xs
xsm
sm
md
lg

ประกาศกร้าว! “ปักกิ่ง” จะกดดันทันทีหาก “ไบเดน” ยังเดินหน้าเปลี่ยนชื่อ สนง.ตัวแทนไทเปในดีซี. หลังส่งเรือรบกองทัพจีน 4 ลำเข้าอะแลสกา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - ปักกิ่งฉุนหนักประกาศพร้อมเดินหน้ามาตรการกดดัน หลังมีรายงาน ปธน.โจ ไบเดน กำลังพิจารณาคำขอไต้หวันขอเปลี่ยนชื่อ สนง.ตัวแทนในกรุงวอชิงตัน ดีซี. ไม่นานหลังกองทัพปักกิ่งส่งเรือรบ 4 ลำเข้าใกล้น่านน้ำรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ ตอบโต้สหรัฐฯ ส่งเรือรบ USS Carl Vinson พร้อมเครื่องบินรบล่องหน F-35C เข้าทะเลจีนใต้ล่าสุด

หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ว่า แหล่งข่าวผู้สังเกตการณ์ทางการทูตและการทหารเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ฮ่องกงว่า ปักกิ่งน่าจะเพิ่มมาตรการกดดันทางการทหารเพื่อกำราบไต้หวัน ขณะเดียวกัน ใช้มาตรการทูตตอบโต้กลับไปที่สหรัฐฯ หากว่าสำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันที่เป็นเสมือนสถานทูตไทเปในกรุงวอชิงตัน ดีซี. ได้รับการเปลี่ยนชื่อ

แต่อย่างไรนักวิเคราะห์เชื่อว่า มาตรการต่อต้านเหล่านี้คงทำได้อย่างจำกัด

ทั้งนี้ มีรายงานว่ารัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาตามคำขอของไทเปในการเปลี่ยนชื่อสำนักงานไต้หวันจากแต่เดิม สำนักงานตัวแทนวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทเป (Taipei Economic and Cultural Representative Office) หรือ Tecro มาอยู่ที่สำนักงานตัวแทนไต้หวัน (Taiwan Representative Office) ซึ่งทางปักกิ่งมองว่าเป็นการหมิ่นอย่างร้ายแรงหากเกิดการเปลี่ยนชื่อจริง

ปักกิ่งมีตัวแทนอย่างเป็นทางการกับสหรัฐฯ และปักกิ่งเรียกร้องให้สหรัฐฯ ดำเนินไปตามนโยบาย “จีนเดียว” ของปักกิ่ง เป็นนโยบายที่รัฐต่างชาติต้องเลือกว่าจะดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับปักกิ่งหรือกับไทเปโดยที่ไม่สามารถดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับทั้งสองได้ในเวลาเดียวกัน เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ชี้

หยู กัง (Yue Gang) อดีตพันเอกกองทัพประชาชนจีนกล่าวว่า นับตั้งแต่ปักกิ่งประกาศยืนยันที่จะรักษาสิทธิในการใช้กำลังทางทหารเพื่อที่จะนำไต้หวันกลับเข้ามาสู่อ้อมอกจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง ทำให้มีการใช้แรงกดดันทางทหารเพิ่มขึ้น

เมื่อวันศุกร์ (17) ล่าสุดปักกิ่งส่งเครื่องบินรบจีน 10 ลำล้ำน่านฟ้าไต้หวันในเขตป้องกันน่านฟ้า อ้างอิงจากกระทรวงกลาโหมไต้หวัน

ไต้หวันซึ่งเพิ่งสิ้นสุดการฝึกของกองทัพประจำปีในวันเดียวกันนั้นเปิดเผยว่ามีเครื่องบินรบจีนแผ่นดินใหญ่ จำนวน 25 ลำ ล้ำเข้าเขตป้องกันน่านฟ้าไต้หวันนับตั้งแต่การฝึกซ้อมรบฮั่น กวง (Han Kuang exercise) เริ่มต้น

หยูกล่าวว่า “แน่นอนที่สุดเราจะไม่ปล่อยไต้หวันจากการลงโทษหากว่าพวกเขาเปลี่ยนชื่อสำนักงานตัวแทนจริง เป็นเพราะว่ากองกำลังแยกไต้ไหวันเป็นอิสระได้เริ่มต้นผ่านการล็อบบี้อย่างหนักและการโปรโมตในการสนับสนุนเพื่อการบั่นทอนให้เกิดบรรยากาศต่อต้านจีนในวอชิงตัน”

มาตรการกดดันที่ปักกิ่งคาดว่าจะใช้รวมไปถึงการซ้อมรบที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในช่องแคบไต้หวันและรอบเกาะไต้หวัน รวมไปถึงการส่งเครื่องบินรบกองทัพจีนข้ามเส้นเมเดียนของช่องแคบไต้หวันเข้าใกล้พื้นที่อากาศทันที (immediate airspace) ของไทเปซึ่งเป็น “เส้นแดงทางจิตวิทยาที่ต้องทำลาย”


อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า “แต่มันใช่ว่าเราจะเข้าสู่น่านฟ้าเป็นเพราะเราต้องใช้สงครามจิตวิทยากดดันพวกเขาเท่านี้นไม่ใช่การเริ่มต้นสงครามที่ยังจะไม่เกิดขึ้น”

ด้าน ซ่ง ซองปิง (Song Zhongping) นักวิเคราะห์ทางการทหารที่มีฐานอยู่ในฮ่องกงแสดงความเห็นใน “ศาสตร์แห่งสงคราม” (The Art of War) ว่า “ในการใช้กำลังทหารกับไต้หวันจะเป็นทางเลือกสุดท้ายดังนั้นการเคลื่อนไหวทางกำลังทหารทั้งหมดยังอยู่ในขั้นเตรียมพร้อม”

และหากว่าสหรัฐฯ เดินหน้าอนุญาตให้ไทเปสามารถเปลี่ยนชื่อที่ทำการของตัวเองได้ ปักกิ่งจะตอบโต้ด้วยการหยุดความร่วมมือในประเด็นต่างๆ เป็นต้นว่าด้านสภาวะโลกร้อนหรือการจัดการกับกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน อ้างอิงจาก หวัง กัง-ยี (Wang Kung-yi) ผู้อำนวยการธิงแทงก์อิสระในกรุงไทเป โซไซตีศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศไต้หวัน (Taiwan International Strategic Study Societ) แสดงความเห็น

“จีนจะไม่ยอมอดทนกับมัน..และจะทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้ในศักยภาพของตัวเองที่มีทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้”

ขณะที่หลิน ยู่-ฟาง (Lin Yu-fang) อดีตสมาชิกรัฐสภาพรรคฝ่ายค้านไต้หวันก๊กมินตั๋งแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ขณะที่ไบเดนพยายามที่จะกอบกู้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่เลวร้ายลงอย่างหนักในสมัยรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนหน้า และไม่ว่าไทเปจะสามารถเปลี่ยนชื่อได้หรือไม่สิ่งนี้สมควรเป็นสิ่งต้องจับตา

“ในภาพรวมไบเดนและรัฐบาลของเขาไม่เคยประกาศว่าจะละทิ้งนโยบายจีนเดียวที่พวกเขาย้ำว่าจะยังคงอยู่ตามหลักการในการมีความสัมพันธ์กับปักกิ่ง” หลิน กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร (14) ก่อนหน้า มีรายงานออกมาจากบิสเนสอินไซเดอร์ว่า มีการพบเรือรบ 4 ลำของกองทัพจีนอยู่ในน่านน้ำสากลใกล้กับรัฐอะแลสกาทางเหนือสุดของสหรัฐฯ

โดยการพบเรือรบ 4 ลำของกองทัพจีนได้รับการยืนยันจากแถลงการณ์ของหน่วยงานยามฝั่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์ที่ 13 ก.ย. ออกมาระบุว่า ฝูงเรือรบกองทัพประชาชนจีนทั้ง 4 ลำประกอบไปด้วย เรือรบนำมิสไซล์นำวิถี เรือรบพิฆาตมิสไซล์นำวิถี เรือสอดแนม และเรือสนับสนุน (auxiliary vessel) ได้ปฏิบัติการทหารและสอดแนมในทะเบแบริงและมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ

สื่อธุรกิจรายงานว่า เรือรบจีนเหล่านี้เข้าไปภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของสหรัฐฯ EEZ แต่ยังคงอยู่ในน่านน้ำสากลโดยอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค-วันที่ 1 ก.ย เจ้าหน้าที่ยามฝั่งสหรัฐฯ เปิดเผยกับบิสซิเนสอินไซเดอร์ในช่วงค่ำวันจันทร์ (13)

ทั้งนี้ ระยะที่ใกล้ที่สุดฝูงเรือรบจีนเข้าใกล้ดินแดนสหรัฐฯ มากที่สุดเมื่อเรือรบเหล่านี้แล่นเข้าไปในระยะ 46 ไมล์ของหมู่เกาะ Aleutian Islands

และเรือรบกองทัพจีน 4 ลำอยู่ภายใต้การจับตาของเรือชั้นคัตเตอร์ยามฝั่งสหรัฐฯ 2 ลำคือ เรือคัตเตอร์เบอร์โธล์ฟ (Bertholf) และเรือคัตเตอร์คิมบอล (Kimball) ซึ่งเรือยามฝั่งสหรัฐฯ สามารถถ่ายภาพการปรากฏตัวของฝูงเรือรบจีน

และพบว่าเจ้าหน้าที่ยามฝั่งสหรัฐฯ ประจำเรือคัตเตอร์เบอร์โธล์ฟได้สื่อสารทางวิทยุติดต่อกองเรือรบจีนซึ่งทางสหรัฐฯ ชี้ว่าเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติสากล

“ความมั่นคงในทะเลแบร์ริงและทวีปอาร์กติกเป็นความมั่นคงภายในประเทศ” พล.ร.ท.ไมเคิบ แม็คออลลิสเตอร์ (Michael McAllister) ผู้บัญชาการหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ พื้นที่แปซิฟิกกล่าวผ่านแถลงการณ์

และเสริมต่อว่า หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ จะยังคงปรากฏภายในภูมิภาคที่สำคัญนี้ต่อไปเพื่อธำรงรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และปกป้องความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจอเมริกัน

หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของจีนแสดงความเห็นในวันจันทร์ (13) ว่า ความเคลื่อนไหวของฝูงเรือรบจีน PLA ที่ป้วนเปี้ยนใกล้กับรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ เป็นการแสดงการตอบโต้ต่อการกระทำของสหรัฐฯ ในการใช้สิทธิเสรีภาพในการเดินเรือในพื้นที่ขัดแย้งทะเลจีนใต้ของปักกิ่ง

ทั้งนี้ กองเรือรบจีนเริ่มปฏิบัติการใกล้กับอะแลสกาครั้งแรกในปี 2015


กำลังโหลดความคิดเห็น