รัฐบาลสิงคโปร์แถลงวันนี้ (11 ส.ค.) ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวดีเกินคาดในช่วงไตรมาส 2 และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ว่าจะเติบโตระหว่าง 6-7% โดยมีปัจจัยหนุนจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ ทั้งในสิงคโปร์และตลาดสำคัญอื่นๆ
กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยว่า จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัว 14.7% เมื่อเทียบปีต่อปี สูงกว่าตัวเลข 14.3% ที่รัฐบาลคาดการณ์เอาไว้ และมากกว่าตัวเลข 14.2% ที่นักวิเคราะห์คาดหมาย ทว่ายังคงต่ำกว่าจีดีพีไตรมาส 2/2019 หรือช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ประมาณ 0.6%
รัฐบาลยังได้ปรับคาดการณ์จีดีพีตลอดทั้งปีว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 6-7% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เพียง 4-6%
แกเบรียล ลิม ปลัดกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์ ระบุว่า “เศรษฐกิจสิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างสู่ภายนอก (outward-oriented sectors)”
ลิม ชี้ว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมพรมแดนจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่อิงกับผู้บริโภคโดยตรง (consumer-facing sectors) และลดปัญหาขาดแคลนคนทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องพึ่งแรงงานต่างด้าว
อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวยังคงฟื้นตัวช้ากว่าที่ประเมินไว้ โดยคาดว่ากิจกรรมจะยังคงต่ำกว่าระดับก่อนมีโควิด-19 ไปจนถึงสิ้นปีนี้
กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์ระบุด้วยว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา แต่อัตราการฉีดวัคซีนก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งช่วยให้ประเทศเหล่านี้สามารถเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจได้
แม้จะยังคงมาตรการจำกัดทางสังคมบางส่วนไว้ แต่รัฐบาลสิงคโปร์ได้เริ่มวางยุทธศาสตร์ที่จะทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว โดยจะเน้นไปที่การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรมากที่สุด
สถานการณ์โควิด-19 ในสิงคโปร์ยังถือว่าเบากว่าหลายๆ ประเทศ โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 65,000 คนเศษ และเสียชีวิต 45 คน
ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี