ไทเปเล็งเพิ่มเขี้ยวเล็บ‘พิสัยไกล’ป้องปรามจีน ขณะ‘สีจิ้นผิง’เตือนความสัมพันธ์เวลานี้‘เลวร้าย’

รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวันประกาศ ไทเปจำเป็นต้องมีอาวุธพิสัยไกลที่แม่นยำเพื่อป้องปรามจีนซึ่งพัฒนาระบบโจมตีอย่างรวดเร็วและสามารถทำให้ระบบป้องกันของไต้หวัน “เป็นอัมพาต” อีกทั้งยังเฝ้าติดตามการเคลื่อนกำลังพลของไต้หวันได้ทั้งหมด ทางด้านประมุขจีน สีจิ้นผิง เตือนความสัมพันธ์กับเกาะไต้หวันขณะนี้เลวร้าย พร้อมเรียกร้องหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋งคนใหม่ช่วยผลักดันการรวมชาติ

ชิว กั๋วเจิ้ง รัฐมนตรีกลาโหมของไต้หวันแถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ (27 ก.ย.) ว่า ไต้หวันจำเป็นต้องทำให้จีนตระหนักว่าไทเปสามารถปกป้องตัวเองได้ ด้วยการพัฒนาอาวุธพิสัยไกล แม่นยำ และเป็นระบบเคลื่อนที่ เพื่อทำให้ปักกิ่งรู้สึกได้ว่าไต้หวันมีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว ในทันทีที่ปักกิ่งเคลื่อนกำลังทหาร

เวลาเดียวกัน ในเอกสารรายงานประจำปีว่าด้วยกองทัพจีน ทางการไต้หวันยังประเมินว่า จีนสามารถทำให้ระบบป้องกันของไต้หวันเป็นอัมพาต รวมทั้งติดตามการเคลื่อนกำลังทหารของไต้หวันได้ทั้งหมด

เมื่อถูกถามว่า ถ้าเกิดสงคราม จีนจะโจมตีจุดใดเป็นอันดับแรก ชิวตอบว่า ศูนย์บัญชาการและการสื่อสารของไต้หวัน และย้ำว่า ด้วยเหตุนี้ไทเปจึงต้องมีระบบล่องหนและสามารถย้ายตำแหน่งได้

ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน นั้นประกาศส่งเสริมและปรับปรุงระบบป้องกันเกาะแห่งนี้ให้ทันสมัย เพื่อให้ไต้หวันอยู่ภายใน “ขนเม่น” ที่ยากโจมตี

ในเดือนนี้รัฐบาลไต้หวันเสนอของบประมาณกลาโหมพิเศษมูลค่าเกือบ 9,000 ล้านดอลลาร์ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการจัดหาขีปนาวุธใหม่ๆ และเตือนว่า จำเป็นต้องปรับปรุงอาวุธโดยด่วนท่ามกลาง “การคุกคามอย่างร้ายแรง” จากจีนที่หลายเดือนมานี้ระดมทำกิจกรรมทางทหารใกล้ไต้หวันบ่อยครั้ง โดยเฉพาะการส่งเครื่องบินทหารรุกล้ำเขตป้องกันภัยทางอากาศของไทเป

นับจากปี 2016 ที่ไช่ อิงหวิน ซึ่งมองว่า ไต้หวันเป็นประเทศอธิปไตยและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจีน ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีไต้หวันเป็นต้นมา จีนซึ่งถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนในอธิปไตยของตน แต่เวลานี้ถูกปกครองโดยพวกกบฎ ได้เพิ่มความกดดันทั้งด้านการทหาร การทูต และเศรษฐกิจต่อไทเป

เฉพาะปีที่แล้ว เครื่องบินของกองทัพจีนรุกล้ำเขตที่ไต้หวันประกาศให้เป็นเขตป้องกันตนเอง จำนวนสูงสุดเป็นประวัติการ์คือ 380 ครั้ง และนักวิเคราะห์บางคนเตือนว่า ความสัมพันธ์ของสองฝ่ายตึงเครียดที่สุดนับจากช่วงกลางทศวรรษ 1990

วันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (23) จีนส่งเครื่องบินรบ 24 ลำ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีศักยภาพโจมตีด้วยนิวเคลียร์เข้าสู่เขตป้องกันตนเองทางอากาศของไต้หวัน หลังจากประกาศคัดค้านไทเปที่ยื่นใบสมัครเข้าร่วมข้อตกลงการค้าภาคพื้นแปซิฟิก

ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน กล่าวเตือนในวันอาทิตย์ (26) ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งกับไทเปขณะนี้ยุ่งยากซับซ้อนและเลวร้าย พร้อมเรียกร้องให้พรรคก๊กมิ่นตั๋ง (เคเอ็มที) ซึ่งปัจจุบันเป็นพรรคฝ่ายค้านของไต้หวัน ช่วยผลักดันเรื่องการรวมชาติระหว่างไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่

ในสารแสดงความยินดีที่ส่งถึ งอิริก จู ที่ได้รับเลือกเป็นประธานพรรคเคเอ็มทีคนใหม่เมื่อวันเสาร์ (25) สีกล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนและเคเอ็มที ควรร่วมมือกันภายใต้ “พื้นฐานทางการเมืองร่วมกัน” คือ “ฉันทามติปี 1992” และคัดค้านการประกาศเอกราชของไต้หวัน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสันติภาพในความสัมพันธ์ระหว่างกัน

ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีนดีขึ้นมากภายใต้อดีตประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วจากพรรคเคเอ็มที ระหว่างปี 2008-2016 โดยเคเอ็มทีลดความตึงเครียดกับจีนด้วยการยอมรับฉันทามติ 1992 หรือข้อตกลงในการยอมรับว่า มีเพียง “จีนเดียว” โดยไม่ได้ระบุว่า ปักกิ่งหรือไต้หวันเป็นตัวแทนโดยชอบธรรม

ทางด้านจูส่งสารตอบสีว่า ทั้งสองพรรคควรหาแนวทางร่วมกันและเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างเพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน

ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ภายหลังได้รับชัยชนะ จู อดีตนายกเทศมนตรีนครไทเป วัย 60 ปี ประกาศว่า เคเอ็มทีจะสร้างเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนและช่องทางการสื่อสารระหว่างแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน

จูเคยพบประธานาธิบดีสีที่ปักกิ่งเมื่อปี 2015 ซึ่งเขายอมรับว่า สองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของ “จีนเดียว”

(ที่มา: รอยเตอร์, เอพี)