xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าชายแฮร์รีในอาชีพนักเขียน : การงานใหม่ที่ส่อเป็นบอมบ์เฟส 2 ราชวงศ์อังกฤษหวั่นจะ “แชร์” อะไรเพิ่มอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าชายแฮร์รี พระโอรสองค์น้องของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ ทรงอยู่ในลำดับหัวแถวของบรรดาราชนิกุลที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก เพราะนอกจากจะมีพระรูปพระโฉมน่ามอง ยังทรงมีจริยวัตรสนุกสนาน มีน้ำใจช่วยเหลือประชาชนที่ด้อยโอกาส  อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เสกสมรสกับพระชายาเมแกน มาร์เคิล แล้ว เจ้าชายแฮร์รีปรากฏเป็นข่าวระหองระแหงบ่อยครั้งกับสมาชิกในราชตระกูล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวกระฉ่อนในเรื่องการตัดสินพระทัยโยกย้ายออกจากอังกฤษ ไปตั้งหลักปักฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามด้วยเทปบันทึกการประทานสัมภาษณ์แก่รายการโอปราห์ วินฟรีย์ โชว์ ซึ่งมีการแชร์ประสบการณ์ไม่ราบรื่นกับราชตระกูลวินเซอร์ให้สาธารณชนได้ทราบกันทั่วโลก สื่อมวลชนขนานนามบทสัมภาษณ์ดังกล่าวว่าเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่สร้างความเสียหายแก่สถาบันกษัตริย์อังกฤษ
ปฏิกิริยาดั่งระเบิดเปรี้ยงปร้างปรากฏขึ้นในทั่วทุกทวีป เมื่อเจ้าชายแฮร์รี พระโอรสองค์น้องของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ ประกาศว่าทรงอยู่ระหว่างสร้างผลงานประพันธ์ ซึ่งเอพีพร้อมสำนักข่าวอื่นๆ และบรรดาสื่อมวลชนใหญ่น้อยทั่วโลกรายงานว่าสำนักพิมพ์เพนกวิน แรนดอม เฮาส์ ที่ดีลอยู่กับเจ้าชายแฮร์รี เรียกงานประพันธ์นี้ว่า บันทึกความทรงจำที่เปิดชีวิตส่วนพระองค์อย่างลึกซึ้งและจับใจ แต่สาธารณชนตั้งตาคอยว่าจะมีการแชร์ประสบการณ์ที่จะแฉความลับอะไรใหม่ๆ อีกบ้างเกี่ยวกับพระญาติพระวงศ์แห่งราชตระกูลอังกฤษ

“ขณะที่คุณคิดว่าคงจะไม่มีดรามาราชวงศ์มุขใหม่ๆ ผุดขึ้นมาอีก เจ้าชายแฮร์รีได้ออกมาประกาศให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวทางอาชีพการงานรายการใหม่ของพระองค์ และข่าวนี้ถูกอัดโครมว่าเป็น ‘เรื่องตลก’ ” เดอะ เฮอรัลด์ ซัน หนังสือพิมพ์จอมป๋อปปูลาร์แห่งแดนจิงโจ้ ของค่ายนิวส์ คอร์ป ออสเตรเลีย เครือสื่อมวลชนใหญ่ยักษ์โลก นำเสนออย่างนั้น

พร้อมนี้ เดอะ เฮอรัลด์ ซัน รายงานว่า เพียร์ส มอร์แกน (หนึ่งในน้กวิจารณ์คนดังที่ประชาชนทั่วเกาะอังกฤษรู้จัก-รู้เบอร์ปากกันดี ที่หมั่นวิพากษ์ราชวงศ์อย่างถึงพริกถึงขิง) ได้ขนานนามโครงการเขียนหนังสือความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งจะวางแผงปลายปี 2022 ว่าเป็น “เรื่องตลกที่ ย.ม.” (f***ing joke) หรือก็คือเรื่องตลกที่แย่มากนั่นเอง

ทั้งนี้ เพียร์ส มอร์แกนเขียนทวิตด้วยว่าเจ้าชายแฮร์รีพร้อมจะเขียนหนังสือเล่าเรื่องราวของพระองค์แล้วหรือ เจ้าชายผู้หวงแหนความเป็นส่วนตัว (Prince Privacy) ไม่เคยหยุดเจื้อยแจ้วเลย ไม่เคยหยุดครวญคราง อีกทั้งไม่เคยหยุดโจมตีครอบครัวของพระองค์มาตลอดทั้งปี

เพียร์ส มอร์แกน น้กวิจารณ์คนดังที่ประชาชนทั่วเกาะอังกฤษรู้จัก-รู้เบอร์ปากกันดี เขียนทวิตวิพากษ์เย้ยหยันเจ้าชายแฮร์รี ว่าหวงแหนความเป็นส่วนตัว (Prince Privacy) อย่างมากมาย แต่ก็ไม่เคยหยุดออกสื่อพูดเจื้อยแจ้วเลย ไม่เคยหยุดครวญคราง อีกทั้งไม่เคยหยุดโจมตีครอบครัวของพระองค์มาตลอดทั้งปี
ผมเขียนเรื่องนี้มิใช่ในสถานะเจ้าชายที่ผมเกิดมา

“ผมเขียนเรื่องนี้มิใช่ในสถานะเจ้าชายที่ผมเกิดมา แต่ผมเขียนในสถานะที่ผมได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นตัวผมในปัจจุบัน” ดยุกแห่งซัสเซกซ์ ณ วัย 36 กะรัต เขียนในคำแถลงลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2021

“ผมสวมหมวกมาแล้วมากมายในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในตำแหน่งแท้จริงและในทางอุปมา และความหวังของผมมีอยู่ว่าในการเล่าเรื่องราวของผม - ทั้งในช่วงที่สูงส่งและตกต่ำ ทั้งในความผิดพลาด และทั้งในด้านบทเรียนที่ได้รับ - ผมจะสามารถแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าเรานั้นมาจากที่ใด เรามีสิ่งที่ร่วมกันมากมายกว่าที่เราคิด ผมรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งที่มีโอกาสจะแชร์สิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาตลอดช่วงชีวิต และผมตื่นเต้นที่ผู้คนจะมาอ่านเรื่องราวแห่งชีวิตผมที่ผมเล่าด้วยตนเอง ซึ่งถูกต้องและล้วนเป็นความจริง”

เจ้าชายแฮร์รีจะแชร์ความทรงจำเศร้าสร้อยเกี่ยวกับพระมารดาไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทั้งนี้ ในตอนหนึ่งของการประทานสัมภาษณ์แก่รายการโอปราห์ วินฟรีย โชว์ เจ้าชายแฮร์รีเล่าถึงชีวิตทุกข์ตรมจากการสูญเสียพระมารดา พร้อมกับเปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ผู้เป็นพระบิดาย่ำแย่หนัก และมีเรื่องปวดหัวใจมากมากเกิดขึ้น  ในภาพนี้ ด้านซ้ายเป็นภาพถ่ายของไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งบันทึกภาพโดยจอห์น แมทธิว และเว็บไซต์เซเลบริตี โฟโต ดอทคอม และมีการนำขึ้นเผยแพร่บนเว็บไซต์วิกิพีเดีย ส่วนภาพด้านขวาเป็นภาพไดอาน่าพร้อมเจ้าชายแฮร์รี เมื่อปี 1995
คำแถลงฉบับนี้ออกมาในห้วงเวลาที่ความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างเจ้าชายแฮร์รีและราชตระกูลอังกฤษยังไม่คลี่คลาย โดยเมื่อ 4 เดือนก่อนหน้าคำแถลงนี้ เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ประทานสัมภาษณ์พิเศษแก่ โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรคนดังแห่งรายการโทรทัศน์ โอปราห์ วินฟรีย์ โชว์ ในสังกัดสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส และกลายเป็นระเบิดลูกโตที่สร้างวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษให้แก่ราชตระกูลอังกฤษ

เทปสัมภาษณ์ความยาว 2 ชั่วโมงดังกล่าว ออกอากาศเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก โดยสหรัฐอเมริกามีผู้รับชมมากกว่า 17 ล้านคน และในอังกฤษอีกกว่า 11 ล้านคน เพราะมีการแชร์ให้ท่านผู้ชมทราบถึงประสบการณ์ความอึดอัดคับข้องใจนานัปการที่ทั้งสองเผชิญขณะใช้ชีวิตอยู่ในราชตระกูลอังกฤษ เช่น

ประเด็นพระชายาเมแกนถูกรังแก และประเด็นเหยียดผิว ซึ่งทั้งสองเล่าว่า มีสมาชิกราชวงศ์ระดับอาวุโสเอ่ยถึงสีผิวของบุตรในครรภ์เมแกน เพราะคุณแม่ของเมแกนเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ไปถึงประเด็นความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างเจ้าชายแฮร์รีกับพระบิดา ตลอดจนสาเหตุที่ทั้งสองขอยุติบทบาทในฐานะพระราชวงศ์ชั้นสูงและการตัดสินใจที่ฮือฮาขั้นสุด คือ การตัดสินใจวอล์กเอาท์และย้ายไปตั้งหลักปักฐานในสหรัฐฯ

ในครั้งนั้น เจ้าชายแฮร์รีทรงแชร์ให้ชาวโลกได้ทราบว่าในเวลาที่พระมารดา คือ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หย่าขาดกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และต่อมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์นั้น ความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ย่ำแย่ โดยมีเรื่องปวดหัวใจมากมายเกิดขึ้น

ในการประทานสัมภาษณ์แก่รายการโอปราห์ วินฟรีย์ โชว์ เมื่อเดือนมีนาคม ปีนี้ เจ้าชายแฮร์รีเปิดเผยแบบหมดเปลือกถึงความสัมพันธ์ร้าวฉานที่มีกับพระบิดาชาร์ลส์และพระเชษฐาวิลเลียม
“เดลีเมล์” เรียกหนังสือบันทึกความทรงจำแห่ง Megxit

ขณะที่หนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รียังไม่มีการตั้งชื่อ เพนกวิน แรนดอมเฮาส์ เผยโครงเรื่องว่าจะครอบคลุมช่วงชีวิตตั้งแต่วัยเด็กมาจนถึงปัจจุบัน และความสุขที่ได้สัมผัสในการเป็นสามีและพ่อ ซึ่งก็คือช่วงที่แต่งงานและมีความไม่ราบรื่นกับราชตระกูล จนถึงช่วงที่เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาเมแกนประกาศโยกย้ายครอบครัวออกจากประเทศอังกฤษ เพื่อไปตั้งปักหลักอยู่ในสหรัฐฯ นั้น หนังสือพิมพ์เดลีเมล์ สื่อมวลชนที่โด่งดังและมียอดขายติดระดับสูงสุดของอังกฤษได้ขนานนามหนังสือเล่มนี้ว่า บันทึกความทรงจำแห่ง Megxit พร้อมกับรายงานความเห็นจากผู้สันทัดกรณีว่า หนังสือบันทึกความทรงจำเล่มนี้เป็น...

“หนังสือโดยแฮร์รี เขียนโดยเมแกน”

คำว่า Megxit เป็นชื่อเรียกเหตุการณ์ที่เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาเมแกนประกาศวอล์กเอาต์จากประเทศอังกฤษนั่นเอง โดยสร้างคำขึ้นจากชื่อของพระชายา Megan บวกกับคำว่า Exit ในลักษณะเดียวกับการสร้างคำว่า Brexit ที่ประเทศอังกฤษ Britain ตัดสินใจถอนตัวจากสหภาพยุโรป

เพียร์ส มอร์แกน นักวิจารณ์คนดังที่ประชาชนทั่วเกาะอังกฤษรู้จัก-รู้เบอร์ปากกันดี นำภาพจากคลิปวิดีโอบทสัมภาษณ์ที่เจ้าชายแฮร์รีประทานแก่รายการโอปราห์ วินฟรีย์ โชว์ มาประกอบการทวิตว่า เจ้าชายแฮร์รีได้เปลี่ยนคำขวัญของควีนเอลิซาเบธซึ่งทรงสอนว่า “อย่าบ่น อย่าแก้ตัว” มาเป็น “บ่นเสมอ แก้ตัวเสมอ อย่าหยุดครวญคราง”  มาถึงตอนนี้ ควีนต้องเปลี่ยนเจ้าชายจอมพิษและเจ้าหญิงพิน็อกคิโอ (Prince Poison and Princess Pinocchio) ให้เป็นบุคคลธรรมดา นายและนางคนหลอกลวง (Mr.and Mrs.Grifter)
พร้อมนี้ เดลีเมล์ให้ข้อมูลว่า

- เจ้าชายแฮร์รีซุ่มผลิตต้นฉบับหนังสือเล่มนี้มานานเกือบปีแล้ว และได้ขายลิขสิทธิ์การจัดพิมพ์และจัดจำหน่ายทั่วโลกให้แก่เพนกวิน แรนดอม เฮาส์

- เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ประหลาดใจกับข่าวการประกาศโครงการหนังสือของพระโอรส แหล่งข่าวของเดลีเมล์ให้ข้อมูลอย่างนั้น ทั้งนี้เป็นเพราะมิเคยระแคะระคายเลยว่าพระโอรสกำลังเขียนบันทึกความทรงจำชีวิตส่วนพระองค์ซึ่งเกี่ยวพันอยู่ในราชตระกูลมาโดยตลอด

- เจ้าชายร่วมผลิตต้นฉบับด้วยกันกับนักเขียนมือทองระดับรางวัลพูลิตเซอร์ คือ เจ.อาร์. โมริงเกอร์

- ต้นฉบับร่างแรก ซึ่งยังไม่กำหนดชื่อเรื่อง เดินหน้ามามากมายแล้ว โดยคาดว่าจะเสร็จภายในเดือนตุลาคม

- สนนราคาค่าลิขสิทธิ์ยังไม่ถูกเปิดเผย โดยสำนักพิมพ์บอกว่าเจ้าชายแฮร์รีจะบริจาคกำไรให้แก่การกุศล

- กระนั้นก็ตาม แหล่งข่าวของเดลีเมล์ดอทคอมบอกว่า มีการมอบมัดจำแล้วเป็นเรือน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หนึ่งในบรรดาค่าลิขสิทธิ์สูงสุดตลอดกาล

- คนวงในของราชวงศ์อังกฤษกล่าวว่า “หนังสือโดยแฮร์รี เขียนโดยเมแกน”

เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนในช่วงคบหาดูใจกัน โดยในขณะนั้น เมแกนป็นนักแสดงดาวเด่นของฮอลลีวูด  ในช่วงดังกล่าวผู้ติดตามข่าวราชวงศ์จะไม่คาดคิดกันเลยว่าเมแกนจะมีอิทธิพลต่อเจ้าชายแฮร์รีอย่างมากมาย และจะดึงเจ้าชายแฮร์รีให้ก้าวออกจากราชสำนักภายในเวลาไม่นานหลักจากที่แต่งงานไปในเดือนพฤษภาคม 2018
นักวิจารณ์ตีความถึงแรงจูงใจของเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งอาจเป็นเฟส 2 ของการเปิดข้อมูลลับของราชตระกูล

เจ้าชายแฮร์รีทรงมีทรัพย์สินร่ำรวยอยู่แล้ว อีกทั้งยังได้พูดถึงเรื่อง Megxit ไปแล้วอย่างยืดยาว พระองค์ประสงค์สิ่งใดกันแน่ในการที่จะออกหนังสือเจาะลึก เดลีเมล์บอกว่าบรรดานักวิจารณ์ราชวงศ์ตั้งกระทู้อย่างนั้น

เจ้าชายแฮร์รีพยายามจะไล่ผีร้ายด้วยหนังสือ เดลีเมล์บอกว่า ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญระดับกูรูในด้านราชวงศ์อังกฤษ อธิบายไว้อย่างนั้น โดยบอกว่าแฮร์รีมักจะใช้การปรากฏตัวออกสื่อเป็นรูปแบบในการบำบัด

ฟิตซ์วิลเลียมส์ชี้ว่า เรื่องที่เจ้าชายแฮร์รีเขียนอยู่นั้นน่าจะส่งผลกระทบเปรี้ยงปร้าง และจะมีคนอ่านกันทั่วโลก ซึ่งนี่เป็นอะไรที่ราชวงศ์อังกฤษคงจะตระหนักอยู่

ปัญหาของเจ้านายแห่งซัสเซกส์อยู่ตรงที่ว่าทั้งสองหมั่นออกสื่อมาโดยตลอด เจ้าชายแฮร์รีมักจะได้เป็นข่าวพาดหัวตัวโตในสื่อเจ้าดังทั้งปวง เช่น รายการของโอปราห์ เจมส์ คอร์เดน เซเลบริตี พอดแคส แอปเปิลทีวี และเจ้าชายแฮร์รีมองว่าการปรากฏในสื่อเหล่านี้เป็นวิธีหนึ่งในการบำบัด

เจ้าชายแฮร์รีชี้ชวนให้อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ดูการแข่งขันบาสเกตบอลของนักกีฬาบนเก้าอี้รถเข็น ในมหกรรมกีฬาอินวิคทัส เกมส์ ในกรุงโทรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อ 29 กันยายน 2017  ทั้งสองมีความสนิทสนมใกล้ชิดกันตั้งแต่ที่โอบามายังอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี
แต่จะอย่างไรก็ตาม หนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รีจะเป็นแต้มต่อที่สำคัญหากทั้งสองมีความประสงค์สิ่งใดจากราชตระกูล กูรูฟิตซ์วิลเลียมส์ชี้ประเด็นไว้ พร้อมกับบอกว่าเจ้าชายแฮร์รีกำลังขับไล่ผีร้ายออกจากพระองค์ และทรงไม่ได้มองเลยว่ามันมีผลกระทบไปสร้างปัญหา

“พระองค์ยังคงอยู่ในอันดับที่ 6 ของโปเจียมแห่งการสืบราชบัลลังก์อังกฤษและดินแดนในเครือจักรภพอังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ที่สำคัญแม้จะไม่ได้ทรงงานราชกิจแล้ว พระองค์ต้องการให้ผู้คนเข้าใจว่าทรงกลายมาเป็นคนใหม่ได้อย่างไร” ฟิตซ์วิลเลียมส์กล่าวกับเดลีเมล์ พร้อมกับตั้งกระทู้ว่า หนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รีจะเป็นการให้ข้อมูลข้างเดียวมากมายเพียงใด

“มันจะเป็นความจริงของพระองค์ หรือเป็นความจริงตามเนื้อผ้า ยิ่งกว่านั้นความจริงของพระองค์ กับความจริงตามเนื้อผ้า จะตรงกันหรือต่างกันเพียงใด” ฟิตซ์วิลเลียมส์ตั้งกระทู้ที่สอดคล้องกับความคิดของใครต่อใครมากมาย

“มากมายหลายสิ่งในคำให้สัมภาษณ์ในรายการโอปราห์ ไม่ได้ผ่านการตรวจเช็กความถูกต้องของข้อมูล และมันไม่ง่ายสำหรับโลกภายนอกที่จะแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนที่จริง นี่เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างยิ่ง” ฟิตซ์วิลเลียมส์กล่าวด้วยความสุขุมรอบคอบ

เว็บข่าวเพจซิกส์ ซึ่งอยู่ในเครือสื่อมวลชนค่ายนิวยอร์กโพสต์ จัดทำภาพล้อเจ้าชายแฮร์รี ผู้ที่กำลังเขียนบันทึกความทรงจำแชร์ประสบการณ์ชีวิตในช่วงที่อยู่ในรั้ววังของราชวงศ์อังกฤษ ทั้งนี้ เพจซิกส์เปรียบเทียบเจ้าชายแฮร์รีกับนวนิยายเยาวชนเรื่องโด่งดังคับโลก “แฮร์รี พอตเตอร์” (Harry Potter) โดยมีการเพิ่มอักษร L เข้าไป กลายเป็นชื่อฉายาเรียกเจ้าชายแฮร์รี ว่า Harry Plotter หรือก็คือเจ้าชายแฮร์รีเป็นนักแต่งนิยาย ซึ่งนิยายไม่ใช่ความจริง และมีพระชายาเมแกนอยู่เบื้องหลัง
“ทั้งสองยังมองว่าตนเป็นเหยื่อ ความหวังของผมมีอยู่ว่าหนังสือนี้จะออกมาในทางสร้างสรรค์ และจะไม่นำไปสู่การเปิดเผยอะไรมากกว่าที่ผ่านมาที่จะสร้างความเสียหายแก่ครอบครัวของพระองค์” ฟิตซ์วิลเลียมส์กล่าวพร้อมสำทับว่า

“มันยากที่จะดูออกได้แน่นอนว่าเจ้าชาแฮร์รีและเมแกนต้องการอะไร และเราคงไม่ได้ทราบจนกว่าจะได้เห็นเนื้อหาที่ถูกใส่ไว้ในหนังสือบันทึกความทรงจำนี้ อีกทั้งได้เห็นว่าจะมีอะไรบ้างที่จะสร้างความอับอายให้แก่พระบิดาของพระองค์”

“เจ่าชายแฮร์รีกล่าวไว้มากมายเกี่ยวกับการบำบัดรักษา แต่อะไรกันเล่าที่เจ้านายแห่งซัสเซกส์ทั้งสองต้องการจากราชตระกูล?” ฟิตซ์วิลเลียมส์ตั้งคำถามที่ยังไม่มีสื่อรายใดออกมาทายคำตอบ

เดลิเมล์ก็มิได้ให้ความเห็นถึงแรงจูงใจของเจ้าชายแฮร์รี หากชี้ประเด็นว่าข้อตกลงขายลิขสิทธิ์หนังสือเพื่อการจัดพิมพ์เผยแพร่นั้นมีแนวโน้มว่าจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดระหว่างดยุกแห่งซัสเซกส์และเดอะ เฟิร์ม ซึ่งเป็นฉายาที่สื่อมวลชนขนานนามถึงพระราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งเดลิเมล์บอกว่า

เดอะ เฟิร์ม คงจะเตรียมใจกับการเปิดเผยอันน่าเจ็บปวดที่เพิ่มเติมจากเมื่อเฟสแรกซึ่งเจ้าชายแฮร์รีให้สัมภาษณ์แก่รายการโอปราห์ วินฟรีย์ โชว์

เจ้าชายแฮร์รีเสกสมรสกับพระชายาเมแกน มาร์เคิล เมื่อ 19 พฤษภาคม 2018 หลังจากนั้น 1 ปี ก็มีบุตรชาย 1 คน คือน้องอาร์ชี่ ซึ่งในภาพบน เจ้าชายแฮร์รีทรงอุ้มน้องอาร์ชีและประทานอนุญาตให้คณะช่างภาพบันทึกรูปครอบครัว ณ ปราสาทวินเซอร์ เมื่อ 8 พฤษภาคม 2019
อังกฤษสะเทือนหนักแน่กับการแชร์แกมแฉที่คงร้อนฉ่ากว่าเทปสัมภาษณ์สองชั่วโมงเต็มอิ่ม

โรเบิร์ต จ็อบสัน ผู้เขียนหนังสือราชวงศ์ขายดีระดับเบสท์เซลเลอร์ เรื่อง Prince Phillip’s Century หรือหนึ่งศตวรรษแห่งเจ้าชายฟิลลิป วิเคราะห์ว่าหนังสือของเจ้าชายแฮร์รีมีแนวโน้มจะสร้างความโกลาหลแก่สมาชิกในราชตระกูลวินเซอร์ หากเจ้าชายแฮร์รีเล่าเจาะลึกลงรายละเอียดในประเด็นอื้อฉาวที่เปิดเรื่องไว้ในเทปสัมภาษณ์รายการโอปราห์ วินฟรีย์ โชว์ (ซึ่งก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงประเด็นอื้อฉาวเหล่านี้) ทั้งประเด็นสุขภาพจิตของพระชายาเมแกน และประเด็นเหยียดผิวที่ทรงบอกว่าเกิดขึ้นภายในราชวงศ์ระดับพระองค์เจ้าขึ้นไป

เรื่องเหล่านี้จะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อราชวงศ์วินเซอร์ อีกทั้งระบอบกษัตริย์ในฐานะสถาบัน จ็อบสันผู้โด่งดังระบุอย่างนั้น พร้อมกับย้ำถึงปัญหาความแตกแยกระหว่างเจ้าชายสองศรีพี่น้อง ตลอดจนความร้าวฉานในระหว่างเจ้าชายแฮร์รีกับพระบิดา

“จะเชื่อมสะพานเข้าหากันได้อย่างไรในเมื่อเจ้าชายแฮร์รีทำอย่างนี้ ผมมองไม่เห็นเลยว่าความร้าวฉานระหองระแหงในราชวงศ์จะเยียวยารักษาได้ในบริบทใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยขนาดนี้” ร็อบสันกล่าวกับเดลีเมล์

เจ้าชายแฮร์รีและเจ้าชายวิลเลียมเป็นสองศรีพี่น้องที่เติบโตมาด้วยกันอย่างสนิทสนม แต่ทั้งสองพระองค์มีปัญหาระหองระแหงกันอย่างมากมายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมักมีเหตุที่เกี่ยวข้องกับพระชายาเมแกน ทั้งนี้ เจ้าชายแฮร์รีเปิดเผยปัญหาต่างๆ แบบหมดเปลือกในระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการโอปราห์ วินฟรีย์ โชว์
ด้านนักวิพากษ์วิจารณ์บางอื่นๆ บอกเดลีเมล์ว่า คำแถลงของเจ้าชายแฮร์รีทำให้หลายคนต้อง “มองบน” และมีการตั้งข้อสังเกตว่า “เราคิดว่าใครๆ ต่างก็เบื่อที่จะโมโหกับความเคลื่อนไหวของสองคนนี้”

“สองคนนี้ใช้เวลา 18 เดือนที่ผ่านมาทำทุกสิ่งที่เคยสัญญากับควีนเอลิซาเบธว่าจะไม่ทำ กล่าวคือ การหาเลี้ยงชีพจากชีวิตเดิมๆ สถานภาพเดิมๆ ในสมัยที่เป็นสมาชิกแห่งราชวงศ์อังกฤษ” นักวิจารณ์รายดังกล่าววิพากษ์โดยขอให้เดลีเมล์สงวนนาม

คำแถลงของเจ้าชายแฮร์รีบอกว่าจะเขียนถึงความผิดพลาดที่ผ่านมา ตลอดจนบทเรียนที่ได้รับ แต่นักวิจารณ์พากันเลิกคิ้วประมาณว่า แน่หรือ

บรรดาแหล่งข่าวในแวดวงราชสำนักกล่าวว่าพวกตนเชื่อว่าเจ้าชายแฮร์รีไม่เคยเป็นฝ่ายที่เต็มใจยอมรับความผิดใดๆ ทั้งนี้ ตลอดสามปีที่ผ่านมา “ก็มีแต่จะโทษทุกคนยกเว้นตนเองกับพระชายา ว่าเป็นต้นเหตุแห่งความร้าวฉานในราชตระกูล” เดลิเมล์รวบรวมความเห็นจากฝ่ายต่างๆ มาประมวลไว้

เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิลตั้งท่าให้ช่างภาพบันทึกภาพในสวนซันเคน ณ พระราชวังเคนซิงตัน เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่ประกาศหมั้นหมายกันแล้ว
ราชตระกูลสั่นสะเทือนกับข่าวโครงการหนังสือ แต่คงทำใจไว้แล้วว่าต้องออกมาทรงนี้

นิตยสารยูเอส วีกลี (US Weekly) ของฝั่งสหรัฐฯ พาดหัวข่าวว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าชายวิลเลียม “มีความกังวลใจ” ต่อหนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รี ขณะที่ราชตระกูลวินเซอร์แห่งประเทศอังกฤษช็อกและหัวเสียทีเดียว โดยยูเอส วีกลี ระบุว่าหนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รีที่จะวางตลาดในไม่ช้า สั่นสะเทือนราชตระกูลอังกฤษอย่างทั่วถึง และไม่มีสมาชิกแห่งราชตระกูลรายใดจะเตรียมการรับมือ เนื่องจากไม่อาจคาดได้ว่าความลับอะไรจะถูกแชร์หรือถูกสาวไส้ออกมา

“สมาชิกราชตระกูลต่างรู้สึกช็อกและหัวเสียกับข่าวเรื่องหนังสือ” แหล่งข่าววงในรายหนึ่งเผยต่อยูเอส วีกลี เป็นการเฉพาะเจาะจง พร้อมบอกด้วยว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าชายวิลเลียม “มีความกังวลใจเป็นพิเศษว่าหนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รีจะเผยอะไรออกไป” หลังจากที่เจ้าชายแฮร์รีได้ปล่อยถ้อยคำวิพากษ์วิจารณ์ออกมาชุดใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งนั่นก็ถือว่า “ย่ำแย่ทีเดียวเชียว”

แหล่งข่าววงในรายเดียวกันเผยเพิ่มเติมว่า “ยังไม่มีพระองค์ใดได้รับสำเนาต้นฉบับ และจึงไม่สามารถเก็งได้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไร ซึ่งนั่นทำให้แต่ละพระองค์หวั่นผวากันไม่ใช่น้อย”

สมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกับเจ้าชายแฮร์รีและพระชายาเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกส์เมื่อ 26 มิถุนายน 2018 ณ พระราชวังบักกิงแฮม ในกรุงลอนดอน
ด้านโรเบิร์ต จ็อบสัน จอมกูรูกิจการราชสำนักซึ่งให้สัมภาษณ์แก่เดลีเมล์แล้ว ในวันรุ่งขึ้นก็มีสกู๊ปของตนเองไปขึ้นที่เว็บไซต์ข่าวอีฟนิ่ง สแตนดาร์ด โดยรายงานในทางเดียวกับค่ายยูเอส วีกลี แต่มีการเพิ่มพระนามของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ สมทบกับพระนามเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าชายวิลเลียม ว่า “มีความกังวลใจ” ถึงผลกระทบที่ระบอบกษัตริย์อาจได้รับจากหนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งเจ้าชายนักประพันธ์ทรงกล่าวไว้ว่า ขะแชร์ถึง “ความผิดพลาดและบทเรียนที่ได้รับ”

พร้อมกันนี้ จ็อบสันแตะไปถึงประเด็นว่าเจ้าชายแฮร์รีได้แจ้งเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ผู้เป็นพระบิดาให้ได้ทราบถึงโครงการหนังสือบันทึกความทรงจำแล้วหรือไม่ ก่อนที่จะออกมาประกาศข่าวเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งการแจ้งทราบเป็นสิ่งที่ควรที่จะกระทำ

ทั้งนี้ จ็อบสันพูดถึงรายงานข่าวของบีบีซีที่บอกว่าเจ้าชายแฮร์รีได้แจ้งไว้แล้ว แต่ก็มีหลายแหล่งข่าวบอกว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ประหลาดใจเมื่อได้ทราบเรื่องนี้ ในเวลาเดียวกัน เมื่ออีฟนิ่ง สแตนดาร์ดไต่ถามไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของสำนักพระราชวังว่า ราชตระกูลวินเซอร์ได้ทราบมาก่อนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้ตอบว่า

“มันไม่ใช่อะไรที่เกินคาด”

ส่วนค่ายเพจซิกส์ สื่อจี๊ดจ๊าดด้านข่าวราชวงศ์และคนดัง รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวคือโฆษกส่วนตัวของเจ้าชายแฮร์รี ว่าได้บอกกล่าวเรื่องโครงการหนังสือให้ทางบ้านที่อังกฤษทราบเมื่อเร็วๆ นี้ และเจ้าชายแฮร์รีไม่คิดว่าจะต้องได้รับอนุญาตจากพระราชวังบักกิงแฮมในการที่จะตีพิมพ์หนังสือบันทึกความทรงจำ

สำนักพิมพ์เพนกวิน แรนดอม เฮาส์ ประกาศบนทวิตเตอร์เมื่อ 19 กรกฎาคม 2021 เพื่อให้สาธารณชนทราบทั่วกันถึงหนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รี โดยสำนักพิมพ์ได้สิทธิจัดพิมพ์และจำหน่ายทั่วโลกในปลายปี 2022  พร้อมกันนี้ สำนักพิมพ์นำข้อเขียนของเจ้าชายแฮร์รีมาแสดง โดยมีใจควาวมว่า “ผมเขียนเรื่องนี้มิใช่ในสถานะเจ้าชายที่ผมเกิดมา แต่ผมเขียนในสถานะที่ผมได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นตัวผมในปัจจุบัน”
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา : เอพี เอเอฟพี รอยเตอร์ เดอะเฮอร์รัลซัน เดลีเมล์ นิวยอร์กโพสต์ ยูเอสวีกลี อีฟนิ่งสแตนดาร์ด เพจซิกส์ วิกิพีเดีย ทวิตเตอร์)

กำลังโหลดความคิดเห็น