รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์เมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ค.) แนะนำหนักแน่นบุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีน โดยเฉพาะคนชราให้อยู่แต่ในที่พักอาศัยมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า อ้างถึงความกังวลระดับสูงเกี่ยวกับความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในชุมชน
ประเทศแห่งนี้รายงานพบเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่ในท้องถิ่น 88 คนเมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ค.) ถือเป็นตัวเลขรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน จากคลัสเตอร์การติดเชื้อที่ขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เชื่อมโยงกับบรรดาร้านคาราโอเกะและท่าเรือประมงแห่งหนึ่ง
แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันของสิงคโปร์คิดเป็นแค่เศษเสี้ยวเดียวของจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในบรรดาชาติเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อได้สร้างความผิดหวังแก่ศูนย์กลางธุรกิจของเอเชียแห่งนี้ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดระยะแรกๆ และเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมเคยรายงานไม่พบเคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวันแม้แต่คนเดียว
ส่วนหนึ่งในมาตรการป้องกันไว้ก่อน ในวันอาทิตย์ (18 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ปิดแผงขายปลาสดและอาหารทะเลตามตลาดต่างๆ ทั่วประเทศ หลังผลตรวจเชื้อชาวประมงหลายคนออกมาเป็นบวก
“เรากังวลว่ายังคงมีห่วงโซ่การแพร่ระบาดลึกลับที่อาจยังคงแพร่กระจายเชื้อภายในชุมชนของเรา ลักษณะของตลาดสดทำให้การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดและการกักโรคเป็นไปได้ยากมาก” กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุในถ้อยแถลง
ราว 73% ในประชากรทั้งหมด 5.7 ล้านคนของสิงคโปร์ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกไปแล้ว แต่รัฐบาลกำลังเร่งฉีดวัคซีนให้คนสูงวัย เนื่องจากบุคคลอายุ 70 ปีขึ้นไปกลายเป็นกลุ่มคนที่มีอัตราเข้ารับวัคซีนต่ำที่สุดที่ราวๆ 71%
เคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นกระตุ้นให้ประเทศแห่งนี้กระชับความเข้มข้นของข้อจำกัดการรวมตัวทางสังคมนับตั้งแต่วันจันทร์ (19 ก.ค.) เป็นต้นไป หนึ่งสัปดาห์หลังจากผ่อนปรนมาตรการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้มีความผันผ่อนมากกว่าเดิมสำหรับบุคคลที่ฉีดวัคซีน
ด้วยอัตราฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและเตรียมการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับไวรัส รัฐบาลสิงคโปร์เผยว่าจะมองข้ามจำนวนเคสผู้ติดเชื้ออาการหนัก ในการตัดสินใจว่าจะกำหนดมาตรการต่างๆ เพิ่มเติมหรือไม่
ปัจจุบันสิงคโปร์มีเคสผู้ติดเชื้อรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 243 ราย ในนั้น 5 รายอาการสาหัสต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และ 1 รายอาการวิกฤตอยู่ในห้องไอซียู
(ที่มา : รอยเตอร์ส)
