริหารในด้านเศรษฐกิจและนโยบายทางความมั่นคง
ซึ่งหลังจากเกษียณอายุแล้วฟูจิโมริถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 25 ปีในเรือนจำเมื่อปี 2010 โดยพบว่ามีความผิดในการสั่งการหน่วยความมั่นคงเปรูในการสังหารพลเรือนเมื่อยุค 90
อย่างไรก็ตามศาลสูงสุดเปรูได้สั่งอภัยโทษแก่ฟูจิโมริในปี 2017 โดยอ้างไปถึงปัญหาสุขภาพของเขาแต่ได้ออกคำสั่งยกเลิกการอภัยโทษภายหลังในปีถัดมา และทำให้ฟูจิโมริต้องถูกนำตัวกลับเข้าเรือนจำอีกครั้งและเมื่อไม่นานมานี้ตัวเขาต้องถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเป็นระยะๆ