สถานการณ์ที่สนามบินกรุงคาบูลร้อนฉ่าและสับสนวุ่นวายเพิ่มขึ้นอีกในวันจันทร์ (23 ส.ค.) เมื่อเกิดเหตุยิงกันระหว่างกลุ่มมือปืนไม่ทราบฝ่ายกับกองกำลังความมั่นคงของตะวันตกและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวอัฟกัน ทางด้าน “ไบเดน” แสดงความหวังว่า จะไม่ต้องขยายเส้นตายการถอนกำลังทหารอเมริกันทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานภายในสิ้นเดือนนี้ ทว่าอังกฤษเผยเตรียมขอให้วอชิงตันทบทวนเรื่องนี้เพื่อจัดการอพยพชาวตะวันตกและผู้ร่วมงานชาวอัฟกันให้เสร็จสิ้นก่อน
กองทัพเยอรมนีทวิตว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอัฟกันเสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บอีก 3 คนในเหตุยิงปะทะกันที่บริเวณประตูด้านเหนือของสนามบินคาบูลเมื่อวันจันทร์ (23) ซึ่งมีกองทหารอเมริกันและเยอรมนีร่วมในการต่อสู้ด้วย แต่ไม่ได้ระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นนักรบตอลิบานที่ถูกส่งไปรักษาสนามบินหรือไม่ และยังไม่ทราบว่า มือปืนสังกัดกลุ่มใด
การต่อสู้เช่นนี้ เป็นการเพิ่มเติมความโกลาหลอลหม่านที่สนามบินแห่งนี้ นับจากที่ตอลิบานยึดเมืองหลวงของอัฟกานิสถานได้เมื่อวันที่ 15 ที่ผ่านมา และกองทหารอเมริกันและนานาชาติเร่งอพยพพลเมืองของตนรวมทั้งชาวอัฟกันที่เสี่ยงถูกทำร้าย ออกไปจากอัฟกานิสถาน ขณะที่มีผู้คนจำนวนมากยังคงไปอยู่กันที่บริเวณด้านนอกสนามบิน ด้วยความหวังว่าจะสามารถหาเที่ยวบินออกเดินทางไปต่างประเทศได้
เมื่อวันอาทิตย์ (22) มีรายงานว่านักรบตอลิบานไล่ทุบตีเพื่อขัดขวางไม่ให้ฝูงชนเข้าสู่สนามบิน หลังจากก่อนหน้านั้นหนึ่งวันมีชาวอัฟกัน 7 คนเสียชีวิตในเหตุชุลมุนที่ทางเข้าสนามบิน ขณะที่ใกล้ถึงเส้นตายที่สหรัฐฯขีดเอาไว้ว่าจะถอนทหารอเมริกันออกไปให้หมดภายในวันที่ 31 เดือนนี้
ในวันจันทร์ ที่ปรึกษากฎหมายอาวุโสของผู้นำตอลิบานเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กองกำลังต่างชาติไม่มีการเสนอแผนขยายเส้นตายดังกล่าว หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุก่อนหน้านี้ว่า กองทหารอเมริกันอาจอยู่นานกว่านั้นเพื่อจัดการการอพยพที่ “ยากลำบากและเจ็บปวด”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไบเดนได้แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า สถานการณ์ความปลอดภัยในอัฟกานิสถานเปลี่ยนแปลงเร็วมากและยังคงอันตราย รวมทั้งมีความเสี่ยงจากการโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย ครั้นเมื่อถูกผู้สื่อข่าวว่า จะขยายเส้นตายวันที่ 31 สิงหาคมหรือไม่ ประมุขทำเนียบขาวตอบว่า หวังว่าจะไม่ต้องทำแบบนั้น แต่ขณะนี้กำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจต้องเลื่อนเส้นตายออกไป
ไบเดนเสริมว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศติดต่อพลเมืองอเมริกันทั้งหมดที่ยังตกค้างในอัฟกานิสถาน และรัฐบาลกำลังวางแผนพาพลเมืองทุกคนที่ต้องการกลับอเมริกาไปยังสนามบินคาบูลและอพยพออกจากอัฟกานิสถานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะอพยพชาวตะวันตกและพลเมืองอัฟกันที่มีความเสี่ยงถูกทำร้าย เช่น นักเคลื่อนไหวสตรีและนักข่าวด้วย
ในวันอาทิตย์ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ยังออกคำสั่งให้สายการบินพาณิชย์อเมริกัน 6 แห่ง ช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายผู้อพยพเหล่านั้น ซึ่งเครื่องบินทหารอเมริกันนำมาส่งตามฐานทัพสหรัฐฯ ในอ่าวเปอร์เซียและยุโรป เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม โดยขณะนี้มีกว่า 20 ประเทศใน 4 ภูมิภาคที่ตกลงช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเดินทางออกจากอัฟกานิสถาน
เกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า ตอลิบานข่มขู่และทำร้ายชาวอัฟกันที่ต้องการเข้าไปในสนามบินคาบูลนั้น ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า ส่วนใหญ่แล้วตอลิบานจะปล่อยให้ผู้ถือหนังสือเดินทางของสหรัฐฯ ผ่านเข้าสู่สนามบินอย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ดี เจมส์ เฮปปีย์ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ เผยว่า ระหว่างการประชุมเสมือนจริงของกลุ่มจี7 ในวันอังคาร (24) ลอนดอนจะขอให้อเมริกาขยายเส้นตายการถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานเพื่อจัดการอพยพพลเมืองตะวันตกและผู้ร่วมงานชาวอัฟกันให้เสร็จสิ้นก่อน
ขณะเดียวกัน บรรดาผู้นำตอลิบานที่พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นและเริ่มหารือกับกลุ่มชาวอัฟกันอื่นๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ประกอบด้วยหลายฝ่าย ยังคงเผชิญการต่อต้านจากกองกำลังหลายกลุ่มทางภาคเหนือของอัฟกานิสถาน ซึ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเข้ายึดพื้นที่ 3 เขตบริเวณหุบเขาปัญจชีร์
อาหมัด มาสซูด ผู้นำกลุ่มต่อต้านตอลิบาน ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า หวังว่าจะมีการเจรจาอย่างสันติกับตอลิบาน กระนั้น กองกำลังของตนในปัญจชีร์ ซึ่งประกอบด้วยกองทหารในสังกัดกองทัพแห่งชาติอัฟกัน กองทหารหน่วยรบพิเศษ และกองกำลังอาวุธท้องถิ่น พร้อมต่อสู้เต็มที่
ทางด้านตอลิบานเผยว่า นักรบหลายร้อยคนเข้าล้อมกองกำลังฝ่ายต่อต้านที่หุบเขาปัญจชีร์แล้ว แต่ยืนยันว่า ต้องการเจรจามากกว่าใช้กำลัง
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)