เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ชาวอินเดียเสียชีวิตเพิ่ม 11 รายทางภาคตะวันออกของอินเดียหลังฝนตกหนัก และได้พัดพาบ้านคนเหล่านี้หายไปและทำให้เกิดดินถล่ม ส่งผลทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากพายุมรสุมไม่ต่ำกว่า 230 คนวันเสาร์ (31 ก.ค.) ขณะที่บังกลาเทศเกิดน้ำท่วมฉับพลันทำให้มีผู้อพยพโรฮิงญาเสียชีวิต 6 ราย และอีกกว่า 200,000 คนติดกลางน้ำท่วมที่เขตค็อกซ์บาซาร์
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) ว่า ฝนมรสุมที่ตกลงมาทั่วอินเดียในเวลานี้และได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้แก่รัฐเบงกอลตะวันตก
และมี 4 คนถูกไฟฟ้าช็อตหลังฝนได้เทใส่บ้านของคนเหล่านี้ที่เขตหาวฑา (Howrah) และเขตนอร์ท 24 ปาร์กานาส (North 24 Parganas district) จาวาด ข่าน (Javed Khan) รัฐมนตรีกระทรวงบริหารภัยพิบัตประจำรัฐเบงกอลตะวันตกกล่าวให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
และเสริมอีกว่า นอกเหนือจากนี้มีประชาชนอีก 7 คนเสียชีวิตเกิดขึ้นหลังจากบ้านของคนเหล่านี้ถูกน้ำพัดพาไปหลังเกิดฝนตกหนักและมีอีกไม่กี่คนสูญหาย
ส่วนรัฐฌารขัณฑ์ (Jharkhand) ที่อยู่ติดกันพบรถจำนวนมากยังคงจมอยู่ใต้น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นหลังฝนตกอย่างหนักนาน 5 วันติดต่อกัน
ผู้เชี่ยวชาญต่างชี้ไปที่ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศส่งผลทำให้พายุมรสุมประจำปีช่วงระหว่างมิถุนายนไปจนถึงกันยายนนั้นเกิดถี่ขึ้นและหนักมากขึ้น
ขณะที่รัฐมหาราษฏระได้รับผลกระทบจากพายุฝนที่เลวร้ายซึ่งทำให้เกิดดินถล่ม ส่งให้คลื่นกองโคลนเข้าไปยังหมู่บ้านต่างๆ และมีจำนวนผู้เสียชีวิตร่วม 200 คนเป็นอย่างน้อย
และที่รัฐหิมาจัลประเทศ และรัฐอุตตราขัณฑ์ถูกพายุเล่นงานอย่างหนักเช่นกัน ดินถล่มในรัฐหิมาจัลประเทศ ทำให้มีคนเสียชีวิต 7 คนสัปดาห์นี้ และอีก 7 คนเสียชีวิตจากพายุฝนที่หมู่บ้านที่ห่างไกลในเขตแคชเมียร์ของอินเดีย
พบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่กี่คนยังคงติดค้างภายในรัฐทั้งสองหลังถนนสายหลักถูกตัดขาด เอเอฟพีรายงาน
พายุฝนมรสุมยังทำให้เกิดถนนยุบตัวกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่กรุงนิวเดลีเมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) ส่งผลทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเนื่องมาจากรถไม่สามารถสัญจรได้
หลุมขนาดยักษ์เกิดขึ้นที่ย่านดวาร์กา (Dwarka) เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ (31 ก.ค.) และเป็นที่โชคร้ายที่มีรถคันหนึ่งเกิดตกลงไปในหลุมยักษ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดการจราจรและแนะนำให้ผู้ใช้รถเปลี่ยนไปใช้ถนนเส้นอื่นแทนชั่วคราว
พายุมรสุมยังตรงเข้าเล่นงานค่ายผู้ลี้ภัยโรงฮิงญาในบังกลาเทศ รอยเตอร์รายงานในวันศุกร์ (30 ก.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่สหประชาชาติและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ได้ยืนยันว่า เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มที่ค่ายผู้ลี้ภัยค็อกซ์ บาซาร์ (Cox's Bazar) ส่งผลทำให้มีจำนวน 200,000 คนที่เขตค็อกซ์ บาซาร์ติดอยู่ในน้ำท่วม เจ้าหน้าที่เขตค็อกซ์บาซาร์ มามูนูร์ ราชิด (Mamunur Rashid) ให้ข้อมูล
นอกจากนี้ พบว่าชาวโรฮิงญาไม่ต่ำกว่า 6 คนรวมเด็ก 3 คนเสียชีวิต พายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังทำให้ชาวบังกลาเทศ 15 คนเสียชีวิต
สำนักงานผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ UNHCR ออกมายืนยันว่า มีผู้ลี้ภัยโรฮิงญาจำนวนกว่า 21,000 คนได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และที่พักผู้ลี้ภัยกว่า 4,000 แห่งถูกทำลายหรือได้รับความเสียหาย ซึ่งที่พักเหล่านี้ส่วนใหญ่มักสร้างมาอย่างเรียบง่ายด้วยไม้ไผ่และแผ่นพลาสติก ภาพที่เผยแพร่ออกไปเห็นเด็กชาวโรฮิงญากำลังเล่นอยู่ในน้ำท่วมสูงระดับอก
UNHCR ยังชี้ว่า สถานการณ์ทำให้ต้องเคลื่อนย้านผู้ลี้ภัยไม่ต่ำกว่า 13,000 คนไปหาที่อยู่ใหม่ภายในค่ายค็อกซ์บาซาร์ และจุดให้บริการต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมไปถึง คลินิกและห้องน้ำได้รับความเสียหาย การเข้ามายังค่ายลี้ภัยไม่สามารถกระทำได้เนื่องมาจากทั้งถนน สะพาน และฟุตปาธเสียหาย