ไบเดนยันทหารอเมริกันไม่สามารถพลีชีพต่อสู้ไม่รู้จบทั้งที่ทหารและผู้นำอัฟกันยอมแพ้และเผ่นหนี ขณะที่เที่ยวบินทางทหารเพื่ออพยพนักการทูตและพลเรือนออกจากอัฟกานิสถานเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อเช้าวันอังคาร (17 ส.ค.) หลังเคลียร์คนนับพันที่ต้องการหนีออกนอกประเทศออกจากรันเวย์ในสนามบินคาบูล
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของตะวันตกคนหนึ่งเผยว่า จำนวนพลเรือนในสนามบินคาบูลในช่วงเช้าวันอังคารเริ่มบางตา หลังจากเกิดความโกลาหลใหญ่ในวันจันทร์ (16) ซึ่งกองทหารอเมริกันซึ่งทำหน้าที่อารักขาภายในบริวณสนามบิน ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อผลักดันฝูงชนชาวอัฟกันที่รุมล้อมและพยายามปีนป่ายเกาะเครื่องบินขนส่งทางทหารของสหรัฐฯ ที่เตรียมทะยานขึ้น
เที่ยวบินจำนวนมากถูกระงับเมื่อวันจันทร์ หลังจากมีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน ซึ่งยังไม่ทราบชัดเจนว่า ถูกยิงหรือถูกเหยียบตาย ขณะที่สื่อรายงานว่า ชาวอัฟกัน 2 คนเสียชีวิตจากการตกลงจากเครื่องบินทหารภายหลังเครื่องขึ้นจากสนามบิน และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเผยว่า มือปืน 2 คนที่ดูเหมือนกราดยิงใส่ฝูงชนในสนามบินถูกทหารอเมริกันยิงตาย
ท่ามกลางความตื่นตระหนกและความสับสนโกรธเกรี้ยวในคาบูล ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกมาแถลงปกป้องการตัดสินใจถอนทหารอเมริกันออกจากสงคราม 20 ปีในอัฟกานิสถาน ที่ถือเป็นสงครามที่ยาวนานที่สุดที่ทหารอเมริกันเข้าร่วม และสิ้นค่าใช้จ่ายรวมแล้วกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
ไบเดนแถลงในวันจันทร์ว่า เขาต้องตัดสินใจเลือกระหว่างการขอให้กองทหารสหรัฐฯ ต่อสู้ในสงครามกลางเมืองอัฟกานิสถานที่ไม่มีวันจบ หรือทำตามข้อตกลงถอนทหารที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งพรรครีพับลิกันเจรจาไว้
ท่ามกลางเสียงประณามแม้กระทั่งจากนักการทูตอเมริกันเอง ไบเดนแก้ต่างว่า ผู้ที่ต้องรับผิดชอบความพ่ายแพ้ต่อตอลิบานคือ ผู้นำทางการเมืองของอัฟกานิสถานที่ยอมแพ้และเผ่นหนี และสำทับว่า ทหารอเมริกันไม่สามารถต่อสู้และพลีชีพในสงครามโดยที่ทหารอัฟกานิสถานไม่มีใจต่อสู้เพื่อประเทศชาติของตนเอง
ตอลิบานตะลุยบุกยึดเมืองใหญ่แห่งต่างๆ ของอัฟกานิสถานทั่วประเทศได้ในเวลาราว 10 วัน ไม่ใช่หลายเดือนแบบที่ข่าวกรองของสหรัฐฯ คาดไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และในหลายเมืองเหล่านั้น กองกำลังฝ่ายรัฐบาลที่เสียขวัญยอมจำนนต่อตอลิบานอย่างง่ายดาย แม้พวกเขาได้รับการฝึกและติดอาวุธล้ำสมัยจากอเมริกาและอีกหลายชาติก็ตาม
กระทั่ง อัจมาล อาห์มาดี ประธานธนาคารกลางอัฟกานิสถาน ยังกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ที่หนีออกจากอัฟกานิสถานตั้งแต่วันอาทิตย์ (15) ก่อนที่ตอลิบานจะประกาศชัยชนะเหนือคาบูล รวมทั้งเหล่าที่ปรึกษาไร้ประสบการณ์ เป็นต้นเหตุทำให้อัฟกานิสถานพ่ายแพ้
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ไบเดนบอกว่ามีกำหนดให้ทหารอเมริกันทั้งหมดถอนออกจากอัฟกานิสถานให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ภายใต้ข้อตกลงกับตอลิบาน ซึ่งรวมถึงการที่ตอลิบานให้สัญญาว่า จะไม่ปล่อยให้อัฟกานิสถานกลายเป็นฐานการก่อการร้ายระหว่างประเทศ
ทางด้าน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งเปิดประชุมฉุกเฉิน ได้เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ เปิดเจรจากันเพื่อตั้งรัฐบาลใหม่ในอัฟกานิสถาน หลังจากอันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการยูเอ็น เตือนเกี่ยวกับการลิดรอนสิทธิมนุษยชนและการล่วงละเมิดผู้หญิงและเด็ก
ขณะที่ ซูฮาอิล ชาฮีน โฆษกของตอลิบาน ยืนยันผ่านสถานีทีวีปากีสถานว่า ตอลิบานจะเคารพสิทธิสตรีและชนกลุ่มน้อยตามบรรทัดฐานอัฟกันและค่านิยมอิสลาม พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนกลับเข้าทำงานตามปกติ และให้สัญญาว่า รัฐบาลใหม่จะร่วมมือกับนานาชาติเพื่อฟื้นฟูอัฟกานิสถาน
ในวันอังคาร ตอลิบานยังออกแถลงการณ์ “นิรโทษกรรมทั่วไป” ระบุให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลับไปปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ต้องหวาดกลัว
ขณะเดียวกัน ร้านค้าบางแห่งในคาบูลเริ่มเปิดกิจการอีกครั้ง ตำรวจจราจรควบคุมการสัญจรบนถนน และตอลิบานเตรียมการประชุมทางการทูตนัดแรกกับเอกอัครราชทูตรัสเซีย นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตอลิบานคนหนึ่งยังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหญิงของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)