xs
xsm
sm
md
lg

เช็ง! กฎใหม่ท่องเที่ยวอังกฤษช่วงโควิดระบาดรับแต่ “คนฉีดวัคซีนเทพ” มาจากประเทศร่ำรวยเท่านั้น อินเดียและทั่วโลกรุมประณาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ – กฎการท่องเที่ยวใหม่ของอังกฤษระหว่างโควิด-19ระบาดสร้างความไม่พอใจไปทั่วโลก รวมอินเดีย แอฟริกา และอเมริกาใต้หลังแดนผู้ดีออกกฎเหล็กพิจารณารับแต่คนที่ฉีดครบ 2 โดสของวัคซีนเทพทั้งวัคซีนแอสราเซเนกา วัคซีนไฟเซอร์ วัคซีนโมเดอร์นา และวัคซีนจอห์นสันที่ฉีดเฉพาะในสหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ หรือประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป จะไม่ต้องถูกกักตัวเพราะ “เป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันทางวัคซีนโควิด-19” แล้ว

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(23 ก.ย)ว่า หลายประเทศทั่วโลกต่างโกรธเกรี้ยวกับการตัดสินใจของรัฐบาลลอนดอนที่กีดกันวัคซีนโควิด-19จากประเทศยากจนจากระบุในกฎการเที่ยวใหม่ของตัวเองที่คัดเฉพาะวัคซีนเทพและต้องฉีดภายในกลุ่มประเทศร่ำรวยเท่านั้นจึงจะถือว่า "มีภูมิคุ้มกันทางโควิด-19โดยสมบูรณ์"

โดยรัฐมนตรีคมนาคมอังกฤษ แกรนต์ แชปป์ส( Grant Shapps) ที่ได้เปิดเผยกฎการท่องเที่ยวใหม่เมื่อวันศุกร์(17)ที่ผ่านมาพร้อมกับแก้ตัวถึงกฎเลือกปฎิบัติครั้งนี้ว่า “เป็นระบบเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ทำให้ง่ายขึ้นสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ” และเขาย้ำว่า “จุดประสงค์เพื่อทำให้ง่ายต่อการผู้คนสำหรับการเดินทาง”

เดอะการ์เดียนรายงานว่า ภายในเนื้อหาของกฎใหม่พบว่า จะพิจารณารับแต่คนที่ฉีดครบโดสสำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแอสราเซเนกา วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค วัคซีนโมเดอร์นา และวัคซีนจอห์นสัน จากประเทศสหรัฐฯ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้จะไม่ต้องถูกกักตัวเพราะ “เป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันทางวัคซีนโควิด-19” แล้ว

สื่ออังกฤษยังชี้ต่อว่า แต่ทว่าในขณะเดียวกันกลุ่มคนที่ได้รับวัคซีนตัวเดียวกันในอเมริกาใต้ แอฟริกา หรือ อินเดีย จะถูกพิจารณาว่า "ยังไม่ได้รับภูมิคุ้มกันทางวัคซีนโดยสมบูรณ์"และจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 10 วันในฐานะประเทศกลุ่มประเทศสีเหลือง หรือ "amber list"

บีบีซีรายงานเพิ่มเติมวานนี้(22)ว่า หลังจากได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากรัฐบาลนิวเดลีทำให้อังกฤษล่าสุดออกมายอมรับว่า วัคซีนโควิดชีลด์ (Covishield) ซึ่งเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตขึ้นในอินเดียและถูกใช้เป็นวัคซีนหลักที่แจกจ่ายให้กับประชาชนอินเดียไปแล้ว 721 ล้านโดส เป็นวัคซีนที่ได้รับการยอมรับในอังกฤษ

แต่อย่างไรก็ตามบีบีซีระบุว่า ในขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่านักท่องเที่ยวจากแดนภารตะที่เดินทางเข้าอังกฤษจะได้รับการละเว้นจากการกักตัว 10 วันหรือไม่


นิวเดลีหัวเสียอย่างหนักหลังลอนดอนพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ยอมรับ “โควิดชีลด์” โดยชี้ว่าเป็นมาตรการที่กีดกัน เหยียดหยามทางสีผิว และโง่เขลา และรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย เอส. ไจชานการ์ (S Jaishankar)ยังได้นำประเด็นนี้ไปถกกับรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ลิซ ทรัซซ์(Liz Truss)

ไจชานการ์กล่าวอย่างมีอารมณ์กับนักข่าวว่า “มันเป็นนโยบายที่แสดงการกีดกันอย่างชัดเจนและส่งผลกระทบต่อพลเมืองของเราในการเดินทางไปอังกฤษ” พร้อมเตือนว่าทางนิวเดลีสามารถใช้มาตรการที่ตอบโต้หากว่าอังกฤษยังคงเพิกเฉยในประเด็นนี้

ทั้งนี้อินเดียได้ทำการสแกนอุณหภูมิร่างกายแก่นักท่องเที่ยวอังกฤษและยังต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19เป็นลบเพื่อที่จะไม่ต้องถูกกักตัว

และในวันจันทร์(20)พบว่ามีนักการเมืองอินเดียออกมาประท้วงเพื่อตอบโต้มาตรการกฎการท่องเที่ยวใหม่ของอังกฤษ ขณะที่หนึ่งในนักการทูตจากลาตินอเมริกาแสดงความเห็นในเรื่องกฎการท่องเที่ยวใหม่ของอังกฤษว่า “ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ผมได้คุยด้วยจะไม่รู้สึกโกรธในเรื่องนี้ ผู้คนต่างรู้สึกมึนงง”

และเสริมต่อว่า “จะเป็นไปได้อย่างไรที่วัคซีนไฟเซอร์ วัคซีนโมเดอร์นา หรือวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ถูกแจกจ่ายในดินแดนลาตินอเมริกาจะไม่ดีพอที่จะทำให้บุคคลได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าไปได้? ผมมองไม่เห็นว่าจะเป็นสิ่งที่สามารถรับได้ ผมไม่สามารถเข้าใจในสิ่งนี้” และชี้ต่อว่า มองได้ทางเดียวว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมเป็นอย่างมาก

ด้านนักการทูตจากแอฟริกาตะวันตกออกมาประณามกฎใหม่ของอังกฤษเช่นกันโดยแสดงความเห็นว่า เป็นการกีดกัน โดยชี้ว่ามันไม่ใช่การกีดกันที่เขาวิตก แต่เป็นสารที่ถูกส่งออกมา “ทั่วโลกพวกเราต่างต่อสู้กับการลังเลที่จะยอมรับวัคซีน” พร้อมกับชี้ว่า “เมื่อคุณออกมาปฎิเสธการยอมรับวัคซีนจากแอฟริกา คุณทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดขึ้นมา และมันจะสร้างสถานการณ์ที่จะยิ่งทำให้วิกฤตการระบาดยาวนานออกไป”

อันเดร ซิเกรา( André Siqueira) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคเขตร้อนในริโอเดจาไนโรของบราซิลแสดงความอึดอัดออกมาว่า เขามีความต้องการอย่างมากที่จะพบหน้าบุตรชายวัย 4 ปีที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน อังกฤษ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี แต่ทว่ากฎใหม่ของลอนดอนทำให้เกือบมีความเป็นไปไม่ได้ในการที่จะสามารถเดินทางไปอังกฤษถึงแม้ว่าจะได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบถ้วนที่บราซิลแล้วก็ตาม เนื่องจากเขาต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 10 วันในประเทศของกลุ่มสีเหลืองก่อนที่จะถูกกักตัวอีก 10 วันในอังกฤษหลังจากเขาเดินทางไปถึง

โฆษกรัฐบาลอังกฤษออกมาแถลงตอบโต้ต่อเสียงประณามทั้งหลายว่า “หน้าที่สำคัญที่สุดของเรายังคงเป็นการปกป้องความปลอดภัยทางสาธารณสุข และเปิดการท่องเที่ยวในหนทางที่ปลอดภัยและยั่งยืนที่ซึ่งเหตุว่าทำไมการพิจารณารับรองวัคซีนจากทุกประเทศต้องเป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำเนื่องมาจากเหตุผลทางสาธารณสุขและความวิตกในวงกว้าง”

อย่างไรก็ตามในวันพุธ(22)รัฐบาลลอนดอนออกมาประนีประนอมโดยประกาศจะร่วมมือกับชาติต่างๆในการยอมรับวัคซีนพาสปอร์ตจากชาติอื่น


กำลังโหลดความคิดเห็น