เอพี – องค์การอนามัยโลกชี้ไม่ควรตัดสินโตเกียว โอลิมปิกจากจำนวนผู้ติดโควิด เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พบผู้ติดเชื้อเลย แต่ควรดูว่ามีการรับมือ ควบคุมและตัดวงจรการระบาดได้เร็วแค่ไหน ขณะเดียวกัน ความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการสกัดการระบาดโดยพุ่งเป้าไปที่นักดื่มกลับทำให้คนยิ่งสับสน ต่อต้าน และเพิกเฉยต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวในการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ในวันพุธ (21 ก.ค.) ขณะที่การแข่งขันกีฬาบางประเภทในโตเกียว โอลิมปิกเริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยระบุว่า ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการทำให้แน่ใจว่า มีการระบุ กักตัว ติดตามผู้สัมผัสโรค และดูแลผู้ติดโควิด ตลอดจนยุติวงจรการระบาดได้เร็วแค่ไหน
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดโควิดที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิกจนถึงวันพุธอยู่ที่ 79 คน ขณะที่นักกีฬาต่างชาติจำนวนมากขึ้นตรวจพบติดเชื้อจากในประเทศและไม่สามารถเดินทางไปร่วมแข่งขันได้
แอดฮานอมเสริมว่า ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่การไม่พบผู้ติดเชื้อเลย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มีนักกีฬาที่ตรวจพบติดเชื้อหลังเดินทางถึงญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงในหมู่บ้านนักกีฬาที่โตเกียวเบย์ที่เป็นที่พักนักกีฬาส่วนใหญ่จากทั้งหมด 11,000 คน
เพื่อนร่วมทีมของนักกีฬาที่ติดโควิดซึ่งถือเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดจะยังฝึกซ้อมและเตรียมลงแข่งได้ แต่ต้องแยกซ้อมต่างหากและได้รับการตรวจตราพิเศษ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในญี่ปุ่นเตือนว่า โอลิมปิกอาจกลายเป็น “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” เนื่องจากเป็นที่รวมของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และพนักงานนับหมื่นคนในขณะที่โตเกียวอยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน
ผู้อำนวยการอนามัยโลกยังยกย่องว่า ญี่ปุ่นกำลังส่งกำลังใจและความเข้มแข็งให้ทั่วโลก พร้อมวิจารณ์และท้าทายประเทศมั่งคั่งเกี่ยวกับการแบ่งปันวัคซีนอย่างยุติธรรมมากขึ้น
เทดรอสกล่าวว่า วิกฤตโรคระบาดเป็นบททดสอบที่โลกกำลังสอบตก โดยทำนายว่า จะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกกว่า 100,000 คนก่อนที่โอลิมปิกจะปิดการแข่งขันในวันที่ 8 สิงหาคม และสำทับว่าเป็น “ความอยุติธรรมที่น่าสยดสยอง” เนื่องจากขณะนี้วัคซีนโควิด 75% ที่จัดส่งทั่วโลกเป็นของ 10 ประเทศเท่านั้น
ผู้นำอนามัยโลกเตือนว่า คนที่เชื่อว่า วิกฤตโรคระบาดจบแล้วเพราะประเทศของตนควบคุมการระบาดได้แล้วคือพวกที่อยู่ใน “สวรรค์คนเขลา”
โลกต้องการวัคซีน 11,000 ล้านโดสในปีหน้า และอนามัยโลกต้องการให้ประเทศต่างๆ ช่วยเหลือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ประชากรโลก 70% ภายในกลางปีหน้า แอดฮานอมทิ้งท้ายว่า วิกฤตโรคระบาดจะจบเมื่อโลกเลือกที่จะจบ
ขณะเดียวกัน ความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการสกัดการระบาดโดยพุ่งเป้าไปที่นักดื่ม ขณะที่พิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิกใกล้เข้ามาทุกที กลับทำให้คนยิ่งสับสน ต่อต้าน และเพิกเฉยต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน
ญี่ปุ่นขอให้ร้านอาหารและบาร์ในโตเกียวปิดเวลา 20.00 น. เพื่อลดโอกาสการสัมผัสใกล้ชิดระหว่างคนแปลกหน้าและทำให้ไวรัสโคโรนายิ่งระบาด แต่ดูเหมือนคนไม่ค่อยสนใจสถานการณ์ฉุกเฉินและเลี่ยงไปนั่งดื่มนอกร้านแทน บาร์หลายแห่งในย่านแสงสีของโตเกียวอัดแน่นไปด้วยลูกค้าที่ท้าทายกฎแม้เลยเวลาที่ต้องปิดตามกฎสถานการณ์ฉุกเฉินไปนานแล้ว เช่นเดียวกับร้านอาหารบางแห่งที่ยังเปิดขายอยู่ ขณะที่ร้านสะดวกซื้อที่ได้รับอนุญาตให้เปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีลูกค้าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไปใช้บริการอย่างคึกคักตลอดเวลา
มิโอะ มารุยามะ พนักงานอสังหาริมทรัพย์วัย 28 ปี บอกว่า ไม่มีใครเชื่อเมื่อรัฐบาลจับประชาชนที่นิยมการดื่มมาสังเวยโดยไม่แสดงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ ซ้ำกลับเดินหน้าจัดโอลิมปิก
เธอยังบอกว่า ไม่ได้แหกกฎเพียงเพราะไม่เห็นด้วยกับการที่นักการเมืองพูดอย่างทำอย่าง ซึ่งหมายถึงการที่คน 40 คน รวมถึงนายกรัฐมนตรีและผู้ว่าโตเกียว ร่วมต้อนรับสมาชิกไอโอซีเมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ค.) ทั้งที่ประชาชนทั่วไปถูกห้ามไม่ให้ปาร์ตี้หรือแม้แต่เข้าชมการแข่งขันโอลิมปิกส่วนใหญ่ แต่เป็นเพราะเมื่อเห็นนักการเมืองทำแบบนั้น คนอาจคิดว่า พวกที่แหกกฎทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
นาโอโตะ ซูงะ พนักงานร้านเสื้อผ้าวัย 25 ปีในย่านชินจูกุ นั่งจิบน้ำมะนาวบนม้านั่งริมทางเช่นเดียวกับคนอีกนับสิบที่ยังนั่งดื่มกันอยู่ เขาบอกว่า คนโตเกียวชินกับสถานการณ์ฉุกเฉินทำให้กฎต่างๆ มีความหมายน้อยมาก
ซูงะที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด ยังโจมตีความล่าช้าของโครงการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนหนุ่มสาวที่ถูกกำหนดให้เป็นกลุ่มวัยสุดท้ายที่จะได้รับวัคซีน และขณะนี้มีประชาชนญี่ปุ่นเพียง 20% ที่ฉีดครบสองเข็ม