เอเจนซีส์ – ปกนิตยสารไทม์สฉบับ 100 คนแรกที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกประจำปีนี้กลายเป็นประเด็นหลังสื่อแทบลอยด์แดนผู้ดีจับจ้องไปที่ปกเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิลโดยชี้ว่า ภาพที่สื่อออกมานั้นไม่เหมาะสมดูเหมือนดัสเชสแห่งซัสเซกซ์มีความมั่นพระทัยจนออกแนวเผด็จการและยังเลยไปถึงดยุกแห่งซัสเซกซ์ที่อ้างว่าพระองค์ดูถ่อมพระองค์จนเกินไป
บิสซิเนสอินไซเดอร์ สื่อธุรกิจรายงานเมื่อวันศุกร์(17 ก.ย)ว่า กลายเป็นข่าวดังในอังกฤษถึงปกใหม่ของนิตยสารไทม์สฉบับบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก 100 คนแรกที่ออกมาในวันพุธ(15)ที่มีทั้งบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงการเมืองระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน หรือประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง แม้แต่แวดวงเทคโนโลยี เป็นต้นว่า ทิม คุ๊ก ซีอีโอใหญ่บริษัทแอปเปิล และอีลอน มัสค์ผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลาและบริษัทสำรวจอวกาศสเปซเอ็กซ์ที่เพิ่งนำนักเดินทางอวกาศกลับมาสู่พื้นโลกสำเร็จ ยังรวมไปถึงเซเลบริตีและสมาชิกราชวงศ์อังกฤษคือ ดยุกและดัสเชสแห่งซัสเซกซ์อีกด้วย
ซึ่งทางไทม์สได้ออกแถลงการณ์พระนามของทั้งสองพระองค์เป็นการยืนยันในวันพุธ(15)
เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิลทรงโพสต์ขึ้นหน้าปกให้กับทางนิตยสารโดยแสดงให้เห็นว่ามาร์เคิลสวมชุดฉลองพระองค์สีขาวยืนประทับอยู่ด้านหน้าเจ้าชายแฮร์รีที่อยู่ในชุดฉลองพระองค์สีดำในลักษณะที่พระองค์ทรงโอบไหล่พระชายาไว้ โดยทั้งสองพระองค์จ้องมองไปที่กล้องซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมของมาร์เคิลที่เห็นถึงพระเนตรเป็นประกาย
ซึ่งอ้างอิงจากแถลงการณ์ของไทม์สพบว่าเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพระองค์ประทานโอกาสในการขึ้นหน้าปกร่วมกันให้กับทางนิตยสารเป็นครั้งแรก
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า นอกจากนี้ยังพบว่ามี โฮเซ อันเดรส (José Andrés) ผู้ก่อตั้งองค์การไม่แสวงหาผลกำไร ครัวกลางของโลก ( World Central Kitchen) เป็นคอลัมนิสต์เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับทั้ง 2 พระองค์ซึ่งทั้งเจ้าชายแฮร์รีและมาร์เคิลต่างเคยทรงงานร่วมกับมูลนิธิการกุศลแห่งนี้มาก่อน
“การนำมาสู่การปฎิบัติไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทั้งดยุกและดัสเชสที่ยังทรงมีชันษาไม่มากและเป็นผู้มีทั้งมีศักดิสูงและยังเปี่ยมด้วยพรสวรรค์และถูกแผดเผาจากความโด่งดัง” อันเดรสกล่าวในงานแถลงข่าว
และเสริมต่อว่า “ซึ่งมันจะดีกว่ามากที่จะสุขกับความมั่งคั่งและเลือกที่จะเก็บพระองค์อย่างเงียบๆแต่นี่ไม่ใช่ในสิ่งที่ทั้งเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนกระทำหรือว่าไม่ใช่ในสิ่งที่ทั้งสองพระองค์เป็น...ซึ่งในโลกที่ทุกคนต่างมีความเห็นต่อบุคคลที่พวกเขาหรือเธอไม่เคยพบ ทั้งดยุกและดัสเชสทรงมีพระเมตตาสำหรับผู้คนที่ทั้งสองพระองค์ทรงไม่เคยรู้จัก พระองค์ทรงไม่แค่แสดงความคิดเห็นทั้งสองพระองค์ทรงมุ่งหน้าสู่ความยากลำบาก”
ด้าน โอมิด สโกบี(Omid Scobie) นักแต่งหนังสือเกี่ยวกับราชวงศ์ได้แสดงภาพหน้าจอที่ปรากฎของบทความจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ดยุกและดัสเชสแห่งซัสเซกส์
“นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไรในปี 2021 ที่ค่ายสื่อโลกตะวันตกยังคงไม่รู้สึกคุ้นเคยกับสายตาของหญิงสาวที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นหรือชายหนุ่มที่มีความมั่นคงในตัวเองมากพอที่จะไม่ตกอยู่ภายใต้การคุกคามของมัน” สโกบีกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ และเสริมต่อว่า “คนเหล่านี้ที่ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญภาษาร่างกายกำลังสะดุดล้ม”
สโกบีได้แสดงให้เห็นถึงหัวข้อข่าวจำนวนไม่กี่ชิ้นเกี่ยวข้องกับทั้งสองพระองค์ซึ่งรวมไปถึงของหนังสือพิมพ์เดลีเมลชื่อดังของอังกฤษ ที่ระบุว่า “เป็นการทำพีอาร์ที่ต้องการสื่อให้เห็นว่า “เป็นคู่สมรสที่ทรงอิทธิพล” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญภาษากายกล่าวว่า “ลักษณะการยืนประทับเพื่อประทานให้แก่นิตยสารของดัสเชสนั้นแสดงให้เห็นถึงความมีอำนาจในขณะที่เจ้าชายแฮร์รีนั้นทรงดูเหมือนจำยอมต้องถูกบังคับให้ร่างพระองค์พิงพระชายาบนภาพปกนิตยสารไทมส์ที่น่าตลกขบขันนี้”
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์เดอะซันชื่อดังอีกฉบับถึงขั้นกล่าวเปรียบเปรยออกมาว่า ภาพหน้าปกของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิลจะกระทบไปถึงพระเกียรติขององค์สมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษ โดยอ้างความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย
ส่วนนิตยสารโอเค!นั้นถึงขั้นวิจารณ์ว่า ดูเหมือนดยุกแห่งซัสเซกซ์จะทรงไม่ดูเข้มแข็งขณะที่ดัสเชสทรงดูเผด็จการ
และยังมีนักวิจารณ์บางส่วนยังวิจารณ์ไปถึงระดับการประทับของเจ้าชายแฮร์รีที่ขัดต่อขนบธรรมเนียมราชสำนักที่ดยุกแห่งซัสเซกซ์สมควรที่ต้องอยู่ในระดับที่สูงกว่าพระชายาเป็นต้น