xs
xsm
sm
md
lg

ต้องไปเห็นกับตา! สุดยอดสถาปัตยกรรมและไฮเทคโนโลยีล้ำยุค ณ อภิมหามหกรรมโลก ‘ดูไบ เอ็กซ์โป’ ดูได้ถึงมี.ค. 2022

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เปิดให้ชาวโลกเข้าชมได้แล้ว งานอภิมหามหกรรมโลก “ดูไบ เอ็กซ์โป”  สุดยอดสถาปัตยกรรมและไฮเทคโนโลยีล่าสุด ที่ต้องไปเห็นด้วยตาตนเอง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2021 ถึง 31 มีนาคม 2022 โดยประเทศไทยมีพาวิลเลียนอันโอฬารงามวิจิตร ในโซน Mobility District ที่ชาวไทยทั้งประเทศสามารถร่วมภาคภูมิใจ ทั้งในมิติของพัฒนาการแห่งเทคโนโลยี และในมิติของผลงานและผลิตภัณฑ์ศิลปะ การท่องเที่ยว ไปจนถึงแหล่งช็อปปิ้งและอาหารที่ชาวอาหรับชมชอบ (ดูเพิ่มเติมที่ภาพ 11)
ผู้คนนับล้านไปพร้อมกันอยู่ที่นครดูไบ UAE ในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าชมการแสดงแสนยานุภาพแห่งการพัฒนาประเทศสู่โลกอนาคต ซึ่งจัดแสดงตามอาคารพาวิเลียนอันงดงามอลังการ จำนวนมหาศาลถึง 193 อาคาร ทั้งของ ยูเออี ชาติมหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าภาพ และอีก 192 ประเทศ ภายในงานมหกรรมโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี คือ Dubai Expo 2020 หรือ ดูไบ เอ็กซ์โป 2020 ซึ่งเลื่อนรอกันมาหนึ่งปีให้ภัยโควิดเบาคลาย เอเอฟพีรายงานอย่างนั้น

พื้นที่จัดเอ็กซ์โปขนาดมโหฬารถึง 4.3 ตารางกิโลเมตร ซึ่งหมายให้เป็นเมืองอนาคตในฉายาว่า District 2020 หรือก็คือ อาณาเขต 2020 ถูกเนรมิตขึ้นมาที่บริเวณชานเมืองลงไปทางทิศใต้ของมหานครดูไบ โดยมีรถไฟฟ้า Metro Expo เชื่อมจากใจกลางเมือง นำส่งตรงถึงเมืองอนาคต ซึ่งเปิดให้ชาวโลกเข้าชมตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2021 เป็นเวลา 6 เดือน คือสรุปจบงานในวันที่ 31 มีนาคม 2022 ทั้งนี้ สามารถชื่นมื่นกับพิธีเปิดงานอันยิ่งใหญ่หรูเลิศ ที่อิ่มเอมกันเรียบร้อยแล้วเมื่อค่ำคืน 30 กันยายน 2021 ที่ ยูทูป และ https://www.expo2020dubai.com/news/expo-tv

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE เสกสร้างงานเอ็กซ์โปโลกประจำปี 2020 ด้วยการเนรมิตอาคารอำนวยการ และอาคารพาวิเลียนรองรับนิทรรศการจากทั่วโลกจำนวนมากกว่า 200 อาคารได้อย่างโอฬารตระการยิ่ง ทั้งในด้านรูปทรงของอาคารที่สะท้อนพัฒนาการแห่งจินตนาการและเทคโนโลยีขั้นสูง และทั้งในด้านของความหรูวิจิตรแห่งศิลปะและอารยธรรม ผู้ได้พบเห็นจะปลาบปลื้มด้วยความตื่นตาตื่นใจและความทึ่งขั้นสุด

ความงดงามคลาสสิกของปราการประตูทางเข้า-ออก District 2020 ซึ่งสร้างด้วยลวดลายแบบไม้ขัดระแนงสไตล์ศิลปะตะวันออกกลางขนานแท้ ที่เรียกกันว่า มาช ราบิญา (Mashrabiya)
ปราการประตูสูง 21 เมตร ลีลาศิลปะ Mashrabiya แห่งตะวันออกกลาง และอภิมหาโดมแห่งผืนโลหะลายลูกไม้ขนาด 150 เมตร

เริ่มตั้งแต่ปราการประตูทางเข้าพื้นที่จัดงาน District 2020 ที่รอต้อนรับชาวโลกด้วยขนาดอันใหญ่ยักษ์ สมฐานะด่านหน้าเข้าสู่อภิมหาเอ็กซ์โป 4.3 ตารางกิโลเมตร (พื้นที่ของอิมแพ็คเมืองทองทั้งหมดเท่ากับประมาณ 0.13 ตารางกิโลเมตร) ปราการประตูซึ่งประดิษฐานประจำทางเข้า 3 ทิศ มีความสูง 21 เมตรกับความยาว 30 เมตร และมีความงดงามคลาสสิกเป็นที่ยิ่ง เพราะสร้างขึ้นมาโดยอิงกับลวดลายแบบไม้ขัดระแนงสไตล์ศิลปะตะวันออกกลางขนานแท้ ที่เรียกกันว่า มาช ราบิญา (Mashrabiya) และผนวกกับความทันสมัยเชิงเทคโนโลยี คือ การใช้วัสดุคาร์บอน ไฟเบอร์ ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทว่าแข็งแรง (หมายเหตุ: 21 เมตร เท่ากับประมาณตึกสูง 8 ชั้น)

เมื่อเข้าสู่พื้นที่งานเอ็กซ์โป จะต้องทยอยชมมหกรรมนิทรรศการใน 3 โซนยักษ์: โซนแห่งความยั่งยืน (Sustainability District) โซนแห่งการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้ายสู่อนาคต (Mobiliyt District) และโซนแห่งโอกาส (Opportunity District) โดยแต่ละโซนทอดตัวแผ่ยาวออกไปจากพื้นที่ศูนย์กลางซึ่งมีนามไพเราะ ว่า Al Wasl Plaza (อัล วาสล์ พลาซ่า) อันเป็นนามเก่าแก่ดั้งเดิมของมหานครดูไบ และเป็นถ้อยอรรถแห่งภาษาอาหรับที่หมายถึง “ความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยง”

ความงดงามหรูวิจิตรของลวดลายแบบไม้ขัดระแนงสไตล์มาช ราบิญา (Mashrabiya) แห่งปราการประตูทางเข้า-ออก District 2020  ปรากฏชัดเจนในช่วงตะวันพลบ ด้วยความสูงเทียบเท่าอาคาร 8 ชั้น
Al Wasl Plaza ถูกสร้างเป็นพลาสซ่าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 150 เมตร และครอบด้วยโดมแห่งผืนเหล็กกล้าลวดลายลูกไม้ สูงตระหง่าน 65 เมตร (เทียบเท่ากับตึก 25 ชั้น) เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการพบปะ พักผ่อนหย่อนใจ และการจัดอีเวนต์รายการยักษ์รองรับผู้คนได้มหาศาลกว่า 10,000 ราย โดยมีสารพันน้ำพุและสวนสวยจรรโลงใจ เคียงข้างกับบรรดาภัตตาคาร ร้านอาหาร และซุ้มเครื่องดื่มรูปโฉมไฉไล

เสน่ห์วิเศษของโดมครอบ Al Wasl Plaza ที่ยูเออีตั้งใจกำนัลแก่ผู้มาเที่ยวงานเอ็กซ์โป คือ มหัศจรรย์แห่งสถาปัตยกรรมแสนงามสุดยอดโรแมนติก ที่สร้างจากเหล็กกล้าจากฮังการี โปแลนด์ และเช็กเกีย เหล็กกล้าเหล่านี้ขึ้นรูปเป็นลวดลายลูกไม้ที่เบลเยียม เยอรมนี และสเปน ก่อนจะนำไปเชื่อมเป็นผืนใหญ่ที่อิตาลีและที่อาบู ดาบี นครหลวงของยูเออี ผู้คนที่อยู่ภายใต้ครอบโดม สามารถมองทะลุผืนลูกไม้โลหะ ออกไปเห็นแผ่นท้องฟ้าและมวลเมฆนุ่มตาสวยใสในเวลากลางวัน และตะลึงลานกับแสงดวงระยิบระยับยามราตรีแห่งทะเลทรายริมอ่าวเปอร์เซีย

โดมแห่งผืนเหล็กกล้า งดงามอย่างที่สุดด้วยลวดลายลูกไม้โลหะ สามารถมองทะลุจากภายนอกสู่ภายใน

ส่วนสูงสุดของโดมครอบ Al Wasl Plaza ซึ่งสามารถมองจากด้านในออกไปสบสายตากับฟากฟ้าและมวลเมฆขาว

ผู้คนที่อยู่ภายใต้ครอบโดม สามารถมองทะลุผืนลูกไม้โลหะ ออกไปตะลึงลานกับแสงดวงระยิบระยับยามราตรีแห่งทะเลทรายริมอ่าวเปอร์เซีย
พบสุดยอดมหัศจรรย์แห่งสถาปัตยกรรม ณ อาคาร Terra ที่ UAE ภูมิใจเสนอ

สุดยอดของมหัศจรรย์แห่งสถาปัตยกรรมเมืองอนาคต District 2020 ไปปรากฏที่ อาคาร Terra ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่จะงดงามตระการตาในโซน Sustainability หากยังแน่นขนัดด้วยนิทรรศการความก้าวหน้าของวิทยาการใต้ท้องทะเลและใต้แผ่นดินผืนป่าในรูปแบบหอนิทรรศการเสมือนจริงขนาดมโหฬาร ซึ่งยูเออีมุ่งจะนำเสนอแนวคิดว่าด้วยโลกที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีเพื่อระบบนิเวศน์

Terra ได้รับการออกแบบเป็นอาคารที่ชูช่อขึ้นไปสยายบานในเวิ้งฟ้า พร้อมกับมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางใหญ่โตกว่า 6,700 ตารางเมตร อยู่ใต้ผืนดิน เพื่อจัดแสดงนิทรรศการวิทยาศาสตร์ ขณะที่ส่วนที่เป็นแกนอาคารนั้น สร้างเป็นปล่องสูดเอาอากาศสดชื่นจากชั้นบรรยากาศชื้นซึ่งแวดล้อมทั่วพื้นที่ซึ่งมาจากท้องทะเลของอ่าวเปอร์เซียนั่นเอง

อาคาร Terra ส่วนที่สยายบานในอากาศนั้น ที่แท้คือฝาครอบอาคารขนาด 130 เมตร หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นชั้นดาดฟ้า เพื่อวางแผงโซลาร์เซลล์พร้อมกับ แผงเก็บเกี่ยวความชื้นออกจากชั้นบรรยากาศด้วยระบบควบแน่น ที่เปลี่ยนความชื้นให้เป็นน้ำใช้สอยภายในอาคารพร้อมกับช่วยลดอุณหภูมิที่มาจากอากาศรอบอาคารและจากร่างกายมนุษย์ไปในเวลาเดียวกัน

ขณะที่ ดาดฟ้าฝาครอบอาคาร Terra ทำหน้าที่เป็นแหล่งสร้างพลังงานไฟฟ้าและมวลน้ำ เขามีผลประโยชน์ข้างเคียงที่สำคัญ คือ การให้ร่มเงาแก่พาร์วิลเลียนและทางเดินเชื่อมอาคารทั้งปวง นอกจากนั้น ตามพื้นที่รอบๆ Terra มีต้นไม้ผลิตพลังงานด้วยแผงโซลาร์เซลล์ ผุดขึ้นมา 18 ต้น และมีสวนสาธิตจำนวนมากที่เป็นการทดลองปลูกพืชใหม่ๆ ที่สามารถปรับตัวกับภูมิอากาศแห้งแล้ง เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งอาหารต่อไปในกาลข้างหน้า

อาคาร Terra Pavilion ที่มีดาดฟ้าฝาครอบอาคาร ทำหน้าที่เป็นแหล่งสร้างพลังงานไฟฟ้าและมวลน้ำ โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางใหญ่โตกว่า 6,700 ตารางเมตร อยู่ใต้ผืนดิน เพื่อจัดแสดงนิทรรศการวิทยาศาสตร์
อาคารทรงใบไม้สามแฉก: Alif - พาวิลเลียนแห่งการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้ายสู่อนาคต หรือ Mobility Pavilion

Alif อาคารทรงใบไม้สามแฉกที่งามเนี้ยบกริบในสถาปัตยกรรมอันโฉบเฉี่ยวและโอ่อ่า พร้อมบรรยากาศที่ให้อารมณ์ความมั่นคงสมมาตร ทำหน้าที่เป็นพาวิลเลียนแห่งการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้ายสู่อนาคต – The Mobility Pavillion พร้อมกับลดระดับความรู้สึกแบ่งแยกระหว่างโลกที่จับต้องได้กับโลกดิจิทัล

อาคาร Alif อันเป็นอักษรอารบิกตัวแรก และเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นสู่ความก้าวหน้าและสู่เส้นขอบฟ้าใหม่ใหม่ๆ มีโดดเด่นด้วยลิฟท์ใหญ่ยักษ์ที่สุดของโลก ซึ่งสามารถขนย้ายผู้คนได้เที่ยวละมากกว่า 160 คน พร้อมกับมีเส้นทางกึ่งใต้ดินกับกึ่งโล่งแจ้งความยาวถึง 330 เมตร ที่จะพาให้ผู้ชมงานเอ็กซ์โปได้รับประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจจากบรรดาสิ่งประดิษฐ์ที่เลิศล้ำที่สุดของโลก อาทิ
- ทดลองสร้างหุ่นยนต์ด้วยตนเอง
- ฝึกออกแบบยานอวกาศ
- ชมสาธิตอุปกรณ์สะพายขึ้นหลังที่พาให้บินได้ หรือก็คือ Jetpack นั่นเอง
- ชมรถสามล้อพลังแสงอาทิตย์ราคาจับต้องได้ ที่จะทรงคุณค่าต่อพัฒนาการของผู้คนในประเทศกำลังพัฒนา
- ร่วมเวิร์กช็อปเพื่อเข้าใจเทคโนโลยีโดรนและหุ่นยนต์

นิทรรศการสนุกๆ มากมายภายใน Mobility Pavilion แสดงให้เห็นพัฒนาการของมนุษยชาติตลอดหลายปีที่ผ่านมา และนำสู่การสำรวจที่ไกลกว่าพรมแดนเดิมๆ เช่น เมืองอัจฉริยะทั้งหลาย ไปจนถึงการสร้างปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้งการพัฒนาให้เครื่องจักรคำนวณได้ คิดหาเหตุผลได้ และมีการเรียนรู้ได้เสมือนสมองมนุษย์ (Machine Learning - ML ที่ทำให้แอปต่างๆ วิเคราะห์ทำนายได้แม่นยำมากขึ้นอย่างมหาศาล) ตลอดจนวิทยาการหุ่นยนต์ และยานยนต์ไร้คนขับ

อาคาร Alif ทรงใบไม้สามแฉกในโซน Mobility Pavillion มีนิทรรศการวิทยาศาสตร์ล้ำยุคสนุกๆ มากมาย และพื้นที่ล้อมรอบอาคารมีเส้นทางรองรับการเคลื่อนย้าย รวมทั้ง ยานพาหนะแห่งอนาคตที่ไร้คนขับ โดยบางส่วนของเส้นทางหลบอยู่ใต้ดิน
“พาวิลเลียน UAE” อาคารสัญลักษณ์แห่งเหยี่ยว: ที่สุดแห่งอลังการงานสร้างของ Dubai Expo 2020

พาวิลเลียน UAE บนพื้นที่ 15,000 ตารางเมตรซึ่งใหญ่โตโอฬาร และตระการตาด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างหลังคาที่ถอดแบบจากการกระพือปีกของนกเหยี่ยว โดยโครงสร้างนี้ประกอบขึ้นด้วย 28 ปีกซ้อนสองชั้น ซึ่งเคลื่อนขยับเพื่ออัดฉีดพลังชีวิตเข้าสู่ภายในอาคาร พร้อมกับดูดซับแสงตะวันไปสร้างพลังงานไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด อันเป็นสถาปัตยกรรมเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม - หัวใจแห่งการออกแบบอาคารงดงามแห่งนี้

นอกจากนั้น ณ จุดยอดของหลังคาอัจฉริยะ มีช่องที่เปิดทางให้แลเห็นแสงตะวันเจิดจ้า ผ่านฉากสกรีนลวดลายเดียวกับผืนเหล็กกล้าลายลูกไม้ของโดมแห่งพลาซ่าศูนย์กลาง Al Wasl Plaza

ด้วยพื้นที่ใช้สอย 4 ชั้น รวม 19,200 ตารางเมตร มีการจัดแสดงนิทรรศการหลายหลาย ทั้งโครงการอวกาศสู่ดาวอังคารของ UAE ทั้งตึกบุรจญ์ เคาะลีฟะฮ์ อันยิ่งใหญ่โอฬาร (Burj Khalifa ความสูง 828 เมตร โดยเป็นตึกระฟ้าสูงที่สุดของโลกมาตลอดตั้งแต่ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ 2 ธันวาคม 2009) ไปจนถึงนิทรรศการวัฒนธรรมและความสำเร็จมากมายของชาวเอมิเรตส์ พร้อมนี้ ยังมีลานสำหรับซุ้มกาแฟและห้องอเนกประสงค์ เพื่อการพบปะหารือและการพักผ่อนอิริยาบถ

จุดที่เด็ดที่สุดอยู่ ณ พื้นที่ใจกลางของพาวิลเลียน เป็นหอการแสดงนิทรรศการภาพเคลื่อนไหวที่พิเศษสุด กล่าวคือ เป็นแท่นขนาดมหึมาที่ยกลอยขึ้นไปยังฟลอร์ที่ 2 เพื่อนำผู้เข้าชมให้ได้เห็นภาพออดิโอแสดงนิทรรศการบนจอยักษ์ รอบละ 200 ราย

พาวิลเลียน UAE ที่เป็นหนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ Dubai Expo โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาปัตยกรรมโครงสร้างหลังคาที่ถอดแบบจากการกระพือปีกของนกเหยี่ยว  โดยปีกทั้ง 28 ชิ้นมีลักษณะเป็นปีกซ้อนสองชั้นที่ขยับขึ้นมาได้ถึง 120 องศา นับเป็นความงดงามโอฬารที่ต้องไปเห็นด้วยตาตนเอง

การถอดโครงสร้างการกระพือของปีกนกเหยี่ยวลงมาเป็นหลังคาคลุมอาคารพาวิลเลียน UAE
ตระการตากับหลากหลายพาวิลเลียนที่เลอเลิศด้วยแนวคิดเพื่อความยั่งยืนควบคู่กับเทคโนโลยีขั้นสูงใน Dubai Expo 2020

พาวิลเลียนประเทศไทย

พาวิลเลียนประเทศไทยนำเสนอในธีม Miracle of Smiles หรือมหัศจรรย์แห่งรอยยิ้ม พร้อมจัดทำนิทรรศการในแนวคิด “การขับเคลื่อนสู่อนาคต”หรือ Mobility for the Future โดยมีองค์ประกอบนิทรรศการอันประณีตงดงาม รวม 4 ชุด ที่เผยให้ทั่วโลกทราบถึงนโยบายการขับเคลื่อนประเทศ ได้แก่ ชุด Thai Mobility จัดแสดงเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จำลองและราชรถจำลอง ให้ความรู้เกี่ยวกับการเดินทางของคนไทยในอดีต ชุด Mobility of Life นำเสนอภาพยนตร์แอนิเมชัน สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน ชุด Mobility of the Future นำเสนอภาพยนตร์แอนิเมชัน 360 องศา โดยเป็นการฉายภาพอนาคตประเทศไทยที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาค และ ชุด Heart of Mobility ซึ่งฉายผ่านภาพยนตร์สั้น บอกเล่าเรื่องราวเสน่ห์ของประเทศไทยในหลากหลายมิติ ที่สร้างความประทับใจให้ชาวต่างชาติเดินทางมาเยี่ยมเยือน ทำธุรกิจ หรือใช้ชีวิตในประเทศไทย

ในส่วนของศิลปะและไลฟ์สไตล์ที่จับต้องได้ มีการจัดทำร้านอาหารไทยให้ผู้เข้าชมงานได้ลิ้มรสความอร่อยของอาหารไทยแท้ และร้านขายของที่ระลึกที่คัดสรรสินค้าดีมีคุณภาพจากประเทศไทยร่วมสร้างความประทับใจ

ส่วนบริเวณด้านหน้าพาวิลเลียนมีเวทีกิจกรรมจัดแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยภายใต้แนวคิด “Thai iconic: ความเป็นไทยสู่สายตานานาชาติ”

พร้อมนี้ พาวิลเลียนประเทศไทยมีนิทรรศการ และกิจกรรมพิเศษ จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหมุนเวียนมาร่วมจัดแสดงตลอด 6 เดือนด้วย

พาวิลเลียนประเทศไทยงามวิจิตรด้วยฉากด้านหน้าที่เป็นลวดลายดอกไม้ พร้อมคู่มาสคอตน้องมะลิกับน้องรัก ด้านในมีการจัดแสดงเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จำลองและราชรถจำลอง กับการฉายภาพยนตร์ต่างๆ อาทิ ชุดเสน่ห์ประเทศไทยพร้อมสถานที่ท่องเที่ยว
พาวิลเลียนจีน

ดูไบชมชอบที่จะทำสิ่งอันมหึมา จีนก็เช่นกัน พาวิลเลียนจีนเป็นหนึ่งในพาวิลเลียนใหญ่โตมโหฬารที่สุดภายใน Dubai Expo 2020 โดยเป็นอาคารทรงกลมที่ตกแต่งในคอนเซ็ปต์ตะเกียงแบบจีนแท้ๆ นิทรรศการที่นำเสนอภายในมีความผสมผสานระหว่างนวัตกรรมโบราณที่ถูกพัฒนาเป็นเทคโนโลยีทันสมัย ไปจนถึงนวัตกรรมไฮเทค อาทิ หุ่นยนต์หมีแพนด้าทั้งเก่ง ฉลาด และน่ารัก

พาวิลเลียนซาอุดีอาระเบีย

พาวิลเลียนซาอุดิอาระเบียมีความมโหฬารสูงสุดอันดับสองในงานเอ็กซ์โปดูไบ โดยเป็นอาคาร 6 ชั้น ที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตในราชอาณาจักรซาอุฯ จำนวน 650 แผง เทคโนโลยีขั้นสูงที่นำมาจัดทำนิทรรศการ ชนะรางวัลสถิติโลกของกินเนส์ (Guinness World Records Awards) มาเรียบร้อยแล้วถึง 3 รายการ ได้แก่
- พื้นกระเบื้องฟลอร์เต้นระบำ LED แบบโต้ตอบกับการเคลื่อนไหวของมนุษย์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ยักษ์ที่สุดในโลก
- ม่านน้ำตกแบบโต้ตอบกับสัมผัสของมนุษย์ ที่สูงที่สุดในโลก คือ 32 เมตร
- แผงกระจกดิจิทัลแบบโต้ตอบกับสัมผัสของมนุษย์ ที่ใหญ่ที่สุดของโลก

พาวิลเลียนสิงคโปร์

สิงคโปร์ยกเอาป่าฝนเขตร้อนไปนำแสดงในพาวิลเลียนที่ Dubai Expo ภายใต้คอนเซ็ปต์ Nature, Nurture and Future สิงคโปร์ขอนำเสนอมุมมองว่ามหานครที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติจะมีโฉมหน้าอย่างไร และจะทำให้เป็นเช่นนี้ได้ทุกแห่งในโลกนั้น ต้องใช้วิธีที่อัจฉริยะและยั่งยืนอย่างไร โดยสิงคโปร์เชิญชาวโลกเข้าชมพาวิลเลียนที่เป็นพื้นที่สีเขียวดกทึบแบบสามมิติ และหลายชั้นหลายเลเยอร์ อันเป็นความสำเร็จแห่งวิสัยทัศน์เฉพาะตัวของสิงคโปร์ที่พัฒนาขึ้นเป็นมหานครในโอบล้อมแห่งธรรมชาติ

พาวิลเลียนจีน

พาวิลเลียนซาอุดีอาระเบีย

พาวิลเลียนสิงคโปร์
พาวิลเลียนฮังการี

ฮังการีเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งน้ำพุร้อนมากที่สุดในยุโรป จึงนำมาสร้างพาวิลเลียนแห่งน้ำ ผู้เข้าชมจะได้เพลิดเพลินกับนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟที่นำเสนอแหล่งน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ของฮังการี วัฒนธรรมการอาบน้ำแบบฮังการี และศาสตร์แห่งการบำบัดอาบแช่น้ำพุร้อนเพื่อรักษาโรค พร้อมนี้ สถาปัตยกรรมสไตล์หลังคาฝาเห็ดก็ดูสนุกดี

พาวิลเลียนออสเตรเลีย

พาวิลเลียนของออสเตรเลียมาอย่างอุ่นหนาฝาคั่งด้วยเวทีดนตรีตั้งแต่ทางเข้าอาคารกันเลยทีเดียว และตลอด 6 เดือนของการจัดแสดงเอ็กซ์โปก็จะมีการแสดงสด มีนักดนตรี ไปจนถึงแดนเซอร์สนุกสนานไม่มีเว้นวรรค

พาวิลเลียนโดดเด่นอื่นๆ

พาวิลเลียนอียิปต์นำโลงศพโบราณขนานแท้มาจัดนิทรรศการยุคสมัยแห่งฟาโรห์ พาวิลเลียน โมร็อกโกจัดสร้างอาคารดินเทคนิคโบราณสูง 33 เมตร พาวิลเลียนเนเธอร์แลนด์จัดสร้างปิรามิดพืชที่เป็นอาหาร พร้อมระบบชลประทานน้ำฝนที่ผลิตโดยพลังแสงอาทิตย์

สถาปัตยกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจทั้งปวงภายในมหกรรม Dubai Expo อันใหญ่โตมโหฬาร ล้วนสะท้อนธีมหลักที่ UAE กำหนดขึ้นว่า ยั่งยืน, เปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้ายสู่อนาคต และสร้างโอกาสร่วมกัน บนพื้นฐานของเทคโนโลยีขั้นสูงและความเป็นมิตรต่อระบบนิเวศน์ และภายในบรรยากาศแห่งศูนย์กลางของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจระหว่างประเทศ

เอเอฟพีรายงานด้วยว่า UAE ตั้งเป้าว่าตลอด 6 เดือนของนิทรรศการโลกที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง จะมีชาวโลกเข้าไปเยี่ยมชมไม่น้อยกว่า 25 ล้านราย ซึ่งอาจจะเป็นจริงได้ ในเมื่อโลกของเรามีมหกรรมนานาชาติลดน้อยลงฮวบฮาบ โดย Dubai Expo เป็นอภิมหามหกรรมโลกรายการที่ 2 ของปี 2021 หลังจากที่ญี่ปุ่นได้จัดโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยไม่เปิดให้ชาวต่างชาติเข้าชม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด

พาวิลเลียนฮังการี

พาวิลเลียนออสเตรเลีย

พาวิลเลียนโมร็อกโก
เอพีวิเคราะห์ งานนี้อาจทำ UAE ขาดทุน เพราะปัญหาโควิดยังเป็นอุปสรรค

ส่วนเอพีวิเคราะห์ว่า UAE ซึ่งมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับจีน ตั้งหวังว่าจะได้ผู้ชมจำนวนมหาศาลจากประเทศอภิมหาอำนาจแห่งนี้ แต่เอพีก็ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับปัญหาข้อกำหนดที่ผู้ที่เดินทางเข้าจีนทุกรายจะต้องถูกกักตัวนานหลายสัปดาห์ อีกทั้งปัญหาการตรวจร่างกายว่าปลอดเชื้อโควิดด้วยวิธี Swab ทางทวารหนัก น่าจะเป็นปัจจัยลบต่อจำนวนชาวจีนที่จะตัดสินใจเดินทางมาเสพประสบการณ์ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต

เอพีนำเสนอด้วยว่า Dubai Expo ซึ่งเป็นอภิมหามหกรรมโลกรายการเก่าแก่ (World Fair) ที่ชาติต่างๆ ผลัดกันเป็นเจ้าภาพตั้งแต่ปี 1851 ในกรุงลอนดอนนั้น มีหลายครั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จ และเจ้าภาพขาดทุนระดับล้มละลาย เช่น World Fair 1984 ที่รัฐนิวออร์ลีนเป็นเจ้าภาพ และขาดทุนระดับล้มละลาย ต้องนำเงินภาครัฐมาอุ้ม กรณีต่อมาคือ Expo 2000 ในเยอรมนี ซึ่งมีผู้เข้าชมเพียง 18 ล้านราย ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 40 ล้านราย เป็นต้น

UAE ประสบปัญหาเศรษฐกิจหดตัวในปี 2020 สืบเนื่องจากวิกฤตตลาดอสังหาริมทรัพย์ล่มสลาย และคาดหวังว่างานเอ็กซ์โปอันยิ่งใหญ่จะช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจขึ้นมา เอพีวิเคราะห์อย่างนั้น พร้อมให้ข้อมูลว่าในการจัดเอ็กซ์โป เฉพาะหมวดค่าก่อสร้าง ก็หมดเงินไป 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในการนี้ รายได้จากผู้เข้าชม 25 ล้านรายจะทำเงินได้เพียง 6,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

ด้าน UAE ได้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิดลงบ้าง แต่ยังรักษามาตรการพื้นฐาน อาทิ การสวมหน้ากากอนามัยและการรักษาระยะห่างทางสังคม นอกจากนั้น ชาวโลกที่จะเข้าสู่ UAE เพื่อชมงานต้องได้รับวัคซีนแล้ว กับต้องผ่านการทดสอบ PCR ว่าปลอดเชื้อด้วย

นอกจากนั้น UAE จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนชาวโลกเข้าร่วมอภิมหามหกรรมครั้งนี้ อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลงธีมของงานอันไพเราะ ชื่อว่า This Is Our Time. โดยในมิวสิก วิดีโอ ทางการของงาน มีเนื้อหาส่งเสริมบทบาทสตรีอย่างน่าชื่นชม

ที่ผ่านมา UAE เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในตะวันออกกลาง ซึ่งนี่เป็นจุดแข็งที่น่าจะส่งอานิสงส์ให้ประเทศมหาเศรษฐีแห่งนี้ประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวของโลกอาหรับเข้าไปสร้างความคึกคักได้ตลอด 6 เดือนข้างหน้า

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: เอเอฟพี เอพี ยูทูป expo2020dubai.com timeoutdubai.com re-thinkingthefuture.com stirworld.com วิกิพีเดีย archdaily.com arabnews.com thedesignstoryyy.medium.com eec-emirates.com/ arabianbusiness.com)

พาวิลเลียน UAE ในอีกหนึ่งมุมมองซึ่งตำแหน่งของปีกหลังคายังไม่ยกตัว และแลเห็นส่วนสูงสุดของหลังคาที่เปิดทางให้แสงตะวันลอดผ่านเข้าสู่ภายในอาคารได้

พาวิลเลียน UAE ในมุมมองที่ตำแหน่งของปีกหลังคากำลังยกตัว

บรรยากาศในพื้นที่นิทรรศการชีวิตใต้ทะเลที่เป็นระบบดิจิทัล ซึ่งจัดกันในพื้นที่ใต้ดิน
กำลังโหลดความคิดเห็น