ประชากรสิงคโปร์กว่า 80% จากทั้งหมด 5.7 ล้านคนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว ทำให้เกาะศูนย์กลางธุรกิจแห่งนี้กลายเป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสสูงที่สุดในโลก และเอื้อต่อการที่ภาครัฐจะเริ่มมาตรการเปิดประเทศ
ออง เย คุง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ (29 ส.ค.) ว่า “เราได้ก้าวข้ามหมุดหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือประชากร 80% ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
“นั่นหมายความว่า สิงคโปร์ได้ก้าวหน้าไปอีกขั้นในการทำให้ประชาชนของเราสามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้น”
ประเทศอื่นๆ ที่มีประชากรฉีดวัคซีนครบเกิน 70% แล้ว ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี), อุรุกวัย และชิลี
รัฐบาลสิงคโปร์เริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเลือกใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา เป็นส่วนใหญ่
ออง ระบุเมื่อต้นเดือน ส.ค. ว่า หากสิงคโปร์ “สามารถคงจำนวนผู้ติดเชื้อรุนแรงและป่วยหนักให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยที่ระบบสาธารณสุขไม่ตึงตัวจนเกินไป” ก็จะช่วยให้ระบบเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัว และผู้คนสามารถกลับมาทำกิจกรรมทางสังคม รวมถึงเดินทางไปมาหาสู่กันได้โดยไม่ต้องกักตัว
“เราจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ และวิถีชีวิตของพวกเราจะได้รับการปกป้องมากขึ้น” เขากล่าว
ออง และรัฐมนตรีสิงคโปร์อีก 2 คนได้เอ่ยถึงวิถีชีวิตแบบ “new normal” ซึ่งประชาชนจะสามารถรวมตัวเคานท์ดาวน์ในวันขึ้นปีใหม่ ขณะที่ภาคธุรกิจก็ “มั่นใจได้ว่าจะสามารถดำเนินกิจการได้อย่างไม่สะดุด” นอกจากนี้ ชาวสิงคโปร์ยังจะได้รับอนุญาตให้เดินทางท่องเที่ยวต่างแดน อย่างน้อยๆ ก็ในกลุ่มประเทศที่ควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดีเช่นกัน
“เราจะยอมรับใบรับรองการฉีดวัคซีนของกันและกัน ผู้เดินทาง...โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว... สามารถเข้ารับการตรวจโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง และจะได้รับการยกเว้นกักตัว หากมีผลตรวจเป็นลบ” รัฐมนตรีสิงคโปร์กลุ่มนี้ ระบุ
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในสิงคโปร์จนถึงวันจันทร์ (30) อยู่ที่ 67,459 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพียง 55 ราย
ที่มา: Aljazeera