xs
xsm
sm
md
lg

‘วิกฤตไฟฟ้าไม่พอใช้’กำลังคุกคามแนวโน้มศก.จีน ขณะเดียวกันก็ซ้ำเติมปัญหาสินค้าขาดแคลนทั่วโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บริเวณทางเข้านิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในเมืองตงกวน ทางตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้งของจีน เมื่อวันพฤหัสบดี (30 ก.ย.) ซึ่งอยู่ในพื้นที่กำหนดให้ใช้ไฟฟ้าได้อย่างจำกัดจำเขี่ย
วิกฤตขาดแคลนกระแสไฟฟ้ากำลังคุกคามแนวโน้มเศรษฐกิจจีน รวมทั้งเพิ่มความกดดันต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เฉพาะในแดนมังกรนั้น โรงงานทางใต้กำลังเร่งผลิตสินค้าให้ทันออร์เดอร์คริสมาสต์ ขณะที่ประชาชนทางเหนือก็แตกตื่นหาซื้อเทียนไขเตรียมไว้ใช้ยามไฟดับ

มีปัจจัยหลายๆ อย่างมาบรรจบกัน จนนำไปสู่ภาวะไฟฟ้าไม่พอใช้ในแดนมังกร ซึ่งเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเกือบๆ 60% ทีเดียว ยังต้องอาศัยไฟฟ้าซึ่งผลิตมาจากการเผาถ่านหิน

ราคาถ่านหินที่เวลานี้พุ่งทำสถิติ การควบคุมราคาไฟฟ้าของทางการ และเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบสุดหิน ต่างช่วยกันบีบเค้นปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ กดดันให้มณฑลและเขตปกครองตนเองระดับมณฑลนับสิบต้องประกาศจำกัดการใช้ไฟฟ้าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ที่กวางตุ้งซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งดำเนินการผลิตแบบมวลชนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จนถึงกางเกงยีนส์และกระทั่งเรือ สำหรับส่งขายไปทั่วโลก ห่วงโซ่อุปทานของมณฑลนี้ต้องเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับหรืออย่างน้อยก็ต้องจำกัดการใช้ มาเป็นเวลานานหลายสัปดาห์แล้ว

เครื่องจักรกินไฟบางประเภทต้องปิดทำงาน และโรงงานลดเวลาทำงานลง หรือมีการปันส่วนแบ่งช่วงแบ่งเวลาในการใช้ไฟฟ้า ตลอดจนใช้ลูกเล่นพลิกแพลงอื่นๆ เพื่อบรรเทาความกดดันต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าท้องถิ่น

กระนั้น เชอร์แมน ชาน รองผู้จัดการทั่วไปของเอ็กซ์เพรสส์ ลัก บริษัทผลิตทีวีในเมืองเซินเจิ้น นครใหญ่ของกวางตุ้งที่อยู่ติดกับฮ่องกง บอกว่า บริษัทยังต้องเรียกร้องให้บรรดาซัปพลายเออร์ของตนผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ให้ทันเส้นตาย รวมทั้งขอให้ผลิตกะกลางคืนซึ่งปริมาณการใช้ไฟฟ้าโดยรวมจะน้อยลง หรือใช้เครื่องปั่นไฟของตัวเองเพื่อให้การผลิตราบรื่น

อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่าในสภาพเช่นนี้ บริษัทต้องเจอปัญหาต้นทุนพุ่ง เนื่องจากพวกซัปพลายเออร์ต้องเพิ่มเงินทุนเพื่อให้การผลิตลุล่วง

เรื่องเช่นนี้ ยิ่งสร้างแรงกดดันมากขึ้นต่อห่วงโซ่อุปทานของจีนซึ่งอยู่ในอาการต้องทำงานเต็มไม้เต็มมืออยู่ก่อนแล้ว เนื่องจากมีออร์เดอร์หลั่งไหลเข้ามาทั้งจากภายในประเทศและพวกประเทศตะวันตกที่เพิ่งฟื้นจากวิกฤตโรคระบาด

ตั้งแต่ โทลี เบรด (Toly Bread) ผู้ผลิตอาหารว่างยักษ์ใหญ่ของจีน จนถึงพวกซัปพลายเออร์ของรถไฟฟ้าเทสลา ต่างออกมาส่งเสียงเตือนว่า การผลิตอาจล่าช้า ขณะที่วิกฤตทำท่าย่ำแย่ลงเรื่อยๆ

ส่วนที่ตงกวน เมืองแห่งโรงงานในมณฑลกวางตุ้ง พนักงานจำนวนมากเล่าว่าถูกกดดันให้ทำงานกะกลางคืน เนื่องจากช่วงกลางวันต้องหยุดการผลิตตามมาตรการจำกัดการใช้ไฟฟ้าของทางการ

ขณะที่พนักงานของโรงงานผลิตท่อโลหะแห่งหนึ่งเล่าว่า ปัญหาไฟฟ้าดับในนาทีสุดท้ายทำให้กำลังผลิตลดลงเกือบ 40% ในเดือนกันยายน เนื่องจากเครื่องจักรต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะเริ่มต้นทำงานใหม่ได้อย่างราบรื่น

โรงไฟฟ้าถ่านหินอู๋จิ่ง ในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อมองจากอีกฝั่นหนึ่งของแม่น้ำหวงผู่  ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันอังคาร (28 ก.ย.)
การที่ใช้ไฟฟ้าไม่ได้ตามปกติ ทำให้เนื้อหาในสื่อสังคมเว่ยปั๋วของผู้คนทางใต้ของจีนที่อากาศกำลังร้อน เต็มไปด้วยเสียงบ่นพึมเรื่องใช้เครื่องปรับอากาศได้อย่างจำกัด ส่วนทางเหนือนั้น สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้ผลิตเทียนไขทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ออร์เดอร์ล้นหลาม สำหรับเจ้าหน้าที่ในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้พยายามแก้หน้าด้วยการเรียกขานปัญหาไฟฟ้าไม่พอใช้กันเสียใหม่ว่า เป็นการปิดเครื่องเพื่อ “การซ่อมบำรุงตามปกติ”

พวกผู้นำจีนดูจะเข้าใจดีว่า เสียงบ่นไม่พอใจเช่นนี้คือความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่สงบในสังคมขึ้นมา หน่วยงานไฟฟ้าของรัฐได้จัดประชุมฉุกเฉินกันเมื่อวันอังคาร (28 ก.ย.) และพวกผู้นำของหน่วยงานประกาศรับประกันการจ่ายไฟฟ้าสำหรับการใช้ในครัวเรือน พร้อมกับระบุว่า นี่เป็น “ภารกิจการเมืองเร่งด่วนที่สุด”

ปัญหาไฟฟ้าไม่พอใช้คราวนี้เกิดขึ้นขณะที่ความต้องการพลังงานของจีนทะลุระดับก่อนวิกฤตโควิด เวลาเดียวกันมาตรการจำกัดการนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลีย ซึ่งแสดงจุดยืนทางการเมืองที่ทำให้ปักกิ่งไม่พอใจหนัก ก็กลายเป็นตัวกดดันทำให้แดนมังกรผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง

จูเลียน อีแวนส์-พริตชาร์ด นักวิเคราะห์ของแคปิตอล อิโคโนมิกส์ ชี้ว่า ตัวการสำคัญคือการขาดแคลนพลังงานทั่วโลก และการควบคุมราคาไฟฟ้าของจีน

เขาสำทับว่า ราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติพุ่งขึ้นไปทุกหนแห่ง สืบเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นไปตามฤดูกาลและการสะดุดติดขัดในห่วงโซ่อุปทาน

เวลาเดียวกัน กฎเกณฑ์เข้มงวดของจีนในการควบคุมราคาไฟฟ้าที่สามารถเรียกเก็บจากผู้ใช้ ก็กลายเป็นการผลักภาระต้นทุนถ่านหินที่พุ่งขึ้นไปให้โรงไฟฟ้า

ปัญหาไฟฟ้าขาดแคลนกำลังส่งผลต่อการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจจีนในปีนี้ โดยทั้งโกลด์แมน แซคส์และโนมูระต่างลดตัวเลขพยากรณ์อัตราเติบโตจีดีพีของแดนมังกรในปีนี้ลงมาในสัปดาห์นี้

เจ้าของโรงงานหลายแห่งเตือนว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญเนื่องจากพนักงานต้องเร่งผลิตสินค้าตามออร์เดอร์ส่งออกสำหรับช่วงคริสต์มาส ขณะที่พวกเขาต้องเจอปัญหาใหญ่มาก คือ การที่ต้นทุนขนส่งสินค้ากำลังทะยานขึ้นทั่วโลก

ลัม เฉิง เหลียง ผู้อำนวยการโรงงานผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านแห่งหนึ่ง ทิ้งท้ายว่า บริษัทไม่สามารถจัดส่งสินค้าทันเส้นตายมาแล้วหลายครั้ง และถึงตอนนี้ก็ยังหาวิธีแก้สถานการณ์ไม่ได้

(ที่มา: เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น