กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงทุบสถิติใหม่ 2,909 รายเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) ซึ่งเป็นจำนวนผู้ป่วยรายวันสูงสุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมทะลุหลัก 100 คน
ตัวเลข 2,909 รายนี้เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศทั้งหมด 2,897 ราย โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยในชุมชน 2,079 ราย และผู้ป่วยตามหอพักที่พบการระบาดแบบคลัสเตอร์อีก 818 ราย
ในรอบวันที่ผ่านมา ยังมีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มอีก 8 ราย โดยเป็นชายชาวสิงคโปร์ 7 ราย และหญิงชาวสิงคโปร์อีก 1 ราย ซึ่งทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมขยับไปอยู่ที่ 103 ราย
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ณ วันที่ 1 ต.ค. มีผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลรวมทั้งสิ้น 1,356 ราย โดยเป็นผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน 222 ราย และผู้ป่วยไอซียู 34 ราย
ทางกระทรวงย้ำว่า 98.2% ของผู้ติดเชื้อใหม่ 31,057 รายในช่วง 28 วันที่ผ่านมา “ไม่แสดงอาการป่วย” หรือ “มีอาการเพียงเล็กน้อย” ซึ่งถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจจากการฉีดวัคซีน
จากข้อมูลเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ประชากรสิงคโปร์ 82% ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว และ 85% ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ซึ่งถือเป็นอัตราการฉีดที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
รัฐบาลสิงคโปร์เริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดทางสังคมตั้งแต่เดือนที่แล้วตามยุทธศาสตร์ “อยู่ร่วมกับโควิด” โดยอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสามารถนั่งรับประทานอาหารในร้าน และร่วมกลุ่มสังสรรค์ได้ไม่เกิน 5 คน จากเดิมที่จำกัดการรวมตัวไม่เกิน 2 คน
อย่างไรก็ตาม การแพร่กระจายที่รวดเร็วของเชื้อสายพันธุ์ “เดลตา” ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ตัดสินใจฟื้นมาตรการคุมเข้มอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ (27 ก.ย.) โดยจำกัดการรวมตัวไม่เกิน 2 คน ให้พนักงานบริษัทและหน่วยงานต่างๆ ทำงานจากที่บ้านเป็นหลัก จากที่เคยผ่อนคลายให้มีพนักงานในออฟฟิศได้ถึง 50% และให้นักเรียนที่อายุต่ำกว่า 12 ปีลงกลับไปเรียนออนไลน์
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์จะมีการพิจารณาทบทวนมาตรการทุกๆ 2 สัปดาห์
ที่มา : CNN