นิวซีแลนด์ออกมายอมรับในวันอาทิตย์ (22 ส.ค.) ว่า ยุทธศาสตร์จัดการกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แบบสุดเข้มชนิด “โควิดต้องเหลือศูนย์” ของตนอาจจะไม่สามารถปฏิบัติได้จริงเสียแล้ว ขณะที่ตัวกลายพันธุ์ “เดลตา” ยังคงระบาดเพิ่มขึ้นอีกในแดนกีวี
คริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบรับมือโควิด-19 ของนิวซีแลนด์รายงานในวันอาทิตย์ว่า พบเคสอีก 21 ราย ในคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อที่ปรากฏให้เห็นในเมืองโอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของแดนกีวีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการยุติภาวะปลอดผู้ป่วยจากการติดต่อภายในประเทศเองที่ดำเนินต่อเนื่องมาได้ 6 เดือน อีกทั้งทำให้รัฐบาลรีบประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ
ฮิปกินส์ แถลงว่า การที่ตัวกลายพันธุ์เดลตา มีความสามารถในการติดต่อได้สูงมาก ทำให้การควบคุมประสบความลำบากกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาตัวอื่นๆ และกำลังทำให้เกิด “คำถามตัวโตๆ” เกี่ยวกับยุทธศาสตร์กำจัดโควิดให้เหลือศูนย์
“ขนาดขอบเขตของการติดเชื้อ และอัตราเร็วที่ไวรัสกลายพันธุ์ตัวนี้แพร่ระบาดออกไป เป็นสิ่งซึ่งแม้กระทั่งเมื่อมีการตระเตรียมเป็นอย่างดีที่สุดในโลก ก็ยังคงทำให้ระบบของเราประสบภาวะตึงตัว” เขากล่าวกับสถานีโทรทัศน์ทีวีเอ็นแซด
นิวซีแลนด์ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในเรื่องการรับมือโควิด-19 จากการที่ประเทศซึ่งมีประชากร 5 ล้านคนแห่งนี้มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสร้ายนี้เพียงแค่ 26 ราย
แกนกลางแห่งยุทธศาสตร์นี้ของแดนกีวีคือ การมุ่งกำจัดไวรัสให้หมดไปจากประชาคม โดยพึ่งพาอาศัยการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวด และสนับสนุนด้วยมาตรการล็อกดาวน์แบบสุดเข้ม ถ้าหากเกิดมีเชื้อหลุดผ่านเข้ามาทำให้มีเคสผู้ป่วย แต่ ฮิปกินส์ บอกว่า เดลตา อาจบังคับให้ต้องขบคิดพิจารณายุทธศาสตร์เช่นนี้กันใหม่
“มันเป็นตัวทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป มันหมายความว่าการตระเตรียมที่มีอยู่ทั้งหมดของเราเริ่มดูมีความถูกต้องเหมาะสมลดน้อยลง และก่อให้เกิดบคำถามตัวโตๆ มากบางประการขึ้นมา เกี่ยวกับอนาคตของแผนการระยะยาวของเรา”
ออสเตรเลีย ที่เป็นเพื่อนบ้านของนิวซีแลนด์ ก็ใช้ยุทธศาสตร์แบบ “โควิดต้องเหลือศูนย์” เหมือนกัน และประสบความหงุดหงิดผิดหวังทำนองเดียวกัน ขณะที่ผู้ติดเชื้อ “เดลตา” ยังคงเพิ่มมากขึ้น
ในนิวซีแลนด์นั้นการระบาดขึ้นมาใหม่รอบนี้ ยังป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันของแดนกีวีน่าจะเชื่องช้าเกินไปแล้ว และก่อให้เกิดเสียงกล่าวหาว่า รัฐบาลประมาทหลังประสบความสำเร็จในการรับมือกับโรคระบาดใหญ่นี้ในตอนแรกๆ
เวลานี้ประชากรนิวซีแลนด์แค่ราว 20% เท่านั้นที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ถือเป็นอัตราส่วนต่ำที่สุดรายหนึ่งในหมู่ประเทศพัฒนาแล้ว
ฮิปกินส์ บอกว่า การกำจัดโควิดไม่ให้เหลือหลอ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการจัดการกับการระบาดของเดลตา ซึ่งยังคงแพร่เชื้อติดต่อออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยเวลานี้มีเคสติดเชื้อแบบแสดงอาการรวม 72 ราย จำนวนนี้ 66 รายอยู่ในโอ๊คแลนด์ และอีก 6 รายอยู่ในเมืองหลวงเวลลิงตัน
โดยที่มีรายงานพบผู้มีผลตรวจเชื้อเป็นบวก ในสถานที่ซึ่งมีผู้คนชุมนุมกันแออัดต่างๆ จำนวนมาก เป็นต้นว่า โรงเรียน โบสถ์ และซูเปอร์มาร์เกต และทีมบุคลากรทางแพทย์กำลังเฝ้าติดตามอาการของพวกผู้ติดต่อสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยจำนวนเกือบๆ 9,000 คน
มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศจะครบกำหนดในคืนวันอังคาร (24) ถึงแม้ฮิปกินส์พูดบ่งชี้ว่า เมืองโอ๊คแลนด์อาจจะเจอคำสั่งเข้มงวดด้านต่างๆ ต่อไป ขณะที่จะมีการยกเลิกในที่อื่นๆ
(ที่มา : เอเอฟพี)