อินเดียฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ 10 ล้านโดสภายในวันเดียวเป็นครั้งแรก ทางการเผยในวันเสาร์ (28) ในขณะที่มหาอำนาจเอเชียใต้แห่งนี้เร่งเพิ่มการป้องกันเพื่อรอรับมือกับการแพร่ระบาดครั้งใหม่
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การฉีดวัคซีน 10 ล้านโดสเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (27) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตัวเลขการฉีดรายวันสูงสุดของประเทศนี้อยู่ที่ 9.2 ล้านราย รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจากการระบาดระลอกใหญ่เมื่อเดือนเมษายนและพฤษภาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200,000 คน
นายกรัฐมนตรีนเรนธรา โมดี ชื่นชมความสำเร็จครั้งนี้ว่าเป็น "ชัยชนะครั้งสำคัญ" สำหรับประเทศของประชากร 1.3 พันล้านคนแห่งนี้
"ขอสรรเสริญผู้ที่ได้รับวัคซีนและผู้ที่ทำให้การรณรงค์ฉีดวัคซีนประสบความสำเร็จ" เขาเขียนในทวิตเตอร์
รัฐบาลมีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ผู้ใหญ่ประมาณ 1.1 พันล้านคนภายในสิ้นปีนี้ แต่ปัญหาความขาดแคลน ความยุ่งเหยิงด้านการบริหารจัดการ และความล่าช้า ทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย นับตั้งแต่การรรณรงค์ฉีดเริ่มในเดือนมกราคม มีประชาชนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสเพียงราว 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ตัวเลขการติดเชื้อรายวันของอินเดียลดลงอย่างมากนับตั้งแต่การระบาดใหญ่ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขของประเทศปั่นป่วนอย่างหนัก
มาตรการควบคุมการเดินทางและกิจกรรมถูกยกเลิกเกือบทั้งหมด ถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนจะเตือนว่าการระบาดระลอกใหม่อาจมาเร็วสุดในเดือนหน้า เมื่อฤดูกาลแห่งเทศกาลเริ่มต้นขึ้น
ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มเพิ่มขึ้นเกิน 40,000 คนอีกครั้งและมีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คนในวันเสาร์ (28) รายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 46,000 คนในวันเสาร์ (28) ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 2 เดือน ตัวเลขผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจากการระบาดในรัฐเกรละทางใต้
ปัจจุบัน อินเดียใช้วัคซีน 3 ยี่ห้อ ได้แก่ ออกฟอร์ด-แอสตร้าเซนเนก้า หรือที่คนอินเดียเรียกกันว่า โควิชิลด์ (Covishield) โคแวคซิน ของบริษัท ภารัต ไบโอเทค และสปุตนิกวี ของรัสเซีย
จนถึงตอนนี้ อินเดียมีตัวเลขผู้เสียชีวิต 437,370 ราย และผู้ติดเชื้อกว่า 32 ล้านคน ตัวเลขสูงสุดอันดับ 2 ในโลกรองจากสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ยอดแท้จริงของอินเดียน่าจะสูงกว่านี้ 4 เท่า เนื่องจากยังมีกรณีที่ไม่ได้รับรายงานอีกมาก