รอยเตอร์ - รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงจาการ์ตาแถลงวันจันทร์ (23 ส.ค.) ยืนยันว่า ในเวลานี้เมืองหลวงอินโดนีเซียประสบความสำเร็จสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เป็นครั้งแรก และในวันเดียวกันได้ออกกฎผ่อนคลายมาตรการป้องกันในกรุงจาการ์ตา และบางพื้นที่อนุญาตให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการได้บางส่วน รวมถึงห้างสรรพสินค้า มัสยิด
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (23 ส.ค.) ว่า เมื่อวันที่ 12 ก.คที่ผ่านมา กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 14,600 คนแต่ทว่าในวันอาทิตย์ (22) ตัวเลขกลับลดลงเหลือแค่ 700 คนเท่านั้น
อาห์หมัด ไรเซีย ปาเตรีย (Ahmad Rizia Patria) รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงจาการ์ตาออกมาแถลงกับนักข่าววานนี้ (22) ว่า “กรุงจาการ์ตาเข้าสู่โซนสีเขียวและประสบความสำเร็จการมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้”
โดยทางรองผู้ว่าฯ ได้ชี้ไปถึงอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่อยู่ในระดับสูงโดยมีประชากรกว่า 54% ของเมืองหลวงได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว และส่วนใหญ่ที่ได้รับ 1 เข็ม เทียบกับอัตรากว่า 11% ของประชากรอินโดนีเซียทั้งหมดที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มนับตั้งแต่อินโดนีเซียเริ่มต้นโครงการแจกวัคซีนมาตั้งแต่มกราคม
แต่ทว่านักระบาดวิทยาประจำมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ปานดู ริโอโน (Pandu Riono) กล่าวแสดงความเห็นว่า รองผู้ว่าการจังหวัดอินโดนีเซียเข้าใจผิดในความหมายของภูมิคุ้มกันหมู่
"ถึงแม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ครบ 100% แต่ระดับภูมิคุ้มกันยังคงต่ำกว่า 80%" เขากล่าว และเสริมต่อว่า ประสิทธิภาพวัคซีนมีเพียงแค่ 55% เท่านั้น
รอยเตอร์ชี้ว่า ถึงแม้อินโดนีเซียจะมีเคสลดลงอย่างมากทั่วประเทศแต่ทว่าในวันอาทิตย์ (22) ยังคงเห็นเคสใหม่มากกว่า 12,000 คน
ทั้งนี้ ในวันจันทร์ (23) ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด ประกาศผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ที่กรุงจาการ์ตา และบางพื้นที่อนุญาตให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการได้บางส่วน รวมถึงห้างสรรพสินค้า มัสยิด และโบสถ์ เป็นต้น