“ไบเดน-สี” หารือร่วมครั้งแรกหลัง “อัฟกานิสถาน” พยายามจูนเข้าหาเลี่ยงความขัดแย้ง ส่วนสื่อกระบอกเสียงปักกิ่งเชียร์ “กองทัพจีน” แล่นเรือเข้าน่านน้ำสหรัฐฯ

เอเอฟพี/เอพี/เอเจนซีส์ - วานนี้ (9 ก.ย.) ในการหารือครั้งแรกในรอบ 7 เดือนระหว่างผู้นำ 2 ชาติมหาอำนาจของโลก พบว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้หารือร่วมกันทางโทรศัพท์ ทำเนียบขาวแจงว่า คนทั้งคู่เห็นพ้องที่ไม่ต้องการให้การแข่งขันระหว่างกันจะกลายเป็นความขัดแย้ง เกิดขึ้นหลังหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สกระบอกเสียงปักกิ่งออกมาเตือนในวันพุธ (8 ก.ย.) ว่า สหรัฐฯ อาจได้มีวันเห็นเรือรบจีนแล่นอยู่ในน่านน้ำตัวเองในอนาคตอันใกล้

เอเอฟพีรายงานวันนี้ (10 ก.ย.) ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำจีนในวันพฤหัสบดี (9) ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ ถอนกำลังทหารออกไปจากอัฟกานิสถาน และปักกิ่งกำลังพยายามทำตัวสนิทสนมกับกลุ่มตอลิบานผู้ปกครองใหม่แทนที่อดีตรัฐบาลพลเรือนของประธานาธิบดี อัชราฟ กานี ที่มีสหรัฐฯ ให้การสนับสนุน

ในการสนทนาที่ต่างฝ่ายต่างไม่ได้ติดต่อกันนานร่วม 7 เดือนเกิดขึ้นเป็นเวลา 90 นาที โดยไบเดนเป็นฝ่ายโทร.ติดต่อไปหาสีก่อน NBC NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงานในรายละเอียดโดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯเปิดเผยว่า ผู้นำสหรัฐฯ โทรศัพท์จากห้องสนธิสัญญา (Treaty Room) ที่ชั้น 2 ของทำเนียบขาว สุ้มเสียงของการหารือระหว่างกันของ 2 ผู้นำที่รู้จักมานานหลายปีนั้นมีความคุ้นเคยและตรงไปตรงมา และครอบคลุมในหลายประเด็นเป็นวงกว้าง สอดคล้องกับการรายงานของทางสำนักข่าวทางการจีน CCTV ในรายงานของเอเอฟพีที่ว่า

โทรศัพท์ครั้งแรกในรอบหลายเดือนนี้มีความตรงไปตรงมาและลึกในรายละเอียดและครอบคลุมการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ในวงกว้างและแลกเปลี่ยนต่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และประเด็นที่มีความวิตกร่วมกัน

ทำเนียบขาวกล่าวว่า ไบเดนแสดงการตอกย้ำว่าสหรัฐฯ มีความสนใจอย่างลึกซึ้งต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่งคั่งผาสุขในเอเชียและแถบไกลโพ้น

“ผู้นำชาติทั้งสองหารือถึงความรับผิดชอบของ 2 ชาติเพื่อทำให้มั่นใจว่าการแข่งขันจะไม่กลายเป็นความขัดแย้ง” ทำเนียบขาวกล่าวผ่านแถลงการณ์

NBC News รายงานเพิ่มเติมว่า โทรศัพท์เกิดขึ้นในช่วงกลางคืนวันพฤหัสบดี (9) แต่เป็นช่วงเช้าตรู่ที่กรุงปักกิ่ง หลังจากก่อนหน้าของการหารือระหว่างกันทางโทรศัพท์เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ต้นปี เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ กล่าวว่า ไม่มีฝ่ายใดยอมประกาศริเริ่มในข้อผูกพันครั้งใหม่ระหว่างการหารือ ชี้ให้เห็นว่ายังไม่มีการบรรลุเป้าหมายในการตัดสินใจร่วมกันใดๆ แต่ดูว่ามีความพยายามที่จะบรรลุในสิ่งใหม่ๆ ผ่านทางกระบวนการทางการทูตที่ยังคงติดล็อกกันอยู่ด้วยการยกระดับปัญหาไปอยู่ที่ผู้นำแห่งรัฐทั้งสอง

“ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงอย่างชัดเจนถึงวิธีการที่เขากำลังใช้เพื่อจัดการจีน และกล่าวว่าบางทีท่าทีเหล่านี้นั้นอาจถูกตีความในทางที่ผิดได้ไปในหนทางที่จะบั่นทอนจีน” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าว และเสริมอีกว่า “ขอเราพูดอย่างชัดเจนอีกครั้งในความตั้งใจของเราว่าเป็นสิ่งใดมากกว่าจะทำให้เราต้องเปลี่ยนในสิ่งที่พวกเรากำลังกระทำอยู่เพราะผมไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ”

เอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่หวาดกลัวต่อการแข่งขันอย่างดุเดือดแต่ไม่ต้องการเปลี่ยนให้การแข่งขันกลายเป็นความขัดแย้งไป แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังเปิดเผยอีกว่า ฝั่งจีนยังไม่พร้อมที่จะเจรจาในประเด็นที่ร้ายแรงจริงจังหรือเจรจาที่เป็นวงกว้าง โดยชี้ว่านี่ไม่ใช่การแสดงออกอย่างมีความรับผิดชอบโดยเฉพาะในความสำคัญระดับโลกในการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ในวันพุธ (8) หนังสือพิมพ์จีนโกลบอลไทม์สออกมาแสดงความเห็นผ่านบทบรรณาธิการของตัวเองประกาศข่มขู่สหรัฐฯ อาจจะต้องพบกับเรือรบจีนในเขตน่านน้ำของสหรัฐฯ ก็เป็นได้ในอนาคต ตอบโต้จากการกระทำของสหรัฐฯ ที่แล่นเรือรบผ่านเข้าออกทะเลจีนใต้ซึ่งเป็นอาณาเขตของจีน

โดยในรายงานของหนังสือพิมพ์วอชิงตันเอ็กแซมมิเนอร์ของฉบับวันเดียวกัน (8) คอลัมนิสต์ ทอม โรแกน (Tom Rogan) ออกมาแสดงความเห็นถึงการข่มขู่จากปักกิ่งครั้งนี้ว่า จากการที่หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สที่ถูกควบคุมภายใต้ผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการต่างประเทศประจำพรรคคอมมิวนิสต์จีน หยาง เจียฉี เรียกร้องให้กองทัพเรือจีนส่งกองเรือรบไปยังฐานทัพสหรัฐฯ ในเอเชียแปซิฟิกและน่านน้ำของพันธมิตรใกล้ชิดสหรัฐฯ เพื่อออกปฏิบัติการสอดแนมอย่างใกล้ชิดและเป็นการประกาศเสรีภาพการเดินเรือ

“สหรัฐฯ จะได้เห็นอย่างแน่นอนต่อการปรากฏตัวของกองทัพจีน PLA ที่ประตูหน้าบ้านตัวเองในอนาคตอันใกล้” รายงานจากหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของจีน

ซึ่งวอชิงตันเอ็กแซมมิเนอร์ กล่าวว่า นี่ไม่ใช่การแค่ระบายความโกรธแต่เป็นคำข่มขู่ที่มีความน่าเชื่อถือเนื่องมาจากหนังสือพิมพ์เล่มนี้ถูกกำกับภายใต้หยาง ซึ่งถือเป็นนักการเมืองคนสำคัญของจีน 

และในบทความของหนังสือพิมพ์จีน ยังได้กล่าวไปถึงการยั่วยุอย่างเปิดเผยจากการทรานซิตเรือรบพิฆาตสหรัฐฯ ในวันพุธ (8) ที่เกิดขึ้นภายใน 12 ไมล์ทะเลของหมู่เกาะเทียมจีนในทะเลจีนใต้ และเตือนว่า มีเพียงวิธีการเดียวที่จะทำให้สหรัฐฯ เข้าใจความเจ็บช้ำนี้มาจากการตอบโต้ด้วยวิธีเดียวกันเท่านั้น และยังทำให้โลกตะวันตกเข้าใจได้ดีมากขึ้นถึงการที่จีนถูกสหรัฐฯ รังแกในทะเลจีนใต้