xs
xsm
sm
md
lg

คาดอเมริกาเริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นกลางเดือนหน้า กีวีสั่งล็อกดาวน์ทั่วปท.หลังพบเคสแรกใน6เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อเมริกาเล็งฉีดวัคซีนกระตุ้นอย่างเร็วที่สุดกลางหรือปลายเดือนหน้า ด้านไฟเซอร์ส่งข้อมูลให้เอฟดีเออนุมัติวัคซีนเข็มสาม ยันผลศึกษาชี้เพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือโควิด ส่วนญี่ปุ่นเตรียมต่อเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินและขยายคำสั่งครอบคลุมอีก 7 จังหวัด ขณะที่ผู้นำนิวซีแลนด์สั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศหลังพบเคสใหม่คนแรกในรอบ 6 เดือน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์ (16 ส.ค.) โดยอ้างอิงการเปิดเผยของแหล่งข่าววงในว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนเริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นอย่างเร็วที่สุดในช่วงกลางหรือปลายเดือนหน้า โดยขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ)

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในคณะบริหารลงความเห็นว่า คนส่วนใหญ่ควรฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นหลังจากฉีดครบโดส 8 เดือน

ทางด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า คณะบริหารมีแผนประกาศการตัดสินใจฉีดวัคซีนกระตุ้นอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ โดยมีแนวโน้มฉีดให้ผู้สูงวัยในสถานพักฟื้นคนชราและบุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรก ตามด้วยผู้สูงวัยอื่นๆ

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่แล้ว ผู้คุมกฎของสหรัฐฯ อนุญาตการฉีดวัคซีนไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นาเข็มที่สามให้แก่ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

นิวยอร์กไทมส์เสริมว่า เจ้าหน้าที่ยังคาดว่า ผู้ฉีดวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันที่ต้องฉีดเพียงเข็มเดียว ก็จะต้องฉีดกระตุ้นเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า วันจันทร์ที่ผ่านมา ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคได้ส่งข้อมูลทางคลินิกเบื้องต้นให้แก่หน่วยงานสาธารณสุขสหรัฐฯ อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการขออนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิดเข็มสามกับชาวอเมริกันทุกคน

อัลเบิร์ต บูร์ลา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ไฟเซอร์ แถลงว่า ข้อมูลที่บริษัทได้รับล่าสุดบ่งชี้ว่า วัคซีนเข็มสามจะช่วยกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันสูงกว่าหลังจากฉีดวัคซีนสองเข็มแรกมาก

ด้าน อูกูร์ ซาฮิน ผู้ร่วมก่อตั้งไบโอเอ็นเทค สำทับว่า วัคซีนกระตุ้นช่วยลดโอกาสในการติดโควิดและอัตราการเกิดโรค รวมทั้งควบคุมการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ต่างๆ

ทั้งสองบริษัทยังเตรียมส่งข้อมูลชุดเดียวกันนี้ให้เจ้าหน้าที่ยุโรปพิจารณาอนุมัติในเร็วๆ นี้

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นแม้องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเอาไว้ก่อน โดยควรนำวัคซีนที่มีไปช่วยเหลือชาติยากจนซึ่งจำนวนมากยังมีอัตราผู้ได้ฉีดวัคซีนซึ่งต่ำมากๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการกระจายวัคซีนระหว่างประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจน ทว่าเวลาเดียวกัน อิสราเอลก็กลายเป็นประเทศที่เริ่มฉีดวัคซีนกระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปแล้ว ไม่ใช่แค่ผู้ทำงานด่านหน้าในการรับมือโควิด-19 หรือผู้สูงอายุ ผู้มีร่างกายอ่อนแอ

ส่วนที่ญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ได้รับการคาดหมายว่า จะจัดแถลงข่าวในช่วงคืนวันอังคาร (17) เกี่ยวกับการต่อเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินในโตเกียวและจังหวัดอื่นๆ จากสิ้นเดือนนี้เป็นวันที่ 12 กันยายน รวมทั้งขยายคำสั่งนี้ไปยังอีก 7 จังหวัด หลังจากโควิด-19 ยังคงระบาดหนักทั้งในเมืองหลวงและทั่วประเทศ

วันจันทร์ที่ผ่านมา โตเกียวพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2,962 คน หลังทำสถิติสูงสุด 5,773 คนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (13)

ที่นิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเมื่อวันอังคาร หลังพบผู้ติดเชื้อหนึ่งคนในเมืองโอคแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ และถือเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกในรอบ 6 เดือน

ภายใต้คำสั่งนี้ พื้นที่ทั้งหมดจะถูกล็อกดาวน์ 3 วันตั้งแต่วันพุธ (18) ขณะที่โอคแลนด์และโคโรแมนเดล เมืองชายฝั่งที่ผู้ติดเชื้อเคยเดินทางไป จะล็อกดาวน์ 7 วัน โดยทั้งหมดนี้ใช้กฎล็อกดาวน์ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดคือ ปิดโรงเรียน ห้างร้าน และธุรกิจทั้งหมด ยกเว้นบริการที่จำเป็นเท่านั้น

อาร์เดิร์นแถลงว่า เจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ติดเชื้อที่พบติดไวรัสสายพันธุ์เดลตา และเป็นไปได้ว่า อาจพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น