เอพี – คนเยอรมันเข้าคูหากาบัตรเลือกสมาชิกรัฐสภาชุดใหม่ในการเลือกตั้งที่จะชี้ขาดว่า ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแทนอังเกลา แมร์เคิล ที่บริหารประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปแห่งนี้มายาวนาน 16 ปี โดยโพลล์ชี้ว่า การแข่งขันสูสีมากจนไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากขาดลอย
ผลสำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า การเลือกตั้งของเยอรมนีในวันอาทิตย์ (26 ก.ย.) สูสีมากระหว่างกลุ่มยูเนียนที่มีแนวทางกลาง-ขวาของแมร์เคล ที่ส่งอาร์มิน ลาสเชต นายกรัฐมนตรีรัฐนอร์ธไรน์-เวสท์ฟาเลีย ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศกับโอลาฟ โชลซ์ รัฐมนตรีคลังและรองนายกรัฐมนตรีจากพรรคโซเชียล เดโมแครตส์ที่มีแนวทางกลาง-ซ้าย
โพลล์ยังระบุว่า โซเชียล เดโมแครตส์นำอยู่เล็กน้อย ขณะที่พรรคกรีนส์ที่ชูแนวทางเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมผู้สมัครสำคัญ แอนนาลีนา แบร์บ็อก ที่ลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก ตามมาห่างๆ ในอันดับ 3
คะแนนของโซเชียล เดโมแครตส์ตีตื้นขึ้นมาจากความนิยมในตัวโชลซ์ ประกอบกับที่แคมเปญหาเสียงของคู่แข่งประสบปัญหา เช่น ลาสเชตที่ไม่สามารถกระตุ้นฐานเสียงดั้งเดิมของพรรคได้
ทั้งนี้ มีชาวเยอรมนี 60.4 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 83 ล้านคน ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกใหม่ของบุนเดสแท็กหรือสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะมีหน้าที่เลือกหัวหน้ารัฐบาลชุดใหม่
โพลล์หลายสำนักชี้ว่า ทุกพรรคจะได้คะแนนต่ำกว่า 30% เท่ากับว่า ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากขาดลอย จึงมีความเป็นไปได้ว่า พรรคต่างๆ จะจับมือตั้งรัฐบาลผสม ทำให้อาจใช้เวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่ และในระหว่างนั้นแมร์เคิลจะรักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป
แมร์เคิลได้รับการยกย่องจากการนำเยอรมนีผ่านพ้นวิกฤตใหญ่หลายครั้ง และนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะรับมอบภารกิจท้าทายในการทำให้ประเทศฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด ซึ่งเยอรมนีรับมือได้เป็นอย่างดีจากโครงการเยียวยาที่ทำให้รัฐบาลมีหนี้สินเพิ่มขึ้น
ลาสเชตยืนยันว่า จะไม่ขึ้นภาษีเนื่องจากประเทศเพิ่งฟื้นจากโควิด ส่วนโชลซ์และแบร์เบ็กเล็งขึ้นภาษีกลุ่มคนที่รวยที่สุดและสนับสนุนการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำ
ส่วนประเด็นสิ่งแวดล้อมนั้น กลุ่มยูเนียนหวังใช้เทคโนโลยีและแนวทางที่มุ่งเน้นตลาดแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่กรีนส์ต้องการขึ้นราคาคาร์บอนและเลิกใช้ถ่านหินเร็วกว่ากำหนดเดิม และโชลซ์ย้ำความจำเป็นในการปกป้องตำแหน่งงานขณะที่เยอรมนีเปลี่ยนไปใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สำหรับนโยบายต่างประเทศดูเหมือนไม่มีการเน้นย้ำมากนักระหว่างการหาเสียง อย่างไรก็ตาม พรรคกรีนส์ประกาศใช้นโยบายแข็งกร้าวขึ้นต่อจีนและรัสเซีย
ระหว่างการหาเสียง ลาสเชตและผู้นำคนอื่นๆ ในกลุ่มยูเนียนเตือนว่า โชลซ์และกรีนส์อาจตั้งรัฐบาลโดยดึงพรรคฝ่ายค้าน เล็ฟต์ ปาร์ตี้ ที่ต่อต้านองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และการส่งทหารไปประจำการนอกประเทศ เข้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยว่า รัฐบาลของสามพรรคนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ เนื่องจากมีความแตกต่างกันทั้งด้านนโยบายต่างประเทศและอื่นๆ แต่ที่แน่ๆ กลุ่มนี้อาจดึงดูดฐานเสียงกลุ่มอนุรักษนิยม
ด้านโชลซ์เผยว่า ต้องการตั้งรัฐบาลผสม 2 พรรคกับกรีนส์ ทว่า การที่ไม่ได้เสียงข้างมากอาจทำให้โชลซ์ต้องเลือกตั้งรัฐบาลร่วมกับทั้งกรีนส์และพรรคฟรี เดโมแครตส์ที่มีนโยบายสนับสนุนธุรกิจ
การจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับกรีนส์และฟรี เดโมแครตส์มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเป็นเส้นทางสู่อำนาจสำหรับลาสเชตเช่นเดียวกัน ติดที่กรีนส์อยากเป็นพันธมิตรกับโซเชียล เดโมแครตส์มากกว่า ขณะที่ฟรี เดโมแครตส์เลือกยูเนียน
ผลการเลือกตั้งยังอาจนำไปสู่การตั้งรัฐบาลผสมแบบ “แกรนด์ โคลิชัน” ระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ดั้งเดิมอีกครั้ง โดยจะเป็นการจับมือกันระหว่างยูเนียนกับโซเชียล เดโมแครตส์ ภายใต้การนำของโชลซ์หรือลาสเชต
บุนเดสแท็กมีสมาชิกอย่างน้อย 598 คน ทว่า ระบบเลือกตั้งอันซับซ้อนของเยอรมนีอาจทำให้จำนวนสมาชิกในสภาล่างเพิ่มขึ้น โดยสมาชิกรัฐสภาชุดที่กำลังจะพ้นตำแหน่งมีจำนวนที่นั่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 709 ที่นั่ง และคาดว่า จำนวนสมาชิกจะสูงกว่านี้สำหรับรัฐสภาชุดใหม่