รอยเตอร์/เอพี - นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง และประธานาธิบดีสิงคโปร์ ฮาลิมาห์ ยาค็อบ (Halimah Yacob) เปิดทำเนียบอิสตานาต้อนรับรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส เป็นครั้งแรกในวันจันทร์ (23 ส.ค.) กระชับความสัมพันธ์ชาติพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หาเพื่อนคานอำนาจจีนในภูมิภาค ชี้ไม่เหมือนอัฟกานิสถานแน่นอน ยืนยันหลักการทะเลจีนใต้ต้องเปิดกว้าง
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (23 ส.ค.) ว่า รองประธานาธิบดีหญิงสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส เปิดฉากเยือนเอเชียครั้งแรกในวันจันทร์ (23) ด้วยการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง และประธานาธิบดีสิงคโปร์ ฮาลิมาห์ ยาค็อบ (Halimah Yacob) ที่ทำเนียบอิสตานา โดยมีเป้าหมายการทัวร์เอเชียของเธอในครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับชาติพันธมิตรต่างๆ ภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของอเมริกาต่อต้านการขยายอำนาจทางเศรษฐกิจและความมั่นคงจากจีนภายในภูมิภาค
ระหว่างการเยือนสิงคโปร์วันแรก แฮร์ริสยังได้กล่าวไปถึงสถานการณ์อัฟกานิสถานที่สหรัฐฯ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการถอนทหารออกมาจากอัฟกานิสถานอย่างเร่งด่วน และทำให้ตอลิบานสามารถกลับเข้ามายึดอัฟกานิสถานได้อีกครั้ง โดยเธอชี้ว่า ขณะนี้สหรัฐฯ มีเป้าหมายเดียวไปที่การอพยพออกมาจากอัฟกานิสถานและกล่าวปกป้องจากเสียงวิจารณ์ว่า ยังมีเวลาอีกมากมายที่จะวิเคราะห์เรื่องประเด็นการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน
“จะยังมีเวลาอีกมากมายที่จะทำการวิเคราะห์ไปถึงในสิ่งที่ได้เกิดขึ้นและสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายใต้ขอบเขตการถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน” แฮร์ริส กล่าว
และเสริมต่อว่า “แต่ในเวลานี้เราต้องพุ่งความสนใจไปที่การอพยพพลเมืองสหรัฐฯ พลเมืองอัฟกันที่ทำงานให้เรา และชาวอัฟกันที่ตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงเด็กและผู้หญิงนั้นถือเป็นเป้าความสนใจเดียวของพวกเราในขณะนี้”
เอพีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง กล่าวตอบแฮร์ริสว่า เขาเข้าใจต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ เกี่ยวกับอัฟกานิสถาน ลีได้ชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน รับช่วงต่อสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก และเขาเสริมว่า
“ทางเราเข้าใจต่อเหตุผลของรัฐบาลไบเดนสำหรับการตัดสินใจของเขา”
ลียังตั้งความหวังว่าหลังการถอนกำลังของสหรัฐฯ กลับออกไปแล้วอัฟกานิสถานจะไม่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มก่อการร้ายเหมือนเช่นในอดีต
รอยเตอร์ชี้ว่า แฮร์ริสเดินทางมาที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้หนนี้เพื่อต้องการหว่านล้อมผู้นำสิงคโปร์และเวียดนามต่อการทุ่มเทของวอชิงตันที่มีต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นแข็งแกร่งและเทียบไม่ได้ต่ออัฟกานิสถาน
พบว่าทั้ง 2 ชาติได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในด้านขยายความร่วมมือความมั่นคงไซเบอร์ทางด้านการเงิน การทหาร และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมากต่อภัยความมั่นคงทางไซเบอร์ อ้างอิงจากทำเนียบขาว
ซึ่งในการเดินทางเยือนสิงคโปร์ แฮร์ริสจะเดินทางไปเยือนฐานทัพเรือชางฮีและเรือรบพิฆาตสหรัฐฯ USS ทัลซา (USS Tulsa) ที่ได้ทอดสมออยู่ในสิงคโปร์ที่ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกองกำลังทางเรือของสหรัฐฯ ปรากฏตัวภายในภูมิภาคและมีความสัมพันธ์ทางการค้าต่อกันอย่างลึกซึ้ง
เอพีชี้ว่า แต่ทว่าสิงคโปร์มีความต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับจีนเช่นกันและมีจุดยืนในการวางตัวเป็นกลางระหว่างความตึงเครียดในความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน
ระหว่างการหารือร่วมกับผู้นำสิงคโปร์ แฮร์ริสกล่าวไปถึงปัญหาทะเลจีนใต้ที่สหรัฐฯ ต้องการให้เปิดกว้างและเสรีว่า
“ในวันนี้พวกเรามาที่สิงคโปร์เพื่อตอกย้ำและยืนยันความสัมพันธ์ที่มีอยู่ต่อประเทศแห่งนี้และภูมิภาคแห่งนี้ และเพิ่มพูนวิสัยทัศน์ร่วมของการมีภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรี” รอยเตอร์รายงาน
นอกเหนือจากการตกลงความร่วมมือทางไซเบอร์แล้ว เอพีรายงานว่า สิงคโปร์และสหรัฐฯ ยังตกลงร่วมมือทางด้านการสำรวจอวกาศ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลกเพื่อทำให้การพัฒนาทางโครงสร้างพื้นฐานของพลังงานสะอาดมีมากขึ้นและมีอย่างยั่งยืน และยังตกลงร่วมมือในการติดตามไวรัสสายพันธุ์ใหม่ของโควิด-19 และการวิจัยการรักษาโรคโควิด-19 เป็นต้น