ญี่ปุ่นประท้วง! ศาลเกาหลีใต้สั่งนำทรัพย์สิน ‘มิตซูบิชิ’ ขายทอดตลาด เอาเงินมาชดเชย ‘แรงงานทาส’

รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาประท้วงอย่างรุนแรง กรณีศาลเกาหลีใต้มีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่ยึดได้จากบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ ออกขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาจ่ายชดเชยให้แก่หญิงเกาหลีใต้ 2 คนที่เคยถูกญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

กลุ่มช่วยเหลือเหยื่อบังคับใช้แรงงานในเกาหลีใต้ออกมาชื่นชมคำตัดสินของศาลว่าเป็น “ก้าวสำคัญ” ที่จะนำไปสู่การชดเชยความสูญเสีย แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นเตือนว่าเรื่องนี้อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อความสัมพันธ์โตเกียว-โซลที่ลุ่มๆ ดอนๆ อยู่แล้วเป็นทุนเดิม

โทชิมิตสุ โมเตกิ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ระบุวันนี้ (28 ก.ย.) ว่า คำพิพากษาของศาลแขวงแดชอน (Daejeon District Court) ในเกาหลีใต้ “ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้ง” และเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหลีกเลี่ยงการกระทำอันจะส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์

โมเตกิ ย้ำด้วยว่า คำตัดสินของศาลเกาหลีใต้เป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจอย่างยิ่ง”

รัฐบาลญี่ปุ่นยังเรียกร้องให้รองกงสุลสถานทูตเกาหลีใต้ประจำกรุงโตเกียวประท้วงคำตัดสินนี้ ในขณะที่ มิตซูบิชิ เฮฟวี ก็ยืนยันว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์

ความสัมพันธ์โซล-โตเกียวซึ่งต่างก็เป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในเอเชีย ถูกฉุดรั้งด้วยปมขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ในยุคที่ญี่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรเกาหลีเมื่อช่วงปี 1910-1945

นอกจากข้อพิพาทเรื่องการบังคับให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยแก่อดีตแรงงานทาสชาวเกาหลี รวมไปถึง “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” แล้ว ยังมีเรื่องของมาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าระหว่างกันที่ยังแก้ไขไม่ลงตัว

สำหรับหญิง 2 คนที่ศาลเกาหลีใต้บังคับให้มิตซูบิชิต้องจ่ายเงินชดเชย ได้แก่ ยัง กึมด็อก (Yang Geum-deok) และ คิม ซุงจู (Kim Sung-joo) ซึ่งเคยถูกส่งไปทำงานที่โรงงานผลิตเครื่องบินของมิตซูบิชิในเมืองนาโงยะ สมัยยังเป็นวัยรุ่นเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

เมื่อปี 2018 ศาลสูงสุดเกาหลีใต้มีคำสั่งให้มิตซูบิชิต้องจ่ายเงินชดเชยแก่เหยื่อทั้ง 2 ราย ทว่ามิตซูบิชิปฏิเสธที่จะทำตาม ในขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นเองก็โต้แย้งว่าเรื่องพวกนี้เคย “เคลียร์” กันจบไปแล้วตอนที่ทำสนธิสัญญาสถาปนาความสัมพันธ์เมื่อปี 1965

หลังจากนั้นมา ศาลเกาหลีใต้ก็มีการออกคำตัดสินอีกหลายครั้งให้ยึดทรัพย์สินของ มิตซูบิชิ เฮฟวี ในประเทศ ซึ่งทำให้โตเกียวประท้วงอย่างรุนแรง

ล่าสุด ศาลแขวงแดชอนได้มีคำสั่งเมื่อวันจันทร์ (27) ให้ มิตซูบิชิ เฮฟวี ขายทรัพย์สินที่ถูกยึด ซึ่งรวมถึงสิทธิบัตร 2 ฉบับ และเครื่องหมายการค้าอีก 2 ตัว เพื่อนำเงินมาจ่ายชดเชยให้แก่หญิงชราทั้งสอง ซึ่งอายุ 90 กว่าปีแล้ว

องค์กรสนับสนุนเหยื่อยังคับใช้แรงงานระบุว่า วงเงินที่ศาลสั่งชดเชยแก่หญิงทั้งสองอยู่ที่ประมาณคนละ 210 ล้านวอน หรือราวๆ 6 ล้านบาท

เรื่องนี้ยังถูกนำไปเป็นประเด็นในการหาเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ด้วย และดูเหมือนจะไม่มีผู้สมัครคนไหนเสนอแนวทางประนีประนอมกับเกาหลีใต้

ที่มา: รอยเตอร์