อุรกวัยจะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ เป็นเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชนที่ฉีดวัคซีนทีมีประสิทธิภาพน้อยกว่าของซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว ราว 2 สัปดาห์หลังจากประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์เดลตา
90 วันหลังจากฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 ประชาชนในอุรุกวัยสามารถเข้าฉีดวัคซีนชนิด mRNA ของไฟเซอร์ จากการเปิดเผยของ กราเซียลา เปเรซ หัวหน้าฝ่ายภูมิคุ้มกันของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมระบุว่ารัฐบาลจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แก่ประชาชนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านทานตัวกลายพันธุ์ต่างๆ ของโควิด-19 ในนั้นรวมถึงเดลตา และโครงการดังกล่าวในเดือนสิงหาคม
"การฉีดวัคซีนจะไม่ใช่การบังคับ" เธอบอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงมอนเตวิเดโอ และบอกว่า อุรุกวัยสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์มากพอสำหรับฉีดแก่ประชาชนเกือบ 1.5 ล้านคนที่เข้าเกณฑ์ฉีดเข็มกระตุ้น
อุรุกวัยกลายเป็นชาติล่าสุดในหลายประเทศ ในนั้นรวมถึงสาธารณรัฐโดมินิกัน ไทย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีแผนฉีดวัคซีน mRNA ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในคนฉีดวัคซีนสัญชาติจีน ด้วยความหวังว่ามันจะมอบประสิทธิภาพการป้องกันที่ดีขึ้นต่อตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก
ทั้งนี้ อุรุกวัย ซึ่งมีประชากรราว 3.5 ล้านคน ฉีดวัคซีนประชาชนไปแล้วมากกว่า 61% โดยใช้วัคซีนของทั้งซิโนแวค ไฟเซอร์ และแอสตร้าเซนเนก้า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม วัคซีนซิโนแวค คิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของประชาชนมากกว่า 5.9 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนแล้วในอุรุกวัย
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)