รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โยชิอิเดะ ซูงะ เตรียมให้การสนับสนุน ทาโร โคโนะ (Taro Kono) อดีตรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ขึ้นชิงตำแหน่งผู้นำพรรคแอลดีพี (LDP) คนต่อไป คาดซูงะ จะนั่งทำหน้าที่เป็นผู้นำไปจนถึงวันที่ 29 ก.ย.ที่จะมีการประกาศชื่อผู้ชนะการเลือกตั้งออกมา สื่อญี่ปุ่นรายงานจีนจับตาการเมืองญี่ปุ่นใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับนโยบายไต้หวันหลังสิ้นสมัยซูงะ
รอยเตอร์รายงานวานนี้ (4 ก.ย.) มีการเปิดเผยออกมาแล้วจากการรายงานของนิปปอน นิวส์ เน็ตเวิร์ก สื่อญี่ปุ่นในวันเสาร์ (4) ว่า ผู้นำแดนปลาดิบเตรียมให้การสนับสนุน ทาโร โคโนะ (Taro Kono) อดีตรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ขึ้นชิงตำแหน่งผู้นำพรรคแอลดีพี (LDP) คนต่อไป
รอยเตอร์ชี้ว่า โคโนะเป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบโครงการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ทั้งนี้ โคโนะ ในวัย 58 ปี เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มคนรุ่นใหม่ญี่ปุ่นหลังสร้างเสียงสนับสนุนผ่านทางทวิตเตอร์ที่เขามีผู้ติดตามถึง 2.3 ล้านคน ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากในแวดวงการเมืองญี่ปุ่นที่มีจำนวนมากเป็นกลุ่มชายสูงอายุ และปรับเปลี่ยนให้เข้ากับโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ยาก
การเปิดกว้างสำหรับการชิงผู้ที่จะทำหน้าที่หัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่นี้ ทำให้การเมืองญี่ปุ่นมีความคึกคักในหมู่ตัวเก็ง และผู้สมัครคนสำคัญทั้งหลายในวันเสาร์ (4) เกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่ซูงะ ประกาศอย่างไม่คาดฝันว่าจะลงจากตำแหน่งหลังจากสิ้นสุดสมัยการดำรงตำแหน่ง 1 ปีของตัวเอง จากการที่ผู้สนับสนุนในตัวเขาลดลงจากปัญหาโควิด-19
นอกเหนือจากโคโนะ แล้ว พบว่า อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) ได้ประกาศจะลงชิงพร้อมกับมีคนจำนวนหนึ่งออกมาแสดงความสนใจที่จะให้การสนับสนุนต่อตัวเขา และมีรายงานว่า อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นผู้โด่งดังที่ดำรงตำแหน่งนาน 8 ปี ชินโซ อาเบะ มีข่าวว่าเขาให้การสนับสนุนอดีตรัฐมนตรีมหาดไทยญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิชิ (Sanae Takaichi) ที่มีความใกล้ชิดกับเขา
ซึ่งหากว่า ทาคาอิชิ ประสบความสำเร็จได้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่จริงจะทำให้เธอกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงญี่ปุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์ทันที แต่ทว่ามีรายงานว่า ที่ผ่านมาเธอประสบปัญหากับการหาเสียงสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นพรรคแอลดีพีให้ได้ 20 คนเพื่อจะได้สิทธิลงชิงตำแหน่ง และการที่อาเบะ ยอมที่จะสนับสนุนตัวเธอจะเป็นการเพิ่มความนิยมให้แก่ตัวเธอมากยิ่งขึ้น
คิชิดะประกาศในวันเสาร์ (4) ว่าหากว่าตัวเขาได้รับเลือกแล้ว เขาจะยอมปล่อยให้อัตราภาษี VAT ญี่ปุ่นอยู่ที่ 10% ต่อไป พร้อมกับย้ำว่าเขาจะเพิ่มแพกเกจกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ที่มีมูลค่าร่วมหลายสิบล้านล้านล้านเยน (หลายร้อยพันล้านดอลลาร์โดยประมาณ) ผ่านทางการออกพันธบัตรรัฐบาล
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังจากสิ้นสมัยซูงะแล้ว ปักกิ่งจับตาใกล้ชิดต่อทุกย่างก้าวในนโยบายไต้หวันของญี่ปุ่น ซึ่งหนึ่งในนักการทูตในกรุงปักกิ่งแสดงความเห็นว่า “มีเจ้าหน้าที่จีนเป็นจำนวนมากรู้สึกผิดหวังต่อซูงะ” และเสริมต่อว่า “ความสนใจของคนเหล่านี้ได้หันไปสู่ผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนถัดไป และรัฐบาลญี่ปุ่นชุดใหม่จะจัดการปัญหาไต้หวันอย่างไร”
แต่เชื่อว่าปักกิ่งจะยังไม่ใช้ไม้แข็งในการเข้าหาญี่ปุ่นไปจนกว่าการแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว และการแข่งพาราโอลิมปิกจะสิ้นสุดลงในปีหน้า แหล่งข่าวนักการทูตคนที่ 2 แสดงความเห็นในเรื่องนี้ ซึ่งการแข่งกีฬาเหล่านี้จะถูกจัดระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนมีนาคมปี 2022 สำนักข่าวเกียวโดชี้
และเขากล่าวต่อว่า หากว่าปักกิ่งยังคงใช้ไม้แข็งเพิ่มความก้าวร้าวกับสหรัฐฯ และพันธมิตรของสหรัฐฯ เช่น ญี่ปุ่น เพราะมันอาจจะส่งผลทำให้ชาติทั้งสองตัดสินใจบอยคอตการแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว และจะกลายเป็นการทำให้เกิดการเสียเกียรติแก่ผู้นำจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็เป็นได้ สีมีความต้องการใช้การแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศที่สำคัญนี้เพิ่มความนิยมให้แก่จีน
นักการทูตกล่าวว่า “จีนไม่ต้องการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันขนาดใหญ่ที่มีแต่ประเทศที่เป็นมิตรกับจีนเข้าร่วม” พร้อมชี้ว่า “สีต้องการเลี่ยงความขัดแย้งกับญี่ปุ่นก่อนการแข่งขันปักกิ่งเกมส์ เพื่อที่ว่าประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของตัวเองประเทศนี้จะเข้าร่วมการแข่งขัน”