เอพี/รอยเตอร์ - จังหวัดนางาซากิวันนี้ (9 ส.ค.) ทำพิธีรำลึกครบรอบ 76 ปีที่ถูกสหรัฐฯ ใช้ระเบิดนิวเคลียร์โจมตีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมพ่อเมืองวอนขอให้ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และรัสเซีย พยายามมากขึ้นเพื่อกำจัดระเบิดนิวเคลียร์ ด้านนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซูงะ มีคะแนนนิยมต่ำกว่า 30% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เป็นสัญญาณถึงความล้มเหลวว่าซูงะใช้กีฬาโตเกียวโอลิมปิกฉุดเรตติ้งไม่ขึ้น
เอพีรายงานวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า นายกเทศมนตรีจังหวัดนางาซากิ โทมิฮิซะ ทาอูเอะ (Tomihisa Taue) กล่าวผ่านแถลงการณ์รำลึกครบรอบ 76 ปีที่จังหวัดนางาซากิถูกสหรัฐฯ ใช้ระเบิดนิวเคลียร์โจมตีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียกร้องให้รัฐบาลโตเกียวเป็นผู้นำในการสร้างโซนปราศจากนิวเคลียร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเอเชียมากกว่าที่จะอยู่ภายใต้ร่มเงานิวเคลียร์สหรัฐฯ ที่เป็นการอ้างอิงไปถึงคำมั่นสัญญาสหรัฐฯ ที่ให้คำมั่นสัญญาในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องพันธมิตร
ทาอูเอะได้ชี้ไปที่สหรัฐฯ และรัสเซียที่มีคลังอาวุธนิวเคลียร์สูงสุดให้ทำงานมากกว่านี้เพื่อทำให้เกิดการปลดอาวุธนิวเคลียร์มากกว่าต้องอยู่ภายใต้ร่มเงานิวเคลียร์เหมือนที่เป็นอยู่เพื่อนำไปสู่หนทางที่โลกจะปลอดอาวุธนิวเคลียร์อย่างแท้จริงได้ในที่สุด
เมื่อเวลา 11.02 น. ของวันนี้ (9) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เครื่องบินทิ้งระเบิด B-29 ได้หย่อนระเบิดพลูโตเนียม 1 ลูกลงมา ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ปี 1945 ในจังหวัดและผู้เข้าร่วมงานรำลึกได้ยืนเพื่อสงบนิ่งไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจำนวนไม่ต่ำกว่า 70,000 คน
การโจมตีจังหวัดนางาซากิเกิดขึ้น 3 วันหลังสหรัฐฯ ได้ใช้ระเบิดนิวเคลียร์โจมตีจังหวัดฮิโรชิมา และทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 140,000 คน ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามในวันที่ 15 ส.ค. ปีเดียวกันทำให้สงครามโลกสิ้นสุด
นายกเทศมนตรีนางาซากิ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลโตเกียวและบรรดา ส.ส.รีบลงนามในสนธิสัญญาการประกาศห้ามใช้อาวุธนิวเคลียร์ปี 2017 ที่มีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม
ด้านนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซูงะ กล่าวว่า สภาพแวดล้อมทางความมั่นคงนั้นร้ายแรงและมุมมองระดับโลกนั้นถูกแบ่งแยกอย่างหนักในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และมีความจำเป็นที่ต้องขจัดความไม่เชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนให้มีการเจรจาหารือบนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วม
ทาอูเอะ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลโตเกียวเพิ่มมาตรการทำให้เกิดความรวดเร็วมากขึ้นต่อการสนับสนุนทางสวัสดิการสังคมและการรักษาพยาบาลต่อเหยื่อผู้รอดชีวิตระเบิดนิวเคลียร์ในจังหวัดนางาซากิ หรือที่รู้จักในนาม “ฮิบากุชะ” (Hibakusha) ซึ่งมีอายุเฉลี่ยสูงกว่า 83 ปี
ขณะเดียวกัน สำหรับตัวซูงะ เองรอยเตอร์ชี้ว่า ดูเหมือนจะมีข่าวไม่สู้ดีเนื่องมาจากผลการสำรวจความนิยมในตัวเขาที่เปิดเผยในวันจันทร์ (9) พบว่าความนิยมในตัวเขาลดลงต่ำกว่า 30% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่ง รอยเตอร์ชี้
พบว่า 1 ใน 3 แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการที่ญี่ปุ่นตัดสินใจเดินหน้าจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก 2020 ที่เพิ่งมีพิธีปิดลงไปในวันอาทิตย์ (8) และอีก 60% แสดงความคิดเห็นว่าไม่ต้องการเห็นซูงะทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นต่อไป
รอยเตอร์รายงานว่า หนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนเป็นผู้สำรวจความนิยมครั้งนี้ การที่ความนิยมของซูงะต่ำลงเป็นสัญญาณที่ชี้ว่าแผนการจัดการแข่งกีฬาโอลิมปิกเพื่อเป็นตัวกระตุ้นความนิยมในตัวเขาให้เพิ่มมากขึ้นไม่ประสบความสำเร็จ
โพลถูกจัดทำขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์และพบว่าความนิยมในตัวผู้นำญี่ปุ่นอยู่ที่ 28% เท่านั้น ถือว่าต่ำสุดตั้งแต่กันยายนปีที่แล้วที่เขาเข้ารับตำแหน่งในฐานะผู้นำญี่ปุ่น
ทั้งนี้ จากจำนวนทั้งหมดที่เข้าร่วมแบบสอบถามพบว่ามีจำนวน 56% กล่าวว่าถือเป็นสิ่งที่ดีที่ญี่ปุ่นจัดการแข่งกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020 ส่วนอีก 32% คิดว่าเป็นสิ่งเลวร้าย
การที่ญี่ปุ่นแจกวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนล่าช้ากระทบอย่างหนักต่อความนิยมที่มีต่อตัวซูงะ และนอกจากนี้ เคสพุ่งสูงขึ้นเนื่องมาจากไวรัสเดลตายังกลบข่าวการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ทั้งซูงะ และผู้จัดการแข่งขันโอลิมปิกต่างออกมายืนยันว่าไม่มีความเชื่อมโยง