เอพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ไฟป่าบูตเลก (Bootleg Fire) ขยายขนาดใหญ่เท่าแอลเอ เพิ่มขนาดเกือบ 3,000 เอเคอร์เมื่อวันเสาร์ (17 ก.ค.) ในทางใต้ของรัฐโอเรกอน เป็น 1 ในกว่า 70 ลูกของไฟป่าขนาดใหญ่ที่กำลังลุกไหม้อยู่ในฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ
เอพีรายงานเมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) ว่า ฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ในเวลานี้กำลังประสบปัญหาไฟป่าที่มีไม่ต่ำกว่า 70 ลูกกำลังลุกไหม้เผาผลาญพื้นที่ไป 1,659 ตารางไมล์ อ้างอิงจากศูนย์ประสานงานไฟป่าแห่งชาติสหรัฐฯ (National Interagency Fire Center) ขณะที่สำนักงานป่าไม้สหรัฐฯ (US Forest Service) แค่เขตตะวันตกเฉียงเหนือของชายฝั่งแปซิฟิกสหรัฐฯ มีไฟป่าขนาดยักษกำลังลุกไหม้ถึง 16 ลูก
ซึ่งในปีที่ผ่านมา ไฟป่าทางตะวันตกได้เปลี่ยนทำให้พื้นที่บริเวณนั้นกลายเป็นเสมือนดาวอังคารที่มีท้องฟ้าแดงฉานปกคลุม พร้อมไปกับเขตเบย์แอเรียซานฟรานซิสโก พบกับปรากฏการณ์ฟ้าแลบฟ้าผ่าหลายร้อยครั้งโดยที่ไม่มีฝนตกลงมาและทำให้เกิดเพลิงไหม้
CBS7 ซานฟรานซิสโกรายงานวันจันทร์ (19) ว่า สำนักงานไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับมือคำเตือนที่ออกมาบังคับใช้บางส่วนของพื้นที่เขตเบย์แอเรีย ซานฟรานซิสโกช่วงสุดสัปดาห์ถึงการเกิดฟ้าผ่าฟ้าแลบในช่วงสุดสัปดาห์
โดยคำเตือนจะครอบคลุมระหว่างวันอาทิตย์ (18) เวลา 17.00 น. ไปจนถึงวันจันทร์ (19) เวลา 19.00 น. ทั้งนี้ พบว่าสำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (15) ได้เตือนการเกิดปรากฏการณ์พายุฟ้าผ่าที่ไม่มีฝนตกด้วย พร้อมลมกระโชกที่อาจทำให้เกิดไฟป่าขยายตัวลุกลามไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ไฟป่าบูตเลก (Bootleg Fire) ขยายขนาดใหญ่เท่าแอลเอขยายพื้นที่เพิ่มในวันเสาร์ (17) กว่า 298,000 เอเคอร์ อ้างอิงจากเว็บไซต์ wildfiretoday รายงานเมื่อวานนี้ (18)
โดยเงื่อนไขทางสภาพอากาศแล้ง ร้อน และลมแรงมีส่วนสำคัญต่อพฤติกรรมของไฟป่าบูตเลกวานนี้ (17)
ซึ่งอุณหภูมิวันอาทิตย์ (18) ในบีตตี (Beatty) รัฐโอเรกอน อยู่ที่ 91 องศาฟาเรนไฮต์ และมีความชื้นสัมพัทธ์ 8% ลมกระโชกอยู่ที่ 17 ไมล์/ชั่วโมง ออกมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ 26 ไมล์/ชั่วโมง เป็นเวลา 2 ชั่วโมงในช่วงบ่าย
เอพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้สั่งเพิ่มจำนวนการอพยพออกไปกว่า 2,000 คนของประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตห่างไกลของทะเลสาบและพื้นที่เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า ไฟป่าที่ถูกควบคุมได้เพียงแค่ 22% ทำลายบ้านเรือนไปไม่ต่ำกว่า 67 หลัง และเพิงเก็บของอีกร่วม 100 แห่ง และสิ่งปลูกสร้างอื่นอีกหลายพันหลังตกอยู่ในอันตราย
ไฟป่าอีกลูกที่เกิดในวันพฤหัสบดี (15) ชื่อ เอลโบว์ ครีก (Elbow Creek Fire) ส่งผลทำให้เกิดการอพยพขึ้นที่ชุมชนขนาดเล็กไม่กี่ชุมชนใกล้แม่น้ำแกรนด์ รอนด์ (Grande Ronde river)
ส่วนที่รัฐแคลิฟอร์เนียพบว่าไฟป่าที่บริเวณทะเลสาบทาโฮ (Lake Tahoe) ที่อยู่ทางเหนือได้เข้ามาถึงถนนไฮเวย์ ส่งผลทำให้ต้องมีคำสั่งอพยพ และยกเลิกการแข่งขันจักรยานวิบากเซียร์รา เนวาดา (Sierra Nevada) วันเสาร์ (17)
และไฟป่าทามาแรค (Tamarack Fire) ที่เกิดขึ้นจากฟ้าผ่าในวันชาติสหรัฐฯ (4 ก.ค) เผาไหม้พื้นที่ป่าแล้งไปแล้ว 29 ตารางไมล์ ในเช้าวันอาทิตย์ (18)