คณะที่ปรึกษาด้านสุขภาพของรัฐบาลฮ่องกงแนะนำให้เด็กที่อายุระหว่าง 12-17 ปี ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไบโอเอ็นเทคเพียงแค่ 1 เข็ม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
ศาสตราจารย์ หลิว อวี่หลง (Lau Yu-Lung) ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านสุขภาพซึ่งให้คำแนะนำด้านฉีดวัคซีนแก่รัฐบาลฮ่องกง บอกกับสถานีโทรทัศน์ RTHK ว่าผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนไบโอเอ็นเทคพบบ่อยกว่าที่เคยคาดคิดกันไว้ ดังนั้น คณะผู้เชี่ยวชาญจึงพิจารณาเห็นสมควรให้เด็กวัยรุ่นฉีดวัคซีนตัวนี้เพียงแค่ 1 เข็ม “ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอับเสบได้อย่างมาก”
กระทรวงสาธารณสุขฮ่องกงไม่เปิดเผยว่ามีผู้ฉีดวัคซีนไบโอเอ็นเทคที่เกิดผลข้างเคียงในลักษณะนี้ทั้งหมดกี่ราย แต่สื่อ RTHK ให้ข้อมูลว่า มีวัยรุ่นมากกว่า 30 คนที่เกิดภาวะหัวใจอักเสบ หลังรัฐบาลเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้แก่พลเมืองที่อายุเกิน 12 ปีขึ้นไป ในเดือน มิ.ย.
โครงการฉีดวัคซีนในฮ่องกงมีการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 อยู่ 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ วัคซีนของซิโนแวคและไบโอเอ็นเทค โดยวัคซีนซิโนแวคจะฉีดให้แก่ประชากรวัยผู้ใหญ่ ส่วนเด็กวัยรุ่นจะได้ฉีดเฉพาะวัคซีนไบโอเอ็นเทคเท่านั้น
จนถึงขณะนี้ ทางการฮ่องกงฉีดวัคซีนให้แก่เด็กอายุ 12-17 ปีไปแล้วมากกว่า 50% แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าใช้วัคซีนไปแล้วทั้งสิ้นกี่โดส
หน่วยงานด้านสาธารณสุขในสหรัฐฯ, สหภาพยุโรป และองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า ผู้ที่รับวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งได้แก่ วัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา บางคนอาจเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (pericarditi) โดยเป็นผลข้างเคียงจากวัคซีนที่พบได้น้อยมาก และประโยชน์ที่ได้รับจากการฉีดวัคซีนยังมีมากกว่าความเสี่ยง
ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) พบว่า ผู้ที่อายุระหว่าง 18-24 ปีที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 2 มีโอกาสประมาณ 18.5 ต่อวัคซีน 1 ล้านโดสที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ขณะที่อัตราความเสี่ยงสำหรับวัคซีนโมเดอร์นาเข็ม 2 ในช่วงอายุเดียวกัน อยู่ที่ 20.2 ต่อวัคซีน 1 ล้านโดส
ประชากรฮ่องกงฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วราวๆ 65% ทว่าสัดส่วนยังค่อนข้างน้อยในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่กลัวผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของฮ่องกงเวลานี้อยู่ที่ราวๆ 12,100 คน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 213 คน
ที่มา: รอยเตอร์