xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้ง "ปลดผู้ว่าฯรัฐแคลิฟอร์เนีย" เดือด! “นิวซอม” โจมตีคู่แข่ง “เอลเดอร์” จากรีพับลิกันรวมอดีตตำรวจหัวเรือใหญ่ผู้จัดรณรงค์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ – 2 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งปลดรัฐแคลิฟอร์เนียที่จะมีขึ้นในวันอังคาร(14 ก.ย) พบว่าผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซอมและคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันผิวสี แลร์รีย์ เอลเดอร์ (Larry Elder) ใช้วันอาทิตย์(12 ก.ย)ในการผลักดันผู้มีสิทธิ์ที่ลอสแอนเจลิส ผู้ว่าการรัฐฯคนหนุ่มชี้ช่องคู่แข่ง ใช้ตรรกะคำพูดแก้ต่างแทนอดีตเจ้าของทาสผิวดำ ชี้อดีตนายตำรวจออร์แกไนเซอร์ต้องการติดไมโครชิพให้คนเข้าสหรัฐฯผิดกฎหมายไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยง

เอบีซีนิวส์7 สื่อซานฟรานซิสโกรายงานเมื่อวานนี้(12 ก.ย)ว่า การหาเสียงปลดผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียและเปลี่ยนตัวใหม่หากว่าประชาชนผู้มีสิทธิ์ในรัฐแคลิฟอร์เนียลงคะแนนไม่เอา แกวิน นิวซอม (Gavin Newsom)ผู้ว่าการรัฐคนปัจจุบันในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในวันอังคาร(14) และคู่แข่งเกิดชนะเลือกตั้งขึ้นมา

การเลือกตั้งวันอังคาร(14)ที่จะถึงนี้เรียกว่า (2021 California gubernatorial recall election)

นิวซอมจากพรรคเดโมแครตหาเสียงกับฐานเสียง 200 คนที่ซัน แวลลีย์( Sun Valley) ซึ่งเป็นถิ่นย่านคนละตินอเมริกันจำนวนมากส่วนคู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน เอลเดอร์เปิดการแถลงข่าวที่เบรนต์วู๊ด(Brentwood)

อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานเพิ่มเติมว่า นิวซอมอยู่ท่ามกลางเลือกตั้งปลดออกจากตำแหน่งเป็นความพยายามที่มาจากกลุ่มผู้มีสิทธิ์หาเสียงของพรรครีพับลิกันในการปลดเขาออกมาจากตำแหน่ง และอาจถูกใช้เป็นปรอทชี้วัดการเลือกตั้งรัฐสภาสหรัฐฯกลางเทอมปี 2022 และแกนนำพรรคเดโมแครตนั้นให้ความสนับสนุนอยู่เบื้องหลังนิวซอมอย่างขันแข็ง

สำหรับระบบการปฎิบัติพบว่า ผู้มีสิทธิ์การเลือกตั้งจะได้รับบัตรลงคะแนนผ่านทางไปรษณีย์ที่บนบัตรเลือกตั้งจะมีแค่ 2 คำถามเท่านั้นที่จะต้องตอบ โดยข้อแรกคือ “ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียสมควรที่จะถูกสั่งปลดออกจากตำแหน่งหรือไม่” และหากว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรายนั้นตอบ “ใช่” เขาหรือเธอจะสามารถเลือกรายชื่อผู้สมัครคู่แข่งนิวซอมที่ลงไว้จำนวน 46 คนเพื่อแทนที่เขา และหากว่าคู่แข่งเช่นเอลเดอร์จากพรรครีพับลิกันขึ้นมาแทนที่นิวซอมจะทำให้เกิดการฟ้าเปลี่ยนสีที่รัฐแคลิฟอร์เนียจากสีน้ำเงินกลายเป็นสีแดงทันที

ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียจากพรรครีพับลิกันคนก่อนหน้าคือ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ นักแสดงออสเตรียชื่อดังของฮอลลีวูดที่ผันตัวมาเป็นนักการเมืองของสหรัฐฯ

อัลญะซีเราะฮ์กล่าวว่า แต่หากว่าผลการเลือกตั้งปลดมีคนตอบปฎิเสธ “ไม่” หรือ โน มากกว่า 50% จะทำให้นิวซอมรอดจากการถูกปลดไปได้ แต่หากว่าเสียงส่วนใหญ่เลือก โหวต เยส หรือใช่เขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่งไปในทันทีส่วนคู่แข่งที่ได้รับเสียงมากที่สุดจากทั้งหมด 46 คนจะเข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียคนใหม่

แนวคิดการปลดนิวซอมครั้งแรกเกิดเมื่อกุมภาพันธ์ ปี2020 เมื่ออดีตตำรวจสหรัฐฯชื่อ ออร์ริน ฮีทลี(Orrin Heatlie) ได้เริ่มต้นกระบวนการปลดนิวซอมหลังเขารู้สึกไม่พอใจที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียรายนี้ประกาศให้บรรดาคนเข้าเมืองผิดกฎหมายไม่ต้องเปิดประตูให้ตำรวจเว้นแต่จะมีหมายมาแสดง

ฮีทลีรวบรวมรายชื่อจากฐานพรรครีพับลิกันที่ไม่ชื่นชอบในตัวนิวซอมแต่เขาจำเป็นต้องได้รายชื่อเข้าร่วม 12% ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 1.5 ล้านคนเพื่อให้การเดินหน้าปลดนิวซอมดำเนินการต่อไป

และนอกจากนี้ยังมีอีก 2 เหตุการณ์ที่สนับสนุนการปลดนิวซอมเกิดเมื่อผู้พิพากษาอนุญาตให้องค์กรกลุ่มเคลื่อนไหวการปลดผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียสามารถมีเวลาเพิ่มเติมอีก 4 เดือนในการรวบรวมรายชื่อได้โดยอ้างเหตุผลอุปสรรคจากวิกฤตโรคโควิด-19

ตัวนิวซอมเองยังเป็นต้นเหตุนำไปสู่การถูกปลดเนื่องมาจากในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วพบว่าเขาทำตัว 2 มาตรฐานร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำกับเพื่อนอีกถึง 11 คนและกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ทางการเมืองซึ่งเป็นงานเลี้ยงที่ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย

ซึ่งงานเลี้ยงอาหารค่ำนี้ต่อหัวต้องจ่ายถึง 350 ดอลลาร์/คน เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาสั่งให้ทั้งรัฐต้องสวมหน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการร่วมงานเทศกาลฉลองวันขอบคุณพระเจ้าร่วมกับครอบครัวและญาติ

ส่งผลทำให้คนจากทุกแวดวงการเมืองมองนิวซอมเป็นบุคคล 2 มาตรฐานไปในทันทีและร่วมลงรายชื่อปลดเขาออกจากการดำรงตำแหน่ง และทำให้การรณรงค์ถอดถอนนิวซอมประสบความสำเร็จสามารถผ่านหลัก 12% ได้สำเร็จ

เอบีซีนิวส์7 รายงานเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากเหตุผลการร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำของนิวซอมแล้วพบว่า ผู้ที่เข้าร่วมสนับสนุนการถอดถอนนั้นไม่พอใจฝีมือการบริหารวิกฤตโควิด-19ของเขา แต่ทว่ากระแสที่มาจากอินฟลูเอ็นเซอร์ระดับชาติเช่น อดีตประธานาธิบดีผิวสีที่เป็นชื่นชอบของชาวแคลิฟอร์เนียน บารัค โอบามา ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีสหรัฐฯผิวสีคนแรก กมลา แฮร์ริส ได้กลับมาที่เขตเบย์แอเรีย ซานฟรานซิสโกเพื่อช่วยนิวซอมหาเสียง และผลจากโควิด-19ที่มีอัตราดีขึ้นทำให้สื่อสหรัฐฯชี้ไปว่า ดูเหมือนนิวซอมจะรอดพ้นจากการถูกปลดในการเลือกตั้งวันอังคาร(14) และสามารถทำหน้าที่ต่อไปจนหมดสมัย

หนังสือพิมพ์แอลเอไทม์สรายงานว่า ในการหาเสียงนิวซอมได้โจมตีไปที่คู่แข่งเอลเดอร์รวมไปถึงออร์แกไนเซอร์การรณรงค์ ฮีทลี โดยสำหรับเอลเดอร์ เขาชี้ไปถึงตรรกะในคำพูดของคู่แข่งที่แสดงให้เห็นว่าเป็นความเห็นที่เป็นคำแก้ตัวของอดีตเจ้าของทาสผิวดำและไปยังแอฟริกันอเมริกัน โดยเอลเดอร์ที่เป็นรีพับลิกันแอฟริกันอเมริกันยืนยันว่า ไม่ใช่แคแอฟริกันอเมริกันเท่านั้นที่ต้องได้รับเงินเยียวยาแต่อดีตนายทาสผิวสีต้องได้รับเช่นกัน เพราะในทรรศนะของเอลเดอร์ชี้ว่า การเป็นทาสเป็นสิ่งถูกกฎหมาย

ส่วนในกรณีของฮีทลี นิวซอมชี้ไปถึงการโพสต์ของอดีตนายตำรวจรายนี้ที่เสนอให้ฝัง "ไมโครชิพ" กลุ่มคนเข้าสหรัฐฯผิดกฎหมายไม่ต่างจากที่คนปกติฝังไมโครชิพให้กับสุนัขของตัวเองเพื่อติดตามตัว


อัลญะซีเราะฮ์กล่าวว่า แต่หากว่าผลการเลือกตั้งปลดมีคนตอบปฎิเสธ “ไม่” หรือ โน มากกว่า 50% จะทำให้นิวซอมรอดจากการถูกปลดไปได้ แต่หากว่าเสียงส่วนใหญ่เลือก โหวต เยส หรือใช่เขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่งไปในทันทีส่วนคู่แข่งที่ได้รับเสียงมากที่สุดจากทั้งหมด 46 คนจะเข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียคนใหม่

แนวคิดการปลดนิวซอมครั้งแรกเกิดเมื่อกุมภาพันธ์ ปี2020 เมื่ออดีตตำรวจสหรัฐฯชื่อ ออร์ริน ฮีทลี(Orrin Heatlie) ได้เริ่มต้นกระบวนการปลดนิวซอมหลังเขารู้สึกไม่พอใจที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียรายนี้ประกาศให้บรรดาคนเข้าเมืองผิดกฎหมายไม่ต้องเปิดประตูให้ตำรวจเว้นแต่จะมีหมายมาแสดง

ฮีทลีรวบรวมรายชื่อจากฐานพรรครีพับลิกันที่ไม่ชื่นชอบในตัวนิวซอมแต่เขาจำเป็นต้องได้รายชื่อเข้าร่วม 12% ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 1.5 ล้านคนเพื่อให้การเดินหน้าปลดนิวซอมดำเนินการต่อไป

และนอกจากนี้ยังมีอีก 2 เหตุการณ์ที่สนับสนุนการปลดนิวซอมเกิดเมื่อผู้พิพากษาอนุญาตให้องค์กรกลุ่มเคลื่อนไหวการปลดผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียสามารถมีเวลาเพิ่มเติมอีก 4 เดือนในการรวบรวมรายชื่อได้โดยอ้างเหตุผลอุปสรรคจากวิกฤตโรคโควิด-19

ตัวนิวซอมเองยังเป็นต้นเหตุนำไปสู่การถูกปลดเนื่องมาจากในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วพบว่าเขาทำตัว 2 มาตรฐานร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำกับเพื่อนอีกถึง 11 คนและกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ทางการเมืองซึ่งเป็นงานเลี้ยงที่ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย

ซึ่งงานเลี้ยงอาหารค่ำนี้ต่อหัวต้องจ่ายถึง 350 ดอลลาร์/คน เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาสั่งให้ทั้งรัฐต้องสวมหน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการร่วมงานเทศกาลฉลองวันขอบคุณพระเจ้าร่วมกับครอบครัวและญาติ

ส่งผลทำให้คนจากทุกแวดวงการเมืองมองนิวซอมเป็นบุคคล 2 มาตรฐานไปในทันทีและร่วมลงรายชื่อปลดเขาออกจากการดำรงตำแหน่ง และทำให้การรณรงค์ถอดถอนนิวซอมประสบความสำเร็จสามารถผ่านหลัก 12% ได้สำเร็จ

เอบีซีนิวส์7 รายงานเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากเหตุผลการร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำของนิวซอมแล้วพบว่า ผู้ที่เข้าร่วมสนับสนุนการถอดถอนนั้นไม่พอใจฝีมือการบริหารวิกฤตโควิด-19ของเขา แต่ทว่ากระแสที่มาจากอินฟลูเอ็นเซอร์ระดับชาติเช่น อดีตประธานาธิบดีผิวสีที่เป็นชื่นชอบของชาวแคลิฟอร์เนียน บารัค โอบามา ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีสหรัฐฯผิวสีคนแรก กมลา แฮร์ริส ได้กลับมาที่เขตเบย์แอเรีย ซานฟรานซิสโกเพื่อช่วยนิวซอมหาเสียง และผลจากโควิด-19ที่มีอัตราดีขึ้นทำให้สื่อสหรัฐฯชี้ไปว่า ดูเหมือนนิวซอมจะรอดจากการถูกปลดในการเลือกตั้งวันอังคาร(14) และสามารถทำหน้าที่ต่อไปจนหมดสมัย

หนังสือพิมพ์แอลเอไทม์สรายงานว่า ในการหาเสียงนิวซอมได้โจมตีไปที่คู่แข่งเอลเดอร์รวมไปถึงออร์แกไนเซอร์การรณรงค์ ฮีทลี โดยสำหรับเอลเดอร์ เขาชี้ไปถึงตรรกะในคำพูดของคู่แข่งที่แสดงให้เห็นว่าเป็นความเห็นที่เป็นคำแก้ตัวของอดีตเจ้าของทาสผิวดำและต่อแอฟริกันอเมริกัน โดยเอลเดอร์ที่เป็นรีพับลิกันแอฟริกันอเมริกันยืนยันว่า ไม่ใช่แคแอฟริกันอเมริกันเท่านั้นที่ต้องได้รับเงินเยียวยาแต่อดีตนายทาสผิวสีต้องได้รับเช่นกัน เพราะในทรรศนะของเอลเดอร์ชี้ว่า การเป็นทาสเป็นสิ่งถูกกฎหมาย

ส่วนในกรณีของฮีทลี นิวซอมชี้ไปถึงการโพสต์ของอดีตนายตำรวจรายนี้ที่เสนอให้ติดไมโครชิพกลุ่มคนเข้าสหรัฐฯผิดกฎหมายไม่ต่างจากที่คนปกติติดไมโครชิพให้กับสุนัขของตัวเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น